Mango Zero

5 ข้อควรรู้ก่อนไป ‘ช้อปช่วยชาติ’ 


เป็นอีกหนึ่งครั้งที่รัฐบาลออกมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปีเพื่อจูงใจให้คนออกไปช้อปปิ้งส่งท้ายปีเพื่อนำรายจ่ายในส่วนนี้ไปลดหย่อนภาษี โดยปีนี้จำกัดการลดหย่อนอยู่ที่ไม่เกิน 15,000 บาทต่อคน และต้องช้อปตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธันวาคมนี้เท่านั้น

คนที่กำลังหาเหตุผลเพื่อซื้อของให้ตัวเอง หรือซื้อของให้คนอื่นช่วงปีใหม่เลยเห็นว่าโอกาสมาถึงแล้วจัดเลยดีไหมจะได้ลดหย่อนภาษี แน่นอนว่าเห็นตัวเลขจำนวน 15,000 บาท แล้วมันช่าวยั่วยวนใจ ลดหย่อนภาษีเงินได้ส่วนบุคคล ประจำปี 2559 ได้เยอะขนาดนี้ปีหน้าน่าจะไม่ต้องจ่ายภาษีเลยสินะ  ไม่! ช้าก่อน มาตรการช็อปลดหย่อนภาษีนั้นมีรายละเอียดที่ควรรู้อยู่บ้าง อย่าเพิ่งออกไปซื้ออะไรตอนนี้ ใจเย็นค่อยๆ อ่าน ค่อยๆ ดูว่ามีข้อควรรู้อะไรบ้างที่ต้องทำความเข้าใจก่อนจะออกไปช้อปช่วยชาติ จะได้ไม่พินาศกระเป๋าเงินตัวเอง

ช้อปเท่าไหร่ ลดเท่านั้นเลยใช่ไหม

ไม่! ใจเย็นๆ ตั้งสติ สูดหายใจลึกๆ รัฐบาลบอกว่าลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาทนั้น ไม่ได้หมายถึงซื้อสินค้าไปเท่าไหร่ก็เอาราคาสินค้าไปลดหย่อนภาษีได้เท่านั้นเลย ผิด! ลดหย่อนในที่นี้ หมายถึงรายจ่ายที่คุณจ่ายไปนั้น ไม่ว่าจะจ่ายไปเท่าไหร่ ก็ต้องนำไปคำนวนการลดหย่อนตามฐานลดหย่อนภาษีที่คุณได้ เริ่มตั้งแต่ 5% – 35% เช่นหากคุณมีรายได้ 300,001 – 500,000 บาทต่อปี ฐานภาษีที่สามารถลดหย่อนได้คือ 10% นั่นหมายถึงหากคุณซื้อสินค้าไปในจำนวน 15,000 บาท ภาษีที่คุณลดหย่อนที่ได้จากสินค้าที่ซื้อไปคือ 1,500 บาท (ก็ไม่ต่างอะไรกับซื้อสินค้าลด 10% โดยที่ส่วนลดนั้นเอาแหละไปลดหย่อนภาษี) หากซื้อสินค้า 150,000 บาทก็ถึงจะได้ลดหย่อน 15,000 บาทนั่นเอง คำนวนดูนะว่าคุ้มไหม?

ดูรายละเอียดเกี่ยวกับฐานภาษีที่สามารถลดหย่อนได้ที่นี่

ใบเสร็จลดหย่อนภาษีได้ไหม

สมมติว่าคุณไม่แคร์ว่าจะได้ลดหย่อนภาษีเท่าไหร่ หรือหากคำนวนมาคุ้มค่าแล้วว่าช้อปเท่านี้ก็จะได้ลดหย่อนภาษีไม่เกินตามที่ตัวเองต้องจ่ายก็ซื้อได้เลย แต่อย่าลืมขอใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปตามมาตรา 86/4 แห่ง ป.รัษฎากร ซึ่งสามารถขอได้จากทุกร้านที่คุณซื้อสินค้า จะนำใบเสร็จไปยื่นให้สรรพากรเพื่อขอลดหย่อนไม่ได้ สรรพกรเขาไม่รับ ใครยังไม่ซื้อของสนองนโยบายก็อย่าลืมขอใบกำกับภาษี แต่ใครที่ซื้อไปแล้วกำใบเสร็จไว้แล้วไปขอออกใบกำกับภาษีย้อนหลังได้

ใครบ้างที่ได้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้

คนที่ได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีนี้ตามนโยบายคือบุคคลทั่วไปที่มีรายได้ต้องเสียภาษีตามฐานภาษีที่กำหนด คนที่รายได้ไม่ถึงเกณฑ์ต้องเสียภาษีจะไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆ จากการช้อปช่วยชาติครั้งนี้เลย ส่วนกลุ่มห้างร้านหรือบริษัท ซื้อของเข้าออฟฟิศมหาศาลก็ใช้ลดหย่อนตามนโยบายนี้ไม่ได้นะจ๊ะ หากรูดบัตรซื้อของเงินผ่อนก็สามารถลดหย่อนภาษีได้เช่นกัน

ซื้ออะไรก็ลดหย่อนได้ใช่ไหม

อย่าเพิ่งออกไปซื้ออะไร แต่มาทำความเข้าใจกันก่อนว่าซื้ออะไรได้บ้าง
สินค้าและบริการที่เข้าข่ายลดหย่อนได้แก่ : เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย กระเป๋า รองเท้า (อะไรที่อยากได้จัดเลยตอนนี้), ค่าอาหารเครื่องดื่มในร้านอาหาร หรือโรงแรม (ยกเว้นเครื่องดื่มแอลกอลฮอล์), ค่าซ่อมรถ หรืออะไหล่รถ, ค่านวดหน้า ทำสปา, อุปกรณ์ไอทีต่างๆ (นี่ก็ทางสะดวก ชอบอะไรจัดเลย อย่างว่อง), ยารักษาโรค, ทองรูปพรรณ หรือ เครื่องใช้ไฟฟ้า, ค่าสินค้าอุปโภคบริโภคบางรายการ (ดังนั้นเข้าร้านสะดวกซื้อก็ขอใบกำกับภาษีได้นะ)

สินค้าและบริการที่ไม่เข้าข่ายลดหย่อยได้แก่ : สุรา (เบียร์  หรือไวน์ ก็นับว่าเป็นสุรานะ),บุหรี่, รถยนต์, รถจักรยานยนต์, บิ๊กไบค์, เรือยอร์ช, เรือบ้าน, เชื้อเพลิง, ทำศัลกรรม, หาหมอ, ซื้อทองแท่ง, ค่าสาธารณูปโภค, ตั๋วเครื่องบิน ตั๋วรถทัวร์ ตั๋วรถไฟ, หนังสือ, หมู เนื้อ ไก่, ประกันชีวิต – ประกันรถ, บัตรของขวัญ, ค่าโรงแรม ฯลฯ

ซื้อของที่ร้านไหนก็ได้ใช่ไหม

เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งคิดว่าซื้อที่ร้านไหนก็ได้แล้วทุกร้านสามารถออกใบกำกับภาษีไปลดหย่อนภาษีได้หมด เพราะหากร้านไหนเป็นร้านที่ไม่ได้จดทะเบียน Vat จะไม่สามารถออกใบกำกับภาษีได้ ดังนั้นต้องถามก่อนเลยว่าร้านที่จะซื้อนั้นจดทะเบียน Vat ไว้หรือเปล่า แต่เพื่อความชัวร์ก็ซื้อจากร้านที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า หรือเป็นร้านใหญ่ที่ไว้ใจได้ ไม่ใช่ซื้อไปแล้วเป็นแสนลดอะไรไม่ได้เลย

อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่ไม่พร้อมจะจับจ่ายช่วงนี้ก็อย่าเพิ่งเฮโลตามไปช้อปอย่างไร้สติเพราะคิดถึงภาษีที่จะได้คืน หากเงินไม่พร้อม และคิดว่าไม่ได้อยากจะซื้ออะไรอย่างจริงจัง ก็ไม่ต้องไปซื้อก็ได้ คิดถึงรายจ่ายที่จำเป็นจริงๆ จะดีกว่า