Mango Zero

เรื่องราวของเราใน 67 วันกับการฝึกงานที่ Mango Zero

       สวัสดี ใครก็ตามที่กำลังอ่านอยู่ เราชื่อเตยปุ้ม นิสิต (กำลังจะขึ้นชั้นปีที่ 4 คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เราสมัครฝึกงานกับแรบบิทดิจิตอลกรุ๊ปในตำแหน่งกราฟิกดีไซน์เนอร์ และได้จับพลัดจับผลูมาเป็นเด็กฝึกงานกราฟิกของ Mango Zero แบบงง 

        ก่อนอื่นต้องขอสารภาพเลยว่า ถ้าที่คณะไม่บังคับให้ฝึกงาน เราก็คงไม่ขวนขวายที่จะหาอะไรมาทำในเวลาว่างแทนที่การนอนดูซีรี่ส์อยู่บ้านอันเป็นที่รัก

       เรายื่นฝึกงานมาเป็นระยะเวลาสองเดือน เราไม่รู้ว่าคนอื่น  เป็นเหมือนกันไหม แต่การฝึกงานในสัปดาห์แรกของเรา พลังชีวิตส่วนใหญ่ถูกใช้ไปกับการปรับตัวซะมากกว่า เย็นวันหนึ่งเรานัดกับเพื่อนร่วมคณะที่แยกย้ายกันไปฝึกงานตามที่ต่าง  เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์การฝึกงานในช่วงแรก  ของแต่ละคน ซึ่งแน่นอน เพื่อนทุกคนต่างพูดถึงข้อเสียของที่ฝึกงานของตัวเองให้ฟัง คนหนึ่งว่า “พี่ไม่รับไหว้ เลยต้องยกมือไหว้เก้อไปซะอย่างนั้น” อีกคนก็ว่า “พี่ไม่ให้งาน เหมือนมานั่งใช้เน็ตออฟฟิศฟรี ” อีกคนบ่น “ฉันไม่มีชุดใส่เลย” (อันนี้เริ่มไม่เกี่ยวเราแลกเปลี่ยนเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากมายในระยะเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์

       เรานั่งฟังเพื่อน  พูดความรู้สึกของตัวเองไป และคิดตามไปว่า ตรงไหนของเพื่อนบ้างที่เหมือนกับที่เราเจอ และตรงไหนบ้างที่ต่าง พอถึงตาที่ตัวเองต้องพูด เราบอกเพื่อนไปว่า พี่ที่ฝึกงานฉันดีมากเลยว่ะ

ถึงตรงนี้ เราจะอธิบายความหมายของ พี่ที่ฝึกงานฉันดีมากเลยว่ะ ของเราให้ฟัง

       ย้อนกลับไปวันที่ฝึกงานวันแรก โจทย์แรกที่พี่  โยนมาให้คือ “ให้เปิดเพจสุขภาพของผู้หญิง” โดยให้เราไปคิดคาแรกเตอร์ของเพจมา ซึ่งไม่ใช่คิดแค่เรื่องรูปลักษณ์ที่ออกมา แต่ให้คิดไปถึงว่าเค้าเป็นคนยังไง ชอบทำอะไร ภาษาที่พูดจะเป็นประมาณไหน ซึ่ง  ตอนนั้นเรารู้สึกว่า เอ้อ เอาแล้ว เกิดมาก็ไม่เคยทำอะไรแบบนี้ ไม่เคยมีความคิดจะเปิดเพจ แล้วยิ่งเป็นเรื่องสุขภาพ โอ้โห อินมากดิฉันเนี่ย BMI หนูเกินมาตรฐานไปเยอะค่ะพี่ ไม่ต้องนับเรื่องไขมันหรือคอเลสเตอรอลเลย แล้วจะให้มาอธิบายวิธีรักสุขภาพให้คนอื่นฟังเนี่ย มันจะทำได้ยังง๊าย

        แต่ก็นั่นล่ะ เมื่อโจทย์มันออกมาแล้ว เราก็ต้องทำให้ได้ เอาวะ มาดูกัน สองเดือนนี้เพจเราจะไปได้ไกลขนาดไหน แล้วพอมาถึงตรงนี้ เพื่อนฝึกงานอีกคนที่ชื่อ “เมย์ยุ่ย” (ซึ่งเป็นคนแปลก ๆ ล้อเล่นนะ อิก็เข้ามาช่วยชีวิต เพราะเมย์ยุ่ยสมัครฝึกงานคอนเทนต์ ทำให้เราสบายขึ้นในส่วนของการหาข้อมูล แถมชีก็เขียนเก่งกว่าด้วย เหมือนมารวมพลังกันทำงานตามที่แต่ละคนถนัด แล้วพอวันนึง เราทำกันไปเรื่อย  จนเพจมันเริ่มมีคนมาไลค์จำนวนหนึ่ง เราก็รู้สึกว่า เออ สุดท้ายแล้วเราก็ทำได้นี่หว่า แค่ตอนแรกมัวแต่กลัวอยู่แค่นั้นเอง


คาแรกเตอร์ดราฟแรกของข้าวเหนียว

คาแรกเตอร์ที่ใช้จริง

        นอกจากให้เปิดเพจ พี่ ๆ ก็ให้ทำคอนเทนต์ใน Mango Zero ด้วยเหมือนกัน สิ่งหนึ่งที่เราประทับใจมาก ๆ (และคิดว่าคงหาได้ยากจากที่ฝึกงานอื่น) คือ “ตารางสิ่งที่อยากจะบรรลุในช่วงฝึกงาน” คือถ้าเราอยากทำอะไร พี่ ๆ จะให้ไปเขียนเอาไว้ในใบนั้น แล้วจะหาโอกาสให้เราได้ทำ ซึ่งเราก็เขียนไปเลยข้อแรกว่า… อยากมีแฟนค่ะ (ล้อเล่นนะ เพราะถ้าเขียนลงไปอย่างนั้น พี่ ๆ ก็คงช่วยอะไรไม่ได้อยู่ดี) (เออ ใช่ แต่เราโสด…)

        แต่เราก็เขียนสิ่งที่อยากทำลงไปนั่นแหละ เช่น อยากทำงานให้เร็วขึ้น อยากเขียนรีวิวหนัง อะไรพรรนั้น แล้วพอสิ่งไหนได้ทำแล้ว พี่ ๆ ก็จะให้ไปติ๊กออกว่า เออ เธอทำได้แล้วนะ แล้วมันก็จะเกิดความรู้สึกว่าเราคอมพลีทไปอีกขั้นหนึ่งแล้วในการฝึกงานครั้งนี้

 

 

 

       จากที่เล่า  มาทั้งหมด เราคิดว่ามวลที่พี่  ทีมนี้ส่งมาถึงเราและทำให้เรารู้สึกดีมาก  คือความใส่ใจ เพราะพี่  จะบอกอยู่เสมอว่า “ไม่อยากให้การฝึกงานครั้งนี้ เราไม่ได้อะไรเลย” แล้วเราก็ “ได้อะไรเยอะมาก ” ไปจากที่นี่จริง  เสียด้วย เราได้ลองทำหลายอย่างมาก  ทั้งกราฟิก ถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอ ดูหนังรอบสื่อ เขียนรีวิวหนัง รีวิวของกิน รีวิวร้านขนม ไปดูคอนเสิร์ต ขับโกคาร์ท แกล้งเพื่อน แอบหลับ ขโมยขนมคนอื่นกิน (หลัง  ฉันว่าเธอทำเองละ พี่ไม่ได้สั่งเรียกได้ว่าสารพัด และเราก็สนุกไปกับมันจนบางครั้งก็ลืมไปเลยว่ามันเป็นการทำงาน

ความใส่ใจ” นี่แหละ คือสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่า “พี่ที่ฝึกงานฉันดีมากเลยว่ะ” 

 

        ที่จริงแล้ว ตอนฝึกงานวันแรก แอบมีแวบหนึ่งที่คิดขึ้นมาว่า อีกตั้งสองเดือน อีกตั้งนานกว่าจะจบ แต่พอมาถึงตอนนี้ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการฝึกงานแล้ว ก็อดรู้สึกใจหายไม่ได้ สองเดือนที่ผ่านมาให้ความทรงจำและประสบการณ์ที่ดีกับเรา เก็บไว้ให้เราได้นึกถึงและเอาไปเล่าให้คนอื่นฟังได้ไปอีกนาน

        ขอบคุณสำหรับ 67 วันที่ผ่านมา ที่ถึงแม้จะไม่ได้ทำให้เรารู้สึกสบายได้เท่ากับการนอนขี้เกียจดูซีรี่ส์อยู่บ้านอันเป็นที่รัก แต่ก็ทำให้เราไม่เสียใจเลยที่เลือกมาฝึกงานที่นี่ แถมยังรู้สึกขอบคุณอีกเสียด้วยซ้ำ ที่อะไรก็ตามทำให้เราได้มีโอกาสฝึกงานที่นี่

แล้วเจอกันอีกเมื่อมีโอกาสนะคะ ชาวมะม่วง 🙂

เปิดรับMango Zero Junior #2 รายละเอียดตามนี้

ใครอยากลองมาเท่ กับพวกเรา อยากฝึกงานจริง อยากทำในสิ่งที่เท่ อยากเหล่หนุ่ม เหล่สาว (ออฟฟิศเราคนหน้าตาดีเยอะ)  ส่งใบสมัครมาได้ที่ mangozero2016@gmail.com  เลยจ้า