อากาศหน้าร้อนเมืองไทยแสนโหดร้าย การออกจากบ้านเหมือนเป็นการแสดงความกล้าอย่างใหญ่หลวง แค่เดินไปเซเว่นหน้าปากซอยยังต้องทำใจอยู่หลายนาทีกว่าจะพุ่งตัวออกจากบ้าน เพราะไอแดดและอุณหภูมิตอนนี้มันช่างโหดร้าย แต่ความร้อนที่เราเจออยู่นี้ มันคือร้อนที่สุดหรือยังกันนะ ? แล้วถ้าอยากผ่านหน้าร้อนนี้ไปแบบไม่ป่วยแดดไปซะก่อนต้องทำอย่างไร ? ตามมาดูกันเลย
ร้อนสุดๆ ที่เราเจอตอนนี้ยังไม่เท่าแม่ฮ่องสอนปี พ.ศ. 2559
นับเป็นสถิติร้อนสุดๆๆๆๆ ที่กรมอุตุฯ ได้บันทึกไว้ว่า 28 เม.ย. ปีดังกล่าวอากาศได้พุ่งไปถึง 44.6 องศาเซลเซียส ร้อนที่สุดในประวัติการณ์ ส่วนกรุงเทพฯ นั้น เคยถูกบันทึกไว้ว่าร้อนที่สุด 40.5 องศาเซลเซียส เมื่อปี พ.ศ. 2556 ที่ผ่านมา มาดูกันว่าปีนี้จะมีการทำลายสถิติเกิดขึ้นหรือไม่ (ขอร้องอย่ามีเลย)
กรุงเทพฯ ก็เคยหนาวต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียสนะ
ไม่น่าเชื่อว่า กรุงเทพฯ ที่ตอนนี้ร้อนเป็นไฟ ก็เคยมีหน้าหนาวให้เราสามารถหยิบเสื้อโค้ทมาใส่นอกห้องแอร์ได้ เพราะกรุงเทพฯเคยหนาวสุดแค่ 9.9 องศาเซลเซียส เท่านั้น !! แต่อันนี้ก็ต้องย้อนไปกว่า 64 ปี ตอน พ.ศ. 2498 นู่นเลย
เตรียมตัวเจอร้อนไม่ให้ไม่วูบ
- ผู้ชายควรระวังอาการขาดน้ำมากกว่าผู้หญิง เพราะผู้ชายมีอาการเสียเหงื่อได้มากกว่าเวลาเจออากาศร้อนทำให้อาการขาดน้ำเกิดขึ้นได้ง่าย จึงควรจิบน้ำตลอด ยิ่งใครต้องทำงานเอาท์ดอร์ด้วย ระวังอย่าให้เกิดการขาดน้ำเด็ดขาด ไม่งั้นอาจเป็นลมหมดสติได้
- ดื่มน้ำเปล่าเสมอ ดังที่กล่าวมาว่าน้ำเป็นสิ่งสำคัญมากกับอากาศที่ร้อนระอุ แต่ไม่ควรทานเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมากเกินไปเช่นกัน รวมไปถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แะคาเฟอีน เพราะจะไปดึงน้ำจากร่างกายให้ขาดน้ำกว่าเดิมนะ
- ใส่เสื้อผ้าสีอ่อนดีกว่าสีเข้ม นั่นก็เพราะดูดความร้อนน้อยกว่านั้นเอง
คาดการอากาศเดือนหน้า เดือนพฤษภาคมจะเป็นอย่างไรมาดูกัน
“บริเวณประเทศไทยตอนบนในช่วงต้นและกลางเดือน ลักษณะอากาศจะแปรปรวน โดยยังคงมีอากาศร้อนอบอ้าวโดยทั่วไป กับมีอากาศร้อนจัดในบางแห่ง กับจะมีฝนฟ้าคะนองหลายพื้นที่ ซึ่งจะช่วยคลายร้อนลงได้บ้าง จากนั้น ฝนจะเพิ่มมากขึ้น โดยจะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางแห่ง โดยเฉพาะภาคตะวันออก และด้านตะวันตกของทั้งภาคเหนือและภาคกลางสำหรับภาคใต้ จะมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนหนักหลายพื้นที่ และหนักมากในบางแห่ง โดยเฉพาะฝั่งตะวันตก คลื่นลมในทะเลอ่าวไทยจะมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนฝั่งอันดามันในบางช่วงจะมีคลื่นสูงประมาณ 2-3 เมตร เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จะเริ่มพัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย โดยจะเริ่มพัดปกคลุมบริเวณภาคใต้ก่อน กับจะมีร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบนในบางช่วง
สรุปในเดือนนี้ คาดว่า ปริมาณฝนรวมส่วนใหญ่จะต่ำกว่าค่าเฉลี่ยร้อยละ 10 ส่วนอุณหภูมิเฉลี่ยส่วนใหญ่จะสูงกว่าค่าปกติ ” โดย กรมอุตุนิยมวิทยา
โดยสรุปก็คืออากาศร้อนเช่นเคย แต่อาจมีเย็นลงบ้างเพราะฝนตกบางพื้นที่แต่อุณหภูมิจะไม่สูงเท่าเดือนเมษายนแล้ว เพราะฉะนั้นสิ่งดีๆ กำลังจะเกิดขึ้นแน่นอน เพียงอดทนรอให้ผ่านอากาศเดือนนี้ไปได้ !!
ขอบคุณที่มาจาก : Everydayhealth , กรมอุตุนิยมวิทยา