1. ทุกเมนูจัดเต็มความพรีเมี่ยม
ต้องบอกเลยว่า คอนเซ็ปของ MK Live นี้คือ ทำเพื่อคนรักสุขภาพโดยเฉพาะ และจะเป็นการรวมข้อดีของสาขาอื่นๆทั่วประเทศมารวมไว้ในสาขานี้ ทำให้เมนูและวัตถุดิบที่นี่จะคัดสรรมาอย่างดีพรีเมี่ยมและสดใหม่ทุกวัน แถมบางเมนูสาขาอื่นก็ไม่มีนะคะ
อย่างเมนูผักส่วนหนึ่งของที่นี่จะเป็นผักออแกนิก หรือผักปลอดสารพิษที่มาจากโครงการหลวงเลยค่ะ จัดวางใส่ถ้วยขาวสะอาด สดใหม่ทุกวันนะ
น้ำซุปมีให้เลือก 5 แบบ คือ ซุปต้นตำรับเอ็มเค ,ซุปน้ำดำ ,ซุปต้มยำมันกุ้ง ,ซุปเต้าเจี้ยว และซุปมิโสะเข้มข้น แต่ว่าสุกี้ยากี้น้ำดำ สไตล์ญี่ปุ่น มีแค่สาขานี้ที่เดียวเท่านั้นนะคะ
ส่วนน้ำจิ้มมี 5 แบบ คือ น้ำจิ้มเอ็มเคสูตรต้นตำรับ ,น้ำจิ้มพอนสึ ,น้ำจิ้มงาญี่ปุ่น ,น้ำจิ้มสุกี้โบราณ และน้ำจิ้มซีฟู๊ดรสเด็ด
เป็ดย่างเมนูเด็ดของร้าน บอกเลยว่าพลาดไม่ได้ อ๊าาา อร่อยเหมือนเดิม ><
หมูตอกไข่นุ่มๆ ก็มาาา ต้องตีๆไข่และจับจุ่มลงน้ำซุป โอ๊ย! ดีเว่อร์ค่าาา
ใครเป็นสายเนื้อต้องฟินมากแน่ๆ เพราะมีเนื้อวากิวญี่ปุ่น A4 ทั้งสันนอก สันใน อันนี้ได้กินแล้ว ละลายในปากจริงค่ะ ไม่เหนียวติดฟันเลย
อย่างที่บอกว่าสาขานี้เขาเน้นวัตถุดิบสดใหม่ บรรดาลูกชิ้น และเกี๊ยวของที่นี่จะปั้นสดใหม่ทุกวันค่ะ จะแตกต่างจากสาขาอื่นที่ส่วนใหญ่จะมาจากโรงงานทำสำเร็จแล้ว
ส่วนเมนูของหวานอันนี้เด็ด! เพราะเขาบอกว่า แทบทุกเมนูคือใหม่หมดไม่มีที่สาขาอื่น และบางเมนูก็เอาของสาขาอื่นมาดัดแปลงด้วย อย่างเมนูไอศกรีมจะเป็นแบบโฮมเมดและออแกนิกด้วยนะ เช่น ไอศกรีมฮันนี่โยเกิร์ต เสิร์ฟพร้อมรังผึ้งและใช้มะนาวตัดความเลี่ยน ทำให้รสชาติออกมากลมกล่อมมากๆเลย >_<
พาร์เฟต์ข้าวเหนียมมะม่วง เมนูนี้คลายร้อนได้ดีเลย แถมรสชาติก็ไม่หวานเลี่ยนไปด้วย
2. มีให้เลือกทั้งหม้อต้มและหมอนึ่ง
MK สาขาทั่วไปก็จะมีแต่หม้อต้มสุกี้ ต้มๆจุ่มๆเท่านั้น แต่สาขานี้เขาเพิ่มหม้อนึ่งมาเป็นช้อยส์ให้ด้วยค่ะ
เขาบอกว่าที่เพิ่มหม้อนึ่งขึ้นมาก็เพื่อสุขภาพของลูกค้า เพราะหม้อนึ่งจะช่วยรักษาคุณค่าทางอาหารได้ดีกว่าการต้ม คือต้มแล้วผักจะเปื่อยๆแล้วละลายหายไปง่าย แต่ถ้าเป็นหมอนึ่ง พวกควันและกลิ่นต่างๆมันจะอบอวลอยู่ในที่นึ่ง ทำให้มีคุณค่าทางอาหารสูงกว่ามากเลย
พนักงานยังแอบกระซิบมาด้วยนะคะว่า เมนูนึ่งๆเนี้ยควรจิ้มกับน้ำจิ้มพอนสึ ไม่ก็น้ำจิ้มงาญี่ปุ่น รสชาติจะเข้ากันมาก ซึ่งลองแล้วก็…. จริงอย่างที่เขาบอกเลยค่ะ
สำหรับเมนูนึ่งจะให้พนักงานนึ่งมาให้ หรือจะนึ่งเองก็ได้นะคะ ใช้เวลานึ่งแค่ 7 นาที ซึ่งพนักงานจะนำนาฬิกาจับเวลามาตั้งให้ดูด้วย
3. บรรยากาศร้านตกแต่งเหมือนอยู่ในฟาร์มผัก
อีกหนึ่งอย่างที่ MK Live แตกต่างจากสาขาอื่นอย่างเห็นได้ชัดคือบรรยากาศร้านค่ะ คือเดินเข้ามานี่ให้ความรู้สึกสบายตา มองไปทางไหนก็เขียว โล่ง ไม่แออัด
ซึ่ง MK Live เขาตั้งใจแต่งร้านให้ได้ฟิลลิ่งเหมือนอยู่ในฟาร์มผักเลยค่ะ แค่ทางที่เดินเข้าไป ก็จะเป็นพื้นกระจก ด้านล่างเป็นผักปลอม
พอมองไปด้านข้างจะเป็นฟาร์มผักที่เขาปลูกจริงๆมาโชว์ เพราะหลังวันที่ 14 มีนาคมเป็นต้นไปจะนำผักที่ปลูกในร้านมาจำหน่ายให้กับลูกค้าด้วย
ยังไม่หมดแค่นี้ทางเข้าร้านด้ายซ้ายมือยังมีครัวเปิด ไว้สำหรับสไลด์เนื้อและปั้นลูกชิ้น เกี๊ยวโชว์กันสดๆด้วย
แม้แต่โซนตรงข้ามร้านไว้สำหรับให้ลูกค้านั่งรอคิว เขายังจัดให้เป็นฟาร์มผักไม่หลุดคอนเซ็ปเลยค่ะ เก้าอี้เยอะ นั่งรอสบายมาก
4. ชุดพนักงานออกแบบใหม่เฉพาะ MK Live
สำหรับชุดพนักงาน MK Live เขาได้ออกแบบมาให้เหมือนกับชุดเข้าฟาร์มเท่ๆ ทั้งพนักงานหญิงและชายจะใส่เอี้ยมสีน้ำเงินและเสื้อเชิ้ตแขนยาว
ที่ออกแบบมาแบบนี้ เพราะอยากให้เหมือนว่าอาหารสดจากฟาร์มจริงๆนะ
สรุป :
- อาหารที่นี่หลากหลาย และมีหลายเมนูที่ไม่มีที่สาขาอื่นเยอะมากค่ะ
- ผักสดจริงสมกับที่เขาการันตี
- บริการดีมาก พนักงานหน้าตายิ้มแย้ม แถมเรียกลูกค้าว่า “คุณผู้หญิง” , “คุณผู้ชาย”
- บรรยากาศดูโล่ง ไม่แออัด และดูสะอาดมากค่ะ
- ในโซนของครัวเปิดทำให้เห็นถึงความสะอาด ทุกขั้นตอนการทำเมนูพนักงานจะใส่ถุงมือตลอด
- ราคาเครื่องดื่มถูกกว่าที่ MK Gold
อย่างที่บอกค่ะ MK Live คอนเซ็ปเข้ามาแนวเพื่อคนรักสุขภาพ วัตถุดิบที่นำมาเสิร์ฟก็จะพรีเมี่ยม ทำให้บางเมนูก็ดูราคาสูงไปนิด แต่ก็ไว้เป็นทางเลือกให้กับใครที่อยากทานเมนูพรีเมี่ยมแบบนี้ ส่วนตัวแล้วถือว่าอร่อยและคุ้มค่าอยู่นะคะ 🙂
ใครสนใจอยากไปลิ้มลองไปได้เลยที่ ห้าง Emquartier โซน Helix ชั้น 6 ค่า