Mango Zero

รีวิว อ้ายคนหล่อลวง

รีวิว อ้ายคนหล่อลวง

‘แฟนเก่าเบี้ยวหนี้ คลาสสิก’
‘หมาป่าอย่างไอ้เพชร ที่มันคิดที่จะเข้าไปขย้ำแกะ ไม่คิดระแวงหรอกว่าแกะจะหลอกมันรึป่าว’
‘คนที่อยู่ในสนามจะไปอ่านเกมออกได้ยังไง’
‘แล้วอย่างพี่ไว้ใจได้ใช่ไหม’

นี่เป็นบทสนทนาของสองตัวละครหลักใน ‘อ้ายคนหล่อลวง’
ที่ดูแล้วมีความหักเหลี่ยมเฉือนคม เหมือนหนังโจรกรรม…ใช่ อ้ายคนหล่อลวง
คือหนังจรชนที่มีภารกิจไปลวงเงินจากเหยื่อ แต่มันเวิร์คไหม สนุกไหม ตามเรามา

อ้าย…ฮู้บ่

“อ้ายคนหล่อลวง” ภาพยนตร์คอมเมดี้ส่งท้ายปีของ “จีดีเอช” จากผู้กำกับฝีมือดี “เมษ ธราธร” ผู้ที่เคยฝากผลงานภาพยนตร์กันมาแล้วอย่าง ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ ในครั้งนี้เขากลับมาเรียกเสียงหัวเราะกันอีกครั้ง กับการตีแผ่แผนกลลวงสุดฮาที่ใครหลาย ๆ คน อาจคาดไม่ถึง ขนาดคนรักที่เราไว้ใจยังหลอกกันได้ แล้วถ้าคุณต้องมาเจอกับมิจฉาชีพที่หน้าตาหล่อเหลาเอาการ คุณจะตกเป็นเหยื่อของความโลภ หรือจะตกเป็นเหยื่อของความรัก…

อ้าย…เป็นไผ

‘ทาวเวอร์’ รับบทโดย ‘ณเดชน์ คูกิมิยะ’ นักต้มตุ๋นคอลเซ็นเตอร์สุดแพรวพราว ที่ดันพลาดท่าถูก ‘อินา’ รับบทโดย ใบเฟิร์น – พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ อดีตสาวแบงค์สุดเพี้ยนจับไต๋ได้

อินาจึงยื่นข้อเสนอให้ทาวเวอร์คิดแผนต้มตุ๋น ‘เพชร’ รับบทโดย แบงค์ – ธิติ มหาโยธารักษ์ แฟนเด็กที่หลอกให้อินาเปย์ค่าเทอมหลายแสนแล้วชิ่งหนี จนอินาเป็นหนี้ท่วมหัว

แต่ภารกิจกลับถูกยกระดับขึ้น เมื่อทาวเวอร์ตัดสินใจเปลี่ยนแผนจากต้มเงินแสน เป็นตุ๋นเงินล้าน งานนี้จึงต้องหาทีมมาช่วยอย่าง ‘ครูนงนุช’ รับบทโดย แหม่ม – คัทลียา แมคอินทอช ครูสมัยประถมของอินา ผู้ที่ร้อนเงินที่สุดในช่วงนี้

และ ‘พี่โจร’ รับบทโดย เผือก-พงศธร จงวิลาส พี่ชายของทาวเวอร์ที่คลานตามกันออกมาจากคุก แถมยังได้ ‘แซมซั่น’ รับบทโดย เต๋อ – ฉันทวิชช์ ธนะเสวี ที่ต้องตกมาอยู่ในภารกิจจับหมาป่าครั้งนี้กับเขาอีกด้วย

อ้าย…ม่วนบ่?

หลายคนคงเคยชมตัวอย่างที่ปล่อยออกมากันบ้างแล้ว แต่ขอบอกเลยว่ามันเป็นเพียงแค่น้ำจิ้มเท่านั้น ตัวภาพยนตร์เต็มเรื่องจริงๆถือว่าทำออกมาได้คอมมาดี้สุดๆ สมแล้วที่เป็นภาพยนตร์ส่งความสนุก เรียกเสียงหัวเราะเฮฮากันปลายปีจากจีดีเอช 

ด้วยความที่ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดยเมษ กลิ่นอายจาก ATM เออรัก เออเร่อ ก็ยังคงมีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นตัวธนาคารอย่าง JNBC เองก็มาปรากฎในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย

ที่น่าชมคือนักแสดงทุกคนเล่นดีมาก โดยเฉพาะคู่พระนาง ‘ณเดชน์ คูกิมิยะ’ และ ‘ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก’ ถือว่าเคมีความฮาดูเข้ากันได้ดีมาก  สำหรับใบเฟิร์น เธอเล่นออกมาได้แบบไม่ห่วงสวย และทำให้เราเชื่อได้ว่า สาวนคนนี้เป็นแกะที่โดนหลอกและเสียค่าโง่ได้อย่างแนบเนียน (ฉากปล่อยผมในตำนานที่เห็นในตัวอย่าง พอดูในหนังจริงๆ ก็ยิ่งรู้สึกว่า…คลาสิก)

ขณะที่การแสดงของณเดชน์ ต้องบอกว่าเป็นธรรมชาติแบบสุดๆ ทุกฉากที่ณเดชน์ โผล่ออกมา ไม่มีข้อกังขาในการแสดงของเขาเลย โดยเฉพาะการเป็นนักต้มตุ๋น เนียนกริ๊บ! (แต่ถ้าหามว่าเราชอบฉากไหน แนะนำฉากซิ่งรถเฟอร์รารี นั่นคือสุดยิดการแสดงของณเดชน์ ในหนังเรื่องนี้เลย)

สาเหตุที่นักแสดงรีดความสามารถในการเล่นออกมาได้ขนาดนี้ ในบทสัมภาษณ์ของเบื้องหลัง ณเดชน์ เล่าว่า ผู้กำกับเปิดโอกาสให้นักแสดงลองเล่นโดยการตีความตัวละครนั้นๆ เอง นอกเหนือจากเล่นตามบท บางฉากก็เล่นไป 4 – 5 แบบ

แต่ในเรื่องของความโรแมนติกนั้นยังดูไม่ค่อยสุดกันไปหน่อย อาจจะด้วยบทที่ไม่ได้ทำให้ทั้งคู่ได้มีโอกาสโรแมนติคมากนัก แต่ๆๆๆ มันก็มีฉากน่ารักให้เราได้อมยิ้มในคู่นี้และแอบเอาใจช่วยอยู่นะ

ในส่วนของอีกตัวละครที่มีสเน่ห์ดึงดูดกันสุดๆต้องยกให้กับพี่แหม่ม คัทลียา ที่ตีบทออกมาได้เลิศมาก มีความเฟี้ยต ความคลั่งสมกับคาแรคเตอร์ทั้งสองบทบาทที่ได้รับในเรื่องนี้

ต้องเล่าว่าพี่แหม่ม รับบทเป็นตัวละครครูสอนภาษาจีนที่มีความซื่อๆ แต่เหตุการณ์นำพาให้เธอต้องมาเนียนเป็น CEO สาวบริษัทเบียร์จีนหลิ่งหวู่ (ซึ่งไม่มีจริงๆ) และจะต้องเป็นนักต้มตุ๋นมือสมัครเล่นที่ต้องหลอกเหยื่อให้ตายใจ

บทส่งมาขนาดนี้ก็ต้องเล่นให้เนียบใช่ไหม…ซึ่งพี่แหม่มก็เก็บได้ทุกเม็ด แต่ว่าจุดที่เป็นบทฮา บทโก๊ะๆ ก็ต้องบอกว่าพี่แหม่มเนียนมาก จนรู้สึกเอ็นดูพี่แหม่ม ในฐานะหนังเรื่องแรกของเธอ ถือว่าสอบผ่านแบบไร้ข้อโต้แย้ง

สรุปแล้วควรไปโดน ‘คนหล่อ’ มา ‘ลวง’ สักรอบไหม

โดยรวมถือได้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ทำการบ้านออกมาได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการตีแผ่กลเม็ดของเหล่ากลโกงในไทยหลากหลายวิธี

เบื้องหลังของบทเรื่องนี้ใช้เวลาทำบทประมาณ 2 ปีจากการศึกษาพฤติกรรมนักต้มตุ๋นจริงๆ นั่นทำให้ความเนียนของหนังเรื่องนี้ ความสมจริง ไม่ได้เวอร์ หรือเกินจริงไปเลย เพราะนั่นเป็นพฤติกรรมจริงๆ ที่เราเห็นตามหน้าข่าว

แต่พอเอามาทำเป็นหนัง แม้นั่นจะเป็นพฤติกรรมที่หลอกลวง แต่ว่าเรากลับเอาใจช่วยในภารกิจนี้ เหมือนกับที่เราเอาใจช่วตัวเองในหนังจารกรรม เช่น Ocean’s Twelve หรือ Now You See me ยังไงยังงั้น 

และอย่างที่บอกว่า บทเรื่องนี้ทำมาจากคดีจริง ดังนั้นถ้าคุณได้ไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว อาจจะต้องกลับมาสำรวจดูว่าบางทีเราอาจจะตกเป็นเหยื่อของเหล่ามิจฉาชีพโดยไม่รู้ตัวก็เป็นได้ !