สธ. เตรียมแนวทางจับคู่เดินทาง (Travel Bubble) กับประเทศที่มีความเสี่ยงโรคโควิด 19 ต่ำ เผย 2 ประเทศยื่นหนังสือเป็นทางการ มาพิจารณาและเจรจากันเป็นคู่ประเทศ
25 มิ.ย. 2563 ณ ศูนย์ปฏิบัติการด้านข่าวโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี ประธานคณะกรรมการประมวลสถานการณ์กระทรวงสาธารณสุข (MIU) กล่าวถึง ข้อเสนอการเดินทางรูปแบบ Travel bubble ว่า ประเทศไทยได้มีมาตรการเฝ้าระวังโรคCovid-19 ทำให้ขณะนี้ไม่พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศติดต่อกัน 31 วัน
เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างระบบเศรษฐกิจสังคมและความปลอดภัยของประชาชนในประเทศ รัฐบาลได้มีนโยบายเตรียมจับคู่เดินทางระหว่างสองประเทศที่สามารถจัดการเรื่อง Covid-19 ได้ดีเท่า ๆ กัน (Travel Bubble)
โดยมีหลักการคือ จับคู่ประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์
กำหนดกลุ่มบุคคลที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น นักธุรกิจ ผู้เชี่ยวชาญ ครูนานาชาติ และเป็นกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่ำ ซึ่งจะต้องมีแผนการทำกิจกรรมที่ชัดเจน
นอกจากนี้ยังได้กำหนดมาตรการของขั้นตอน ตั้งแต่ประเทศต้นทาง คือ
- ผู้เดินทางต้องอยู่ในประเทศกลุ่ม Travel bubble ไม่น้อยกว่า 14 วันก่อนเดินทาง
- ได้รับการตรวจคัดกรองโควิด 19 ภายใน 72 ชั่วโมงก่อนขึ้นเครื่อง
- ทำประกันภัยครอบคลุมการตรวจรักษาโควิด 19
- ได้รับใบอนุญาตเดินทาง/ วีซ่า (Travel certificate/Visa) จากสถานทูตไทย
- ขณะเดินทาง ต้องปฏิบัติตามแนวทางที่สายการบินกำหนด สวมหน้ากากตลอดเวลา ลด/เลี่ยงการสัมผัสระหว่างผู้โดยสารด้วยกัน
- ลูกเรือ-ผู้โดยสาร เมื่ออยู่บนเครื่องหากมีอาการไอ จาม มีน้ำมูกจะต้องแยกโซนที่นั่งจากผู้โดยสารอื่น และลูกเรือมีชุด PPE สำหรับเมื่อมาถึงประเทศไทย กำหนดสนามบินที่กรุงเทพฯ หรือสัตหีบ และแยกโซนไม่ปะปนกับผู้โดยสารภายในประเทศ มีคัดกรอง ตรวจหาเชื้อโควิด 19 ซึ่งจะต้องเพิ่มขีดความสามารถและความรวดเร็วของการตรวจ
- ผู้เดินทางเข้าทุกคนต้องมี Application DDCCare, หมอชนะ และใช้สมาร์ทโฟน ที่มีระบบ GPS/Bluetooth/4G เดินทางไปด้วยรถโรงแรมเท่านั้น ซึ่งต้องเป็นโรงแรม/ที่พักที่ระบุไว้ มีระบบส่งต่อกับโรงพยาบาลคู่สัญญาดูแลรักษา
- ผลตรวจเชื้อ Covid-19 เป็นลบจึงเดินทางไปทำกิจกรรมได้
- ขณะอยู่ในประเทศไทย ต้องติดตามตัวได้ตลอด และสังเกตอาการตัวเองหากป่วยให้พบแพทย์ หรือโทรปรึกษาทางสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422
ขณะนี้มีหลายประเทศแสดงความสนใจ และมี 2 ประเทศที่ส่งหนังสืออย่างเป็นทางการและระบุรายละเอียดการดำเนินงาน คือ จีน และญี่ปุ่น ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุข จะนำข้อเสนอของประเทศต่าง ๆ มาพิจารณาและเจรจากันเป็นคู่ประเทศ เพื่อจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ โดยจะเสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบต่อไป
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ