Mango Zero

6 เหตุผลที่ทำให้คุณไม่ควรพลาด “PRODUCE 48” เมื่อไอดอลที่คุณพบได้ x ไอดอลที่คนทั้งประเทศเป็นผู้เลือก

เดือนมิถุนายน 2018 นับเป็นการครบรอบ 1 ปีกับการเขียนถึงปรากฏการณ์ #PRODUCE101 ในซีซั่นที่แล้ว (รวดเดียวจบ! รู้จักปรากฎการณ์ #PRODUCE101 ก่อนไปลุ้นผลบอยแบนด์แห่งชาติ 11 คนสุดท้ายพร้อมกัน คืนนี้!

และนั่นหมายความว่าในเวลานี้ การออกอากาศรายการ PRODUCE 101 ในซีซั่นที่ 3 ภายใต้ชื่อ “PRODUCE 48” ได้เริ่มการแข่งขันขึ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ความร้อนแรงของการแข่งขันในปีนี้เริ่มต้นมาตั้งแต่การประกาศโปรเจค PRODUCE 48 กลางงานประกาศรางวัล 2017 Mnet Asian Music Awards (หรือ 2017 MAMA) ที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้ว ด้วยการเปิดตัวโชว์พิเศษที่ขึ้นแสดงร่วมกันระหว่าง AKB48 และศิลปินไอดอลจากเกาหลีใต้ซึ่งมีสมาชิกในวงที่เคยแจ้งเกิดผ่านเวที Survival ของ Mnet มารวมตัวกัน นับว่าเรียกเสียงฮือฮาจากแฟนๆของทั้ง 2 ฝั่งตั้งแต่วันนั้น จนทำให้ซีซั่นที่ 3 ซึ่งเป็นการกลับมาค้นหาเกิร์ลกรุ๊ปอีกครั้งของ PRODUCE 101 มาในภาพลักษณ์ใหม่ที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าเดิม (รายการ PRODUCE 101 จะค้นหาไอดอลกรุ๊ปแห่งชาติในแต่ละซีซั่น สลับกันปีต่อปีระหว่างการคัดเลือกเกิร์ลกรุ๊ปและบอยแบนด์)

และนี่คือตัวอย่างบางส่วนสำหรับใครที่กำลังตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมเป็นโปรดิวเซอร์แห่งชาติ” (= ชื่อเรียกผู้ชมรายการ PRODUCE 101 ที่จะทำหน้าที่โปรดิวเซอร์ผู้คัดเลือกไอดอลกรุ๊ปแห่งชาติในแต่ละซีซั่น ผ่านการโหวตให้กับเด็กฝึกหัดที่ชื่นชอบ) กับ 6 เหตุผลที่ทำไมเราถึงไม่ควรพลาดรายการ PRODUCE 48

PRODUCE 101 กับการครองตำแหน่ง Content Platform ในการปั้น Idol Group ที่แข็งแกร่งที่สุดในเกาหลีใต้

ความร่วมมือระดับเอเชียที่พร้อมจะดูแลเกิร์ลกรุ๊ประดับโลก

พัฒนาการ และ การเอาใจช่วยจากผู้ชม” = หัวใจความสำเร็จที่แท้จริงของรายการ Survival

ไอดอลที่คุณพบได้” x “ไอดอลที่คนทั้งประเทศเป็นผู้เลือก” = โครงสร้างรางวัลของเด็กฝึกผู้ชนะ PRODUCE 48

“ONE DREAM” กำแพงที่กำลังจะหายไป เหลือเพียงเด็กฝึกหัดและผู้ชมที่มีความฝันร่วมกัน

PRODUCE 48 การแข่งขันที่เพิ่งจะเริ่มต้น

ในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ การออกอากาศในตอนที่ 3 ของ PRODUCE 48 จะเข้าสู่บรรยากาศของการแข่งขันที่แท้จริง หลังอุ่นเครื่องมาแล้วในรอบ Audition ซึ่งเด็กฝึกหัดทุกคนได้รับการตัดเกรด A-F จากคณะกรรมการจากโชว์ที่แต่ละคนเตรียมตัวมาเอง

เมื่อเข้าสู่ภารกิจแรกของรายการ เด็กฝึกหัดทุกคนจะต้องฝึกฝนการแสดงเพลง Pick Me ซึ่งเป็นเพลงธีมของรายการในปีนี้ แถมยังมีความท้าทายใหม่ คือ การฝึกร้องและเต้นในทั้งภาษาเกาหลีและญี่ปุ่น ภายในระยะเพียงเวลา 3 วันเท่านั้น ก่อนจะถ่ายทำ VDO เดี่ยวเพื่อส่งเข้ารับการ Re-grade จากคณะกรรมการซึ่งจะเป็นการประกาศเกรดครั้งสุดท้าย และบอกถึงตำแหน่งยืนของเด็กฝึกหัดแต่ละคนบนเวทีในการถ่ายทำ Music Video และขึ้นแสดงในรายการต่างๆ โดยพื้นที่ที่ดีที่สุดเท่านั้นที่จะการันตีสปอตไลต์จากเหล่าโปรดิวเซอร์แห่งชาติ และจะมีผลอย่างยิ่งต่อการโหวตจัดลำดับที่กำลังจะเกิดขึ้น ก่อนจะเข้าสู่ภารกิจในรอบถัดไป

โดยเราจะทราบผลเกรดสุดท้ายของเหล่าเด็กฝึก และการเตรียมตัวรับภารกิจใหม่กันในตอนที่ 3 นี้

อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ ก็คงได้เวลาที่เราจะได้เริ่มทำหน้าที่โปรดิวเซอร์แห่งชาติ (อีกครั้ง) ด้วยการเปิดดูรายการและค้นหาเด็กฝึกหัดที่ชื่นชอบกันแล้วค่ะ

It’s Showtime ! 😀