Mango Zero

ไฟป่าออสเตรเลียเกิดจากอะไร ทำไมจึงลุกลาม

ภาพน้องๆ สัตว์ป่าที่ได้รับผลกระทบจากไฟไหม้ป่าในออสเตรเลียบนหน้าไทม์ไลน์ ทำให้ทั่วโลกต่างหดหู่ และร่วมส่งกำลังใจ พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือออสเตรเลียจากเหตุการณ์ไฟไหม้ป่าอย่างเต็มที่ 

วิกฤตการณ์ไฟป่าในออสเตรเลียเริ่มขึ้นตั้งแต่เดือน ก.ค. 2019 ที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ ส่วนรัฐวิกตอเรีย เกิดไฟป่าตั้งแต่ปลายเดือน พ.ย. 2019 ก่อนจะรุนแรงขึ้นในช่วงต้นเดือน ม.ค. 2020

ในปี 2009 ออสเตรเลียเคยประสบกับไฟป่ารุนแรงมาแล้วในรัฐวิกตอเรีย มีผู้เสียชีวิต 2 ราย นับเป็นไฟป่าครั้งแรงที่สุดของประเทศ จนได้ชื่อว่าเป็น “Black Saturday”    

อุณหภูมิสูงสุดที่สุดในรอบ 80 ปี

หลายพื้นที่ของรัฐนิวเซาท์เวลส์และวิคตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย เผชิญกับอุณหภูมิสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ของนครซิดนีย์เมืองหลวงของนิวเซาท์เวลส์มีอุณหภูมิสูงถึง 45 องศาเซลเซียส 

กรุงแคนเบอร์ร่า มีอุณหภูมิสูงทำลายสถิติถึง 44 องศาเซลเซียส นับว่าเป็นอุณหภูมิที่สูงที่สุดในรอบ 80 ปี

ข้อมูลจากสำนักอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลียเปิดเผยว่า เมื่อ ธ.ค. 2019 อุณหภูมิในออสเตรเลียสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 2 ครั้ง คือวันที่ 17 ธ.ค. 2019 มีอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 40.9 องศาเซลเซียส และขึ้นสูงเป็น 41.9 องศาเซลเซียสในวันที่ 18 ธ.ค. 2019

ภัยแล้งรุนแรงต่อเนื่อง 

เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนแห้งแล้งหลายเดือน ส่งผลให้เกิดไฟไหม้ป่าหลายสิบจุดทั่วรัฐนิวเซาท์เวลส์

ทั้งบริเวณพุ่มไม้ ป่าบนเขา และอุทยานแห่งชาติวอลเลมไม และลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียง          

กระแสลมแรง

ไฟป่าในพื้นที่หนึ่งสามารถทำให้เกิดไฟไหม้ได้ในอีกพื้นที่หนึ่ง โดยควันไฟจะพัดพายุฝนไปพื้นที่อื่น เกิดฟ้าผ่าลงบริเวณใบไม้ กิ่งไม้แห้ง ทำให้เกิดไฟไหม้ต่อเนื่องไปอีก จนควบคุมไม่ได้ นอกจากนี้กระแสลมและพายุฟ้าผ่ายังเป็นอุปสรรคต่อการควบคุมไฟป่า

เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2020 กลุ่มไฟป่า 3 กลุ่มบริเวณรัฐวิกตอเรียได้รวมตัวกลายเป็นไฟป่าขนาดใหญ่ ซึ่งอาจใหญ่กว่าเขตแมนฮัตตันของนิวยอร์ก

ไฟป่าขนาดใหญ่สร้างภูมิอากาศได้เอง 

ควันไฟร้อนที่ลอยตัวขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ ส่งผลให้ควันเย็นตัว จับกลุ่มกับไอน้ำ เกิดเป็นฝนฟ้าคะนอง และลมพายุแนวดิ่ง เกิดฟ้าผ่ารุนแรง ซึ่งจะเป็นสาเหตุให้เกิดไฟป่าลุกลามไปในส่วนอื่นๆ 

ผลกระทบ

ที่มา posttoday, thestandard, bbc, sydney.edu.au, pptvhd36