Mango Zero

เกาะเสม็ดเสร็จแน่! วิกฤตการณ์ปัญหาขยะบนเกาะ เรื่องใกล้ตัวที่ทุกคนต้องช่วยกัน

เกาะเสม็ดถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้ามาชื่นชมความงามบนเกาะแห่งนี้ไม่ต่ำกว่าปีละ 1,000,000 คน ซึ่งสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยและจังหวัดระยองเป็นจำนวนมาก

ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวที่มหาศาลทำให้หลายปัญหาตามมาเช่นกัน อย่างที่เรารู้กันคือในเรื่องของปริมาณขยะ ตั้งแต่ขวดน้ำ, ถุงพลาสติก, กล่องโฟม, ขวดแก้ว และอีกหลายสิ่งที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ทั้งบนเกาะและในทะเล ซึ่งส่งผลอย่างมากกับสภาพของทะเลอ่าวไทย

ปริมาณขยะบนเกาะเสม็ดมีมากกว่า 200 ตัน บางส่วนถูกนำไปรีไซเคิล แต่ขยะส่วนใหญ่บนเกาะเสม็ดจะถูกพักไว้ในหลุมขยะซึ่งมีพื้นที่เพียง 4 ไร่ ซึ่งถ้าปริมาณขยะจากนักท่องเที่ยวยังเป็นแบบนี้อยู่ กระบวนการกำจัดขยะจะไม่สามารถจัดการได้ทัน เพราะหลุมนี้จะรองรับขยะได้อีกเพียง 2 ปีเท่านั้น รวมไปถึงการขนย้ายเพื่อนำขยะออกจากเกาะ จำเป็นต้องใช้งบประมาณมหาศาลมาก

 

Facebook “อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด” ได้เคยเปิดเผยตัวเลขที่น่าตกใจว่า ใน 1 วันเกาะเสม็ดมีนักท่องเที่ยวมากกว่า 1,500 คน และนักท่องเที่ยว 1 คนจะใช้ถุงพลาสติกประมาณคนละ 8 ชิ้น

ดังนั้นใน 1 วัน เกาะเสม็ดจะมีถุงพลาสติกที่ถูกใช้แล้วทิ้งประมาณ 12,000 ชิ้น ซึ่งตรงนี้ถ้านักท่องเที่ยวช่วยกันลดการใช้ถุงพลาสติกจะช่วยบรรเทาปริมาณขยะลงไปได้เยอะมากๆ

 

รณรงค์ให้นักท่องเที่ยวงดใช้ถุงพลาสติกและกล่องโฟมบนเกาะเสม็ด

เกาะเสม็ดไม่ได้แย่ แต่รอรับการเยียวยา เมื่อปัญหาปริมาณขยะเกิดขึ้นจากการแจกจ่ายถุงของผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวที่ใช้ถุงพลาสติกในตรงนี้เราสามารถช่วยกันได้ เพียงแต่ต้องสร้างแรงกระเพื่อมเพื่อให้นักท่องเที่ยวรับทราบถึงปัญหานี้

เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2561 ณ บริเวณหน้าที่ทำการ “อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด” หาดทรายแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยองเปิดงานโครงการ “ทำความดีด้วยหัวใจ ลดภัยสิ่งแวดล้อม ภายใต้กิจกรรม การงดใช้ถุงพลาสติกหูหิ้ว และห้ามใช้โฟมบรรจุอาหารเข้าเกาะเสม็ด”

ในส่วนของชาวบ้านและผู้ประกอบการบนเกาะเสม็ดรับทราบปัญหาขยะพลาสติกเป็นอย่างดี และให้ความร่วมมือกับโครงการนี้อย่างจริงจัง

ในช่วงเช้าของวันที่เปิดตัวโครงการนั้นผู้ประกอบการและชาวบ้านในเกาะเสม็ดหลายท่านพร้อมใจกันหยุดงาน รวมไปถึงพนักงานร้าน “เซเว่นอีเลฟเว่น” ก็มาร่วมกิจกรรมเดินรณรงค์สร้างความตระหนักถึงปัญหาขยะภายในเกาะ ตั้งแต่บริเวณใกล้กับรูปปั้นผีเสื้อสมุทรไปจนถึงหน้า “อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด”

 

บริเวณ “อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด” มีผู้ให้ความสนใจร่วมกันลงชื่อเพื่องดการใช้ถุงพลาสติกและโฟมบรรจุอาหาร ซึ่งผู้ที่ร่วมลงชื่อจะได้รับถุงผ้าและขวดน้ำจากทางโครงการเพื่อให้ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวนำไปใช้ในชีวิตประจำวันแทนการใช้ถุงพลาสติกหูหิ้ว

ความน่าปลื้มใจคือทางชาวบ้านที่เกาะเสม็ดตระหนักในเรื่องสิ่งแวดล้อมและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีมากๆ

 

ซีพี ออลล์เดินหน้านโยบาย 7 GO Green

ต่อเนื่องไปยังโครงการ “รักษ์เกาะเสม็ด ร่วมใจเลิกใช้ถุงพลาสติก” ของทาง ซีพี ออลล์ ที่ให้ร้าน “เซเว่นอีเลฟเว่น” เชิญชวนลูกค้าและบุคคลทั่วไป ลดและเลิกใช้ถุงพลาสติก โดยในปีนี้ได้ดำเนินกิจกรรมมาแล้ว 5 เกาะ อันได้แก่ เกาะเต่า, เกาะยาวน้อย ยาวใหญ่, เกาะลันตา, เกาะหลีเป๊ะ และเกาะเสม็ด

 


ภาพจาก Facebook : 7-11 Fanclub

โดยร้าน “เซเว่นอีเลฟเว่น” ทุกสาขาบนเกาะเสม็ดนั้น ได้งดการแจกถุงพลาสติกอย่างเด็ดขาด ลูกค้าที่มาซื้อสินค้าและใช้บริการจำเป็นต้องพกถุงผ้าติดตัวมาเอง รวมไปถึงยกเลิกแคปซีล (การใช้พลาสติกหุ้มฝาขวดนํ้าดื่ม), ยกเลิกการใช้พลาสติกหุ้มหลอด โดยใช้กล่องใส่หลอดกดแทน, การตั้งถังขยะแยกประเภทบริเวณหน้าร้าน “เซเว่นอีเลฟเว่น” ทุกสาขา

เพื่อสนับสนุนแนวทางการจัดการขยะตั้งแต่ต้นทางเพื่อชุมชน ร้าน “เซเว่นอีเลฟเว่น” ติดตั้งสื่อส่งเสริมให้ลดใช้ถุงพลาสติก รวมทั้งจัดกิจกรรมร่วมกับเยาวชนและชุมชนรณรงค์ลดและเลิกใช้ถุงพลาสติก เพื่อก่อให้เกิดพลังในชุมชนให้ร่วมแรงร่วมใจกัน

 

ในส่วนนี้นอกจากจะช่วยลดปัญหาขยะพลาสติกลงแล้ว ยังช่วยให้นักท่องเที่ยวตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้น นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเองก็เห็นด้วยและเข้าใจในส่วนนี้ พร้อมกับให้ความร่วมมือกับโครงการนี้เป็นอย่างดี

 

ทุกอย่างเริ่มต้นที่ตัวเราเอง อาจจะไม่ต้องถึงกับหักดิบเลิกใช้พลาสติกในทันที แต่ค่อยๆ ทำในทุกครั้งที่เราสะดวก คิดง่ายๆ ว่าหนึ่งวันเราลดการใช้ถุงพลาสติกไปได้ 5 ถุง มีคนในประเทศทำได้หนึ่งล้านคน ประเทศเราจะมีปริมาณขยะพลาสติกลดลงถึงปีละ  1,825 ล้านกว่าชิ้นเลยทีเดียว

พลาสติกหนึ่งชิ้นใช้เวลาในย่อยสลาย 450 ปี เรียกว่าตั้งแต่มนุษยชาติมีการใช้พลาสติกนั้น พลาสติกชิ้นแรกยังไม่ถูกย่อยสลายไปเลยด้วยซ้ำ และไม่ใช่แค่เพียงบนเกาะเสม็ดเท่านั้น เราควรช่วยกันลดการใช้โฟมและพลาสติกเพื่อให้ทรัพยากรธรรมชาติที่สวยงามคงอยู่ถึงรุ่นลูกหลานเราต่อไป