หลังจากที่ KBank ออกแอปใหม่ที่ชื่อว่า K PLUS Beacon ซึ่งเป็นบริการโมบายแบงกิ้งสำหรับคนตาบอดที่สามารถใช้งานได้โดยมีระบบเสียงคอยช่วยอำนวยความสะดวกทุกขั้นตอน ซึ่งทาง KBank บอกมาว่าใช้งานง่ายจริงๆ แม้ไม่ใช่คนตาบอดก็ใช้งานได้
ในเมื่อเคลมกันมาขนาดนี้ บวกกับเราได้มีโอกาสทดลองใช้แอป K PLUS Beacon จริงๆ จะมานั่งดูเขาใช้ก็กระไรอยู่ใช่ไหมละ เลยทดสอบปิดตาลองใช้แอป K PLUS Beacon เองเลย จะได้รู้ว่าใช้ง่ายจริงไหมว่าแล้วทีมงานของ KBank ก็จัดผ้าปิดตามาให้เราชุดหนึ่งแล้วทดสอบใช้งานทันที
6 ฟังก์ชันเด่นของ K PLUS Beacon
แต่ก่อนใช้งานมาดูฟังก์ชันเบื้องต้นของ K PLUS Beacon เบื้องต้นก่อนว่าทำอะไรได้บ้าง
- บันทึกรายการโปรดได้เพื่อความง่ายในการทำรายการโดยใส่ได้ทั้งชื่อ หรือใส่แค่เบอร์โทรของรายการโปรดก็ได้
- โอนเงินได้ผ่านการใส่เลขบัญชี, เบอร์โทรศัพท์ หรือพร้อมเพย์
- สอบถามยอดเงินคงเหลือ
- เติมเงินค่าบริการต่างๆ เบื้องต้นคือเติมเงินค่าโทรศัพท์
- จ่ายบิลค่าบริการต่างๆ เบื้องต้นคือค่าน้ำ, ค่าไฟ, ค่าอินเทอร์เน็ต ซึ่งสามารถสแกนบาร์โค้ดได้ด้วย
- เก็บประวัติการโอน จ่ายบิล และอื่นๆ
ระบบการทำงานของ K PLUS Beacon
ทีนี้เมื่อเรารู้ฟังก์ชันต่างๆ ของ K PLUS Beacon แล้วก็มาถึงขั้นตอนการเรียนรู้ระบบการทำงานของแอปก่อน เพราะเราจะไม่สามารถมองเห็นตัวแอปได้เลยเนื่องจากปิดตาอยู่แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าแอปไหนใช้ยังไง คำตอบก็คือ K PLUS Beacon จะใช้ 5 สิ่งในการทำงานร่วมกันคือ
- เสียง : เสียงจะเป็นเสมือนตาที่ช่วยบอกว่าตอนนี้เราอยู่เมนูใด หรือกำลังจะทำรายการอะไรอยู่มีความสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง หรือกำลังพิมพ์อะไรอยู่ไม่ว่าจะเป็นตัวเลข หรือตัวอักษร
- สั่น : ระบบสั่นจะทำงานเพื่อแจ้งเตือนสองเรื่องคือ 1.เตือนการยกเลิกการทำรายการ 2. เตือนการอนุมัติทำรายการ ซึ่งทางผู้พัฒนาเขียนโปรแกรมไว้ว่าหากผู้ใช้งานสไลด์ลงค้างไว้สามวินาที เครื่องจะสั่นเบาๆ วินาทีละครั้งเพื่อแจ้งเตือนว่ากำลังจะกดตกลงเพื่อโอนเงิน หรือทำรายการส่วนกดสไลด์ขึ้นค้างไว้สามวินาที ระบบจะสั่นวินาทีละครั้งเพื่อแจ้งเตือน
- สไลด์ : K PLUS Beacon รองรับการสั่งงานผ่านวิธีสไลด์ 4 แนวคือ ขั้น – ลง – ซ้าย – ขวา แต่ถ้ากดค้างตอนขึ้นหรือลงจะเป็นชุดคำสั่งตกลง หรือปฏิเสธตามที่อธิบายไป
- สัมผัส : การสัมผัสก็เพื่อกดสั่งงานเช่นใส่ตัวเลขบัญชี กดใส่หมายเลขโทรศัพท์ กดใส่จำนวนเงิน กดเข้าเมนูนั้นๆ
- เสย่า เอ้ย! เขย่า : การเขย่าเป็นฟังก์ชั่นที่เขย่าเพื่อที่จะสั่งให้แอปแจ้งเตือนว่าตอนนี้โปรแกรมอยู่ที่เมนูไหน กรณีที่ผู้ใช้งานเกิดสับสนว่ากำลังทำรายการอะไรอยู่ พอเขย่าแล้วระบบจะแจ้งด้วยว่าต้องทำอะไรต่อเช่นสไดล์ลงเพื่อยืนยัน หรือสไลด์ขึ้นเพื่อยกเลิก
ทดลองโอนเงินแบบปิดตาผ่าน K PLUS Beacon
หลังจากเราเรียนรู้การใช้งานแอปอยู่สักครู่เดียวก็มาถึงขั้นตอนการใช้งานจริงๆ ดูบ้าง ของแบบนี้ต้องลองว่าถ้าปิดตาใช้งานแล้วจะเป็นอย่างไรโดยที่ต้องบอกก่อนเลยว่าเราไม่ได้มีการทดสอบ หรือลองเล่นแอปนี้มาก่อนเลยเพื่อความสมจริงที่สุด เราแค่ฟังบรีฟรายละเอียดของ K PLUS Beacon เท่านั้น เพราะถ้าเห็นก่อนเราจะจำได้ว่าช่วงนี้ต้องกดอะไร หรือทำแบบไหน มา! เริ่ม
1. สไลด์หน้าจอไปทางขวาเพื่อที่จะหาฟังก์ชันโอนเงิน ซึ่งเราตั้งระบบการออกเสียงความเร็วระดับสาม ซึ่งเป็นระดับความเร็วที่กำลังดี
2. เรากด ‘ลง’ เพื่อยืนยันเข้าสู่เมนู ‘โอนเงิน’ ซึ่งทุกครั้งที่กดลงเครื่องจะสั่นเล็กน้อย พร้อมเสียงยืนยันการเข้าสู่เมนูโอนเงิน
3. เลือกวิธีการโอน ซึ่งเมนูนี้สามารถเลือกได้สามแบบว่าจะโอนแบบไหนได้แก่โอนผ่านบัญชี, โอนผ่านเบอร์โทร และโอนผ่านพร้อมเพย์ เราฟังเสียงว่าอยู่ที่หน้าเมนูไหน แล้วสไลด์ลง เพื่อเลือกโอนผ่านพร้อมเพย์
ซึ่งก็แยกย่อยออกมาอีกว่าจะใส่บัตรประชาชน เบอร์โทร หรือเลขผู้เสียภาษี แล้วสไลด์ลงอีกทีเพื่อเลือก จากนั้นก็ใส่ตัวเลขลงไป ระบบจะอ่านทวนเบอร์ทุกครั้งกันพลาด จากนั้นกดลงค้างไว้สามวินาทีเพื่อยืนยัน เครื่องจะสั่นเล็กน้อยเพื่อยืนยันว่าเบอร์ถูกนะ
4. จากนั้นระบบจะบอกว่าใส่จำนวนเงินด้วยวิธีไหน เช่นเลื่อนขวาเพื่อใส่จำนวนเงินครั้งละ 500 บาท หรือเลื่อนซ้ายเพื่อใส่เป็นตัวเลขที่เราระบุเอง เราทดลองใช้งานเพื่อความไว เลยเลือกเลื่อนขวาเพื่อใส่จำนวนเงินครั้งละ 500 บาท ปาดขวาไป 6 ครั้งก็จะได้จำนวนเงิน 3,000 บาท
5. พอฟังระบบอ่านทวนอีกครั้งว่าเราโอนเงินจำนวน 3,000 บาทปุ๊บ ก็กดลงค้างไว้สามวินาที เพื่อยืนยันการโอน ระบบก็จะอ่านย้ำอีกทีว่าโอนเงินจำนวนเท่าไหร่ โอนให้ใคร มีค่าธรรมเนียมไหม เพื่อรีเช็คอีกรอบหนึ่งระบบจะบอกให้เราเลื่อนลงค้างไว้เพื่อยืนยันว่าจะโอนแล้วนะ หรือถ้ายกเลิกให้เลือนขึ้นค้างไว้สามวินาที
6. พอเลือนลงปุ๊บ ระบบจะแจ้งว่าทำรายการสำเร็จพร้อมบอกยอดเงินคงเหลือ
7. หากอยากบันทึกธุรกรรม ให้เลื่อนลงเพื่อบันทึกรายการที่โอนไป หรือจะกดบันทึกรายชื่อก็ได้เอาไว้โอนในโอกาสหน้า ทั้งหมดใช้เวลาราวๆ 1 นาทีนิดๆ จากการใช้งานครั้งแรก
สรุปการทดลองใช้ K PLUS Beacon ตัว BETA
เมื่อได้ลองใช้งานโอนเงินครั้งแรกไปแล้ว เรารู้สึกอย่างไรบ้างนี่คือสรุปจากความรู้สีกของเราเองล้วนๆ ไม่ได้ไปสอบถามความรู้สึกจากคนอื่นเลย
- ชอบที่ทุกชั้นตอนมีการบอกด้วยเสียงทั้งหมดอย่างละเอียด เพราะเสียงคือหัวใจสำคัญ
- ชอบในความใส่ใจรายละเอียดทุกการแจ้งเตือน เหมือนรู้ว่าจังหวะไหนควรให้ระบบเข้าไปช่วยแนะนำการใช้งาน จังหวะไหนไม่ต้องปล่อยเขาทำเองได้เลย
- ชอบตรงที่การจดจำขั้นตอนการใช้งานที่ทำให้เราเข้าใจได้ง่ายๆ แม้ใช้งานครั้งแรก ใช้ไปสักพักก็ไม่ต้องฟังเสียงแอปแนะนำอะไรอีกแล้ว ถูๆ ไถๆ ไปได้เลย
- แม้จะบอกว่าเป็นแอปเพื่อคนตาบอดจึงตัดทอนรายละเอียดบางอย่างออกไป แต่โดยสรุปแล้วฟังก์ชันการทำงานก็ครบถ้วนดี ไม่รู้สึกขาด
- ชอบตรงระบบความปลอดภัยที่มีมาให้ตั้งแต่เข้าแอปเลยคือใส่พาสเวิร์ด แต่จำไว้เลยว่าคนใช้งานควรจะใส่หูฟังระหว่างทำรายการ เนื่องจากพอระบบอ่านออกเสียงหน้าจอตอนใส่รหัส คนรอบข้างก็รู้หมดเลยว่ารหัสเข้าแอปคืออะไร
- เสียงของระบบบางครั้งก็ออกเสียงไม่ตรงเท่าไหร่ บางทีฟังแล้วงง โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ตลกมากกก (เสียงแบบเดียวกับเสียง siri เลย แต่คิดว่าเวอร์ชั่นจริงน่าจะเปลี่ยน)
- ระบบการอ่านออกเสียงปรับจังหวะได้ ซึ่งดีมาก
- โดยรวมไม่รู้จะติอะไร เพราะเชื่อว่าผ่านขั้นตอนการออกแบบโดยใช้ประสบการณ์ของผู้ใช้งานมาเยอะแล้ว