Mango Zero

6 ความก้าวหน้าของแสนสิริ แบรนด์อสังหาริมทรัพย์ระดับโลกที่ไม่เคยหยุดนิ่ง

หลายคนน่าจะทราบข่าวกันแล้วว่า แสนสิริ เค้าได้ก้าวล้ำอย่างไม่หยุดด้วยการลงทุนกว่า 80 ล้านดอลล่าร์ หรือประมาณ 2,800 ล้านบาท ใน 6 ธุรกิจด้านเทคโนโลยีและไลฟ์สไตล์ชั้นนำของโลก เรียกว่าเป็นการลงทุนที่นอกเหนือจากธุรกิจหลักของแสนสิริครั้งใหญ่ที่หลายคนกำลังจับตามอง

สำหรับ 6 แบรนด์ระดับโลกที่ว่าก็ได้แก่ Standard International, One Night, Hostmaker, JustCo, Farmself และ Monocle เพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่พักอาศัยรวมไปถึงไลฟ์สไตล์รอบด้าน

 

อย่างไรแล้วเราลองมาดูกันว่า 6 ความก้าวหน้าจาก 6 แบรนด์ระดับโลกนั้นจะพาแสนสิริไปในทิศทางใดบ้าง

 

1. The Standard – ธุรกิจบูติกโฮเทลระดับกว้างขวาง

The Standard เป็นธุรกิจ Boutique Hotel (บูติกโฮเทล) หรือโรงแรมขนาดกะทัดรัดมีจำนวนไม่เกิน 100-150 ห้อง ปัจจุบันมีโรงแรมในเครือทั้งหมด 5 แห่ง ในนิวยอร์ก ลอสแอนเจลิส และไมอามี และโรงแรมแห่งใหม่ที่กำลังจะเปิดเร็วๆ นี้ในลอนดอน

แสนสิริลงทุนกับ The Standard ด้วยมูลค่า 58 ล้านดอลล่าร์ หรือประมาณ 2,000 ล้านบาท โดยแสนสิริจะเป็นผู้ถือหุ้น 35% ของ 4 กลุ่มธุรกิจหลักของ The Standard รวมไปถึงธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มของโรงแรมในเครือ

 

แผนการลงทุนครั้งนี้จะใช้เป็นเงินลงทุนในโรงแรมใหม่ ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มใหม่ รวมไปถึงการพัฒนานวัตกรรมแอปพลิเคชั่น One Night ที่กำลังจะกล่าวถึงในข้อถัดไป

 

2. One Night – แอปพลิเคชั่นจองโรงแรมที่กำลังเติบโต

 

One Night เป็นแอปพลิเคชันจองโรงแรมแบบนาทีสุดท้ายเพื่อเข้าพักในวันนั้นทันที พัฒนาขึ้นโดยบริษัท The Standard International หนึ่งในกลุ่มบริษัทเจ้าของบริษัท The Standard Hotel Group เรียกว่าเป็นแพล็ตฟอร์มการจองโรงแรมระบบแรกซึ่งออกแบบโดยบริษัทโรงแรมเอง

One Night สร้างรายได้จากการเติบโตอย่างรวดเร็วของการจองโรงแรมบนความต้องการในโรงแรมที่พักที่สร้างประสบการณ์อันน่าจดจำ ตลอดจนไลฟ์สไตล์ที่ไม่หยุดนิ่งของกลุ่มลูกค้าผู้บริโภครุ่นใหม่

One Night เองไม่ได้มองธุรกิจโรงแรมอื่นว่าเป็นคู่แข่ง แต่มองคู่แข่งเป็นพันธมิตรที่มีศักยภาพในการทำอะไรร่วมกันได้ แผนการลงทุนนี้แสนสิริจะช่วยให้ One Night พัฒนาได้อย่างเต็มศักยภาพและเติบโตในตลาดนานาชาติ โดยเฉพาะในเอเชีย

 

3. Hostmaker – ผู้ให้บริการบริหารการเช่าที่พักอาศัย

Hostmaker เบื้องหลังบริษัทผู้ให้บริการเช่าที่พักอาศัยและผู้บริหารการจองที่พักอันดับหนึ่งที่ทุกคนรู้จักอย่าง Airbnb โดย Hostmaker เข้ามาช่วยจัดการมาตรฐานบ้านเช่าของผู้ที่เป็นเจ้าของบ้าน และระบบการจัดการต่างๆ

โดยแสนสิริเล็งเห็นถึงเทรนด์ home-sharing หรือการแบ่งที่พักอาศัยให้เช่ากำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งแน่นอนว่าจะทำให้ Hostmaker เติบโตมากขึ้นไปด้วย

 

แสนสิริและ Hostmaker เองมองว่าการลงทุนครั้งนี้จะช่วยให้ธุรกิจได้จับเทรนด์ใหม่ๆ พร้อมกับการใช้เทคโนโลยีที่กำลังก้าวหน้าอย่างเต็มที่ ซึ่งมีโอกาสช่วยให้ทั้งสองฝ่ายเติบโตนั่นเอง

 

 

4. JustCo – Co-Working Space ที่ใหญ่ที่สุดใน South East Asia

 

JustCo คือ ผู้ให้บริการ Co-Working Space ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากรูปแบบการทำงานในยุคนี้เปลี่ยนไปจากเดิมค่อนข้างมาก การนั่งทำงานที่ออฟฟิศของบริษัทไม่ใช่ภาพจำของเด็กรุ่นใหม่อีกต่อไป Co-Working Space จึงเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าจับตามองไม่ใช่น้อย

 

ปัจจุบัน JustCo เปิดให้บริการทั้งหมด 11 แห่ง และมีแผนจะเปิดสาขาใหม่อีก 20 แห่งในในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี รวมถึงสาขาใหม่ 4 แห่งในกรุงเทพฯ ในปี 2561 ซึ่งคาดว่าจะสามารถขยาย Co-Working Space ได้ครบ 30 แห่งทั่วเอเชียแปซิฟิกภายในปี 2561

 

5. Farmshelf – นวัตกรรมการปลูกผักผ่านแอปพลิเคชัน

ถ้าอยากรู้จักกับ Farmshelf ให้ลบภาพเครื่องมือการเกษตรที่เราเคยรู้จักมาทั้งชีวิตไปก่อนสักครู่ เพราะ Farmshelf ผู้ช่วยปลูกผักสวนครัวภายในบ้านด้วยนวัตกรรมการเพาะปลูกแบบอัตโนมัติ  โดยใช้แอปพลิเคชัน Farmshelf เพื่อควบคุมการปลูกตั้งแต่การรดน้ำ การใส่ปุ๋ย ปริมาณของแสงแดด นอกจากนี้ยังมีระบบ AI ที่ช่วยให้การดูแลง่ายขึ้นอีกด้วย นึกภาพตามแล้วมันเป็นอะไรที่โคตรเท่เลย

 

แผนการลงทุน Farmshelf มีโอกาสทางธุรกิจอันมหาศาลเพื่อการนำไปใช้ในโครงการที่พักอาศัยต่าง ๆ ของแสนสิริ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้ลูกบ้าน เป็นโอกาสสำคัญในการขยายธุรกิจให้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในภูมิภาคเอเชีย และเราอาจจะได้เห็นแปลงผักสำเร็จรูปน่ารักๆ ที่ให้ลูกบ้านปลูกเองได้ง่ายๆ ในโครงการของแสนสิริด้วย

 

6. Monocle – สื่อสิ่งพิมพ์คุณภาพที่เข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงคุณค่าของแบรนด์

 

Monocle แบรนด์ไลฟ์สไตล์เจ้าของธุรกิจสื่อที่ทรงอิทธิพลเจ้าหนึ่งของโลก โด่งดังจากนิตยสารไลฟ์สไตล์ ถึงแม้ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาเป็นช่วงการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ แต่ Monocle เองก็ยังโดดเด่นอยู่ในแวดวงของสื่อไม่เปลี่ยนแปลง

 

Monocle กลับสามารถสร้างความสำเร็จด้วยการนำเสนอประสบการณ์ไลฟ์สไตล์แบบลักชัวรี่ผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ ผสมผสานกับการเป็นผู้บุกเบิกในการใช้สื่อเสียง ร้านค้ารีเทล และบริการโรงแรมที่พัก ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงคุณค่าของแบรนด์และการสื่อสารอย่างเปี่ยมคุณภาพของ Monocle ได้กลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ของอุตสาหกรรมสื่อสิ่งพิมพ์ทั่วโลก

 

มร. ไทเลอร์ บรูเล่ ผู้ก่อตั้ง Monocle กล่าวว่า “แสนสิริและ Minocle มีความสัมพันธ์ต่อกันมายาวนาน และด้วยธุรกิจของเราที่เติบโตมากกว่าการเป็นเพียงสื่อ เราจึงเห็นความสำคัญของการร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัทที่มีแนวคิดสอดคล้องกับจุดมุ่งหมายของเราซึ่งกำลังมุ่งสู่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับชุมชนเมือง รีเทล และแนวคิดด้านบริการใหม่ ๆ มากขึ้น”

แผนการลงทุน Monocle จะทำหน้าที่ส่งเสริมแบรนด์แสนสิริและพันธมิตรให้โดดเด่นยิ่งขึ้นไปอีก และมีแนวโน้มว่าจะได้เห็นการใช้ชื่อแบรนด์ร่วมกันในเซกเตอร์ใหม่ในอนาคต นอกจากนี้แสนสิริยังมีแผนในการพัฒนาโครงการที่พักอาศัยแบบมิกซ์ยูสแนวคิดใหม่ร่วมกับ Monocle ในกรุงเทพฯ ในปี 2561

 

 

ถึงแม้ว่าธุรกิจหลักของแสนสิริยังเป็นงานเกี่ยวกับพักอาศัย แต่ครั้งนี้เรียกว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของแสนสิริที่มีการลงทุนหลากหลายธุรกิจมากขึ้น ในส่วนของลูกค้าเองก็น่าจับตามองว่าจะได้รับไลฟ์สไตล์อะไรใหม่ๆ จากแสนสิริและพาร์ทเนอร์

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Sansiri Everyday Visionaries  ได้ที่ : www.sansirieverydayvisionaries.com