ธนาคารแห่งประเทศไทยออกหลักเกณฑ์ใหม่สำหรับคนซื้อบ้านหลังที่ 2 คือต้องวางเงินดาวน์ขั้นต่ำ 10-20% และวางเงินดาวน์ขั้นต่ำ 30% ในกรณีซื้อบ้านหลังที่ 3
จาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้เปิดเผยถึงหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยใหม่ ที่ปรับปรุงจากข้อเสนอผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ สถาบันการเงิน และตัวแทนภาคประชาชน เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาฟองสบู่แตก โดยมีรายละเอียดดังนี้
- สำหรับการผ่อนที่อยู่อาศัยพร้อมกัน 2 หลังขึ้นไป และมีราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป โดยที่อยู่อาศัยหลังที่ 2 ที่ราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาทและผ่อนชำระหลังแรกตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป จะต้องวางดาวน์ 10%
- สำหรับการผ่อนชำระหลังแรกยังไม่ถึง 3 ปี หรือกู้ซื้อที่อยู่อาศัยราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป จะต้องวางดาวน์ 20%
- สำหรับการผ่อนชำระที่อยู่อาศัยหลังที่ 3 ขึ้นไป จะต้องวางดาวน์ 30% ในทุกระดับราคา
ทั้งนี้หลักเกณฑ์ดังกล่าวจะเริ่มบังคับใช้ 1 เม.ย. 62 ในขณะที่ภาคเอกชนอย่างณัฐพล ลือพร้อมชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา มองว่าหลักเกณฑ์ใหม่ไม่ได้กระทบกับธุรกิจอสังหาฯ มากนัก และการเริ่มต้นในเดือนเม.ย. ปีหน้า ซึ่งเว้นระยะเวลาออกไปนั้นเหมาะสม เนื่องจากธนาคารต้องมีการปรับปรุงระบบคอมพิวเตอร์ให้เข้ากับระบบใหม่
ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกกิตติมศักดิ์สมาคมอาคารชุดไทย และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท พรีเมียม กล่าวว่ามาตรการดังกล่าวไม่ได้มีผลกระทบต่อการซื้อบ้านหลังแรกมากนัก เนื่องจากปัจจุบันมีเงื่อนไขสินเชื่อที่เรียกเก็บเงินดาวน์ตามหลักเกณฑ์อยู่แล้ว
ในขณะที่อาภา อรรถบูรณ์วงศ์ นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่ามาตรการดังกล่าวจะทำให้ธุรกิจอสังหาฯ ชะลอตัวลง รวมทั้งกระทบต่อกลุ่มผู้มีบ้านอยู่แถบชานเมือง และต้องการซื้อคอนโดมิเนียม นอกจากนี้ ยังกระทบต่อกลุ่มผู้ที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการออม เนื่องจากต้องวางเงินดาวน์มากขึ้นในหลังต่อๆ ไป