Mango Zero

ประวัติตำนาน น้ำแข็งไสญี่ปุ่น “คากิโกริ かき氷” ของหวานระดับตำนานอายุกว่า 1,200 ปี

ความคุ้นเคยระหว่างคนไทยกับน้ำแข็งไส ที่เราได้สัมผัสและลิ้มรสรสชาติกันตั้งแต่ยังเด็ก ตั้งแต่น้ำแข็งไสน้ำแดงใส่เครื่องขนมปังหน้าโรงเรียน พัฒนามาจนน้ำแข็งไสเกล็ดหิมะเครื่องตระกานตา ข้ามมายังบิงซูเกล็ดละเอียดเครื่องแน่นๆ จากฝั่งเกาหลี จนมาถึง “คากิโกริ” น้ำแข็งใสของชาวญี่ปุ่น

ขึ้นชื่อความเป็นญี่ปุ่นแล้ว ขนมชนิดนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ ไปดูกันว่าเขามีที่มาและเทคนิคความปราณีตยังไงบ้าง

คากิโกริถูกจัดอันดับ

ของหวานแก้ร้อนที่มาก่อนไอศกรีม

ชาวญี่ปุ่นกับอากาศช่วงหน้าร้อนที่ทำเอาเหงื่อกตกเกินจะทน ในสมัยเฮอัน ราวศตวรรษที่ 11 จึงคิดค้นการทำของหวานจากน้ำแข็งขึ้น

น้ำแข็งก้อนจะถูกเก็บไว้ในบริเวณนอกเกียวโตในช่วงฤดูหนาว ที่เรียกว่า Himuro (“icebox”) และถูกส่งมายังพระราชวังในฤดูร้อน  โดยสมัยก่อนจะต้องบดน้ำแข็งละเอียดด้วยการใช้มีด นำไปใส่ถ้วยเหล็กกินคู่กับน้ำหวานซึ่งได้จากต้นไม้ และดอกไม้ ก่อนจะราดด้วยน้ำเชื่อมท่ทำจากทอง โดยเป็นขนมหวานที่รับประทานกันในหมู่ชนชั้นสูงเท่านั้น

น้ำแข็งไสแสนอร่อยสำหรับทุกคน

เป็นเวลากว่า 800 ปี ต่อมาในช่วงยุคเมจิ คาเฮ นาคากาวะ นักธุรกิจที่เห็นหนทางของขนมหวานชนิดนี้ ได้คิดค้นการนำน้ำแข็งมาจากฮอกไกโด ทำให้คากิโกริขยายไปในวงกว้างมากขึ้น และไม่ต้องนำเข้าน้ำแข็งจากสหรัฐอเมริกาอีกต่อไป ทำให้เกิดร้านคากิโกริร้านแรกขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1872 บริเวณแถบบาชามิจิ ของจังหวัดคะนะงะวะ

ต่อมา ฮานซาบุโร่ มูราคามิ ได้คิดค้นเครื่องบดน้ำแข็งแบบที่ไม่ต้องสัมผัสอีกต่อไปและยังทำให้ไม่ละลายด้วย โดยเครื่องชนิดนี้ยังมีบางร้านใช้มาจนถึงปัจจุบัน 

รสดั้งเดิมหวานอร่อยรสถั่วแดง

รสชาติดั้งเดิมของคากิโกริ คือส่วนผสมของความหวานของน้ำตาลและถั่วแดงบด (Azuki) แต่ปัจจุบันรสชาติได้พัฒนาให้มความแปลกใหม่หลากหลายมากขึ้น มีแม้กระทั่งรส หมากฝรั่ง, ฟักทอง, มันฝรั่งทอดกรอบ ฯลฯ

!!

รสชาติคากิโกริยอดนิยม

Ujikintoki มีต้นกำเนิดจากเกียวโต

Shirokuma i ต้นกำเนิดจากเมืองคาโกชิมะ (มีความหมายว่า คากิโกริหมีขาว)

วิธีการกินคากิโกริแบบถูกต้อง

ขอบคุณที่มา : Tabiscrap, Tokyolocalsfavorites, Gurunavi, Japen-experience