Mango Zero

เยี่ยมชมสำนักงานใหญ่ Huawei บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของจีน ไม่ได้มีดีแค่สมาร์ทโฟนกล้องไลก้า

สำหรับพวกเราอาจจะรู้จักหัวเว่ยเป็นเพียงแค่แบรนด์มือถือหน้าใหม่ที่มาพร้อมกับกล้องไลก้า แต่จริงแล้วหัวเว่ยอยู่บนโลกใบนี้มากว่า 30 ปีแล้ว เป็นบริษัทผู้อยู่เบื้องหลังเทคโนโลยีเสาสัญญาณของผู้ให้บริการโทรคมนาคมทั้งในจีนและไทย

และหลังจาก 5-6 ปีก่อนที่มือถือหัวเว่ยได้เข้ามาเป็นที่รู้จักในตลาดบ้านเราปัจจุบันหัวเว่ยก็ได้ติด 3 อันดับแบรนด์สมาร์ทโฟนที่มียอดขายจำนวนเครื่องสูงที่สุดในโลกไปเรียบร้อยแล้ว

ทีมงานได้มีโอกาสเยี่ยมชมสำนักงานใหญ่หัวเว่ยที่เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน ที่พอได้อยู่ในสถานที่จริงแล้วเรากลับรู้สึกว่ามันเป็นเมืองหัวเว่ยในเมืองเซินเจิ้นอีกทีซะมากกว่า ด้วยพื้นที่ 1,250 ไร่ พนักงานจำนวนหลายหมื่นคน รวมถึงการจัดสรรสถานที่ทั้งสำหรับพักผ่อนและ 8 อาคารใหญ่สำหรับฝ่ายงานบริหาร ฝ่ายการผลิต และฝ่ายวิจัยและพัฒนา เป็นต้น

มารู้จักหัวเว่ยให้มากกว่าเดิม และชมบรรยากาศในสำนักงานใหญ่ไปพร้อมๆ กับเราเลยดีกว่า

โซนที่ 1 : G1 Exhibition Hall

อย่างที่บอกว่าหัวเว่ยไม่ใช่แค่แบรนด์สมาร์ทโฟนทั่วไปแต่เป็นบริษัทผู้อยู่เบื้องหลังโครงข่ายโทรคมนาคมมากมาย ในห้องนิทรรศการ G1 นี้ เราจะได้เห็นเทคโนโลยีต่างๆ ที่หัวเว่ยคิดค้นขึ้นมากกว่าร้อยชิ้น รวมถึงเลขสิทธิบัตรจำนวนกว่า 62,000 ใบ

เป็นนิทรรศการที่ให้คนนอกเข้ามาศึกษาดูงานได้ รวมถึงถ้าใครสนใจก็สามารถเป็นพาร์ทเนอร์นำเทคโนโลยีที่หัวเว่ยคิดค้นไปใช้ในผลิตภัณฑ์ของตัวเองได้

ตัวอย่างผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นส์จากหัวเว่ย ในห้องนิทรรศการ G1

ผลิตภัณฑ์เพื่อเมืองที่ทันสมัย (Smart City)

ผลิตภัณฑ์อื่นๆ

 

โซนที่ 2 : ทะเลสาบ ตงกวน ซงซาน (Dongguan Songshan Lake)

นอกจากอาคารต่างๆ แล้วในหัวเว่ยแคมปัสยังมีทะเลสาบของตัวเองด้วย!

ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่าวันที่เราไปเป็นวันโชคดี เพราะนานๆ ครั้งเจ้าหงส์ดำเหล่านี้ถึงจะออกมาพร้อมหน้าพร้อมกันกันถึงสามตัว ขนาดหงส์หัวเว่ยยังมีเลย นี่บริษัทหรือเมืองหลวง? 555

 

โซนที่ 3 : โรงงานผลิต (Assembly Line)

ถือเป็นโอกาสล้ำค่าที่ได้เข้าเยี่ยมชมถึงโรงงานผลิต โดยในไลน์ผลิตที่เราได้ชมนั้นคือการผลิตสมาร์ทโฟนนั่นเอง

ก่อนจะเข้าไปด้านในจะต้องแต่งกายด้วยยูนิฟอร์มของหัวเว่ยก่อน รวมถึงห้ามนำเครื่องมือสื่อสารติดเข้าไปด้วยเป็นอันขาด

ที่ศูนย์การผลิต จะเห็นกระบวนการผลิตและประกอบชิ้นส่วนต่างๆ ขึ้นเป็นโทรศัพท์ทั้งการประกอบด้วยมือและการใช้เครื่องจักรอันทันสมัย ทำให้ได้เห็นถึงมาตรฐานการผลิตอันทันสมัยและความประณีตของหัวเว่ย

ซึ่งจากที่ได้ชมมา เราพบว่าในสายการผลิตยังใช้แรงงานคนประกอบกับเครื่องจักรอยู่ เพราะบางส่วนการผลิตนั้นต้องใช้ความพิถีพิถันที่เครื่องจักรไม่สามารถทำได้ ซึ่งในหนึ่งไลน์การผลิตจะผลิตมือถือได้ 2,600 เครื่อง/วัน ต่อจำนวนคนงาน 26 คน

เราจะได้เห็นขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่ขั้นตอนลึกๆ อย่างตัว Mother board ไปจนถึงการทดสอบการใช้งานเบื้องต้นของตัวเครื่องเลย ซึ่งในขั้นการทดสอบส่วนใหญ่จะใช้คนทำ เช่น การตรวจจอ, ตรวจกล้อง, ตรวจสี, เสียง รวมถึงมีการทำ Drop Test ที่ระยะ 30 เซนติเมตรด้วย

 

โซนที่ 4 : ห้อง ทดสอบความอึด ถึก ทนของมือถือ (Testing Lab)

เป็นห้องปฏิบัติการทดสอบอุปกรณ์ ที่ทางหัวเว่ยเรียกว่า Testing Lab นั่นเอง มีไว้ทดสอบอุปกรณ์ที่ถูกดีไซน์ออกมาใหม่ ก่อนจะนำไปผลิตจริง

ตัวอย่างขั้นตอนการทดสอบ

 

มร.ฟีลิกซ์ ชาง รองประธานฝ่ายวิศวกรรมด้านซอฟต์แวร์ หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป

หลังจากได้ชมบางส่วนของสำนักงานใหญ่หัวเว่ยประเทศจีนกันไปแล้ว คงพอเห็นภาพว่าหัวเว่ยไม่ใช่แค่แบรนด์สมาร์ทโฟนธรรมดาๆ อีกต่อไป แต่เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ให้บริการด้านโทรคมนาคมอย่างครบวงจร และมีการบริหารงานอย่างเป็นระบบไม่ต่างจากแบรนด์ยุโรปหรืออเมริกาเลย ซึ่งประกอบด้วย 4 หัวใจหลัก (HUAWEI, Beyond Innovation) ดังนี้

  1. Innovation : หัวเว่ยยึดการวิจัยและพัฒนาสินค้า (R&D) เป็นหัวใจหลักในการบริหารงาน มีการคิดค้นและตั้งสำนักงานเพื่อการวิจัยกระจายไปประเทศต่างๆ ทั่วโลก
  2. Quality : ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นที่ส่งถึงผู้บริโภคต่างได้การรับรองคุณภาพระดับโลกทุกตัว มีสถาบันต่างๆ ที่การันตีเทคโนโลยีที่หัวเว่ยผลิตออกมา
  3. Openness : หัวเว่ยเปิดให้พาร์ทเนอร์จากบริษัทต่างๆ มาเข้าร่วมเพื่อจะได้พัฒนาสินค้าออกมาให้ผู้บริโภคได้ดีขึ้น เช่นการที่ร่วมกับบริษัท Leica เพื่อได้สมาร์ทโฟนที่ถ่ายรูปได้สวยขึ้น หรือการร่วมกับบริษัทสีอย่าง Pantone เพื่อออกสีสมาร์ทโฟนที่เข้ากับยุคสมัย
  4. Social Responsibility : หัวเว่ยเป็นแบรนด์ที่คำนึงเรื่องสิ่งแวดล้อมมาก จะเห็นได้จากในนิทรรศการที่พาชมกันไปแล้ว หรืออย่างตัวผลิตภัณฑ์ต่างๆ เองก็มีการใช้วัสดุที่รักษ์โลกในการผลิต

 

คุณชาญวิทย์ เขียวนาวาวงศ์ษา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป ประเทศไทย

หวังว่าบทความนี้จะทำให้ทุกคนเห็นภาพรวมและรู้จักกับแบรนด์ Huawei มากขึ้น เพราะขนาดตัวเราเองก็รู้สึกเซอร์ไพรส์เหมือนกันพอได้เห็นแง่มุมต่างๆ และไม่ได้มองหัวเว่ยเป็นแค่แบรนด์สมาร์ทโฟนอีกต่อไป แต่เป็นบริษัทใหญ่จากเอเชียที่น่าจับตามอง