Mango Zero

รวม 20 ฉากเรียกน้ำตา จากการ์ตูนเรื่อง One Piece


ปัจจุบัน วันพีซ ผลงานผจญภัยในท้องทะเลกับเหล่าโจรสลัดของอ.เออิจิโระ โอดะ เป็นการ์ตูนที่แทบจะไม่มีใครไม่รู้จัก ต่อให้คนๆ นั้นจะไม่เคยดูการ์ตูนก็ตาม ตลอดเวลาที่ดำเนินเรื่องมา 19 ปี หรือเป็นจำนวนตอนก็ 800 กว่าตอนนั้น มีฉากที่ทำให้ผู้ชายตัวใหญ่อย่างเรากลั้นน้ำตาไม่อยู่มากมาย หลายฉากผ่านกาลเวลามาเกินสิบปีแล้วก็ยังคงตราตรึงอยู่ในใจไม่เปลี่ยนแปลง

คำเตือน: Spoil เนื้อหาในการ์ตูน

เดิมพันกับยุคสมัยใหม่


หากไม่มีฉากนี้ ก็คงจะไม่มีการผจญภัยของลูฟี่ ไม่มีกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง และไม่มีการ์ตูนเรื่องวันพีซ เมื่อ 8 ปีก่อนลูฟี่จะออกผจญภัย เขาไปมีเรื่องกับกลุ่มโจรสลัดที่ดูถูกแชงคูส จึงถูกจับโยนลงน้ำ และกำลังจะถูกเจ้าทะเลทำร้าย แชงคูสจึงลงไปช่วยลูฟี่ไว้และเสียแขนไปหนึ่งข้าง หลังจากนั้นไม่ว่าใครถามว่าแขนข้างนี้หายไปไหน เขาก็จะตอบว่า “เอาไปเดิมพันกับยุคสมัยใหม่” อยู่เสมอ (ตอนที่ 1)

 

นั่นเป็นส่วนของลูกสาวฉัน


ในฉากย้อนอดีตของนามิ อารอนบุกหมู่บ้านและสั่งให้ชาวบ้านจ่ายเงิน หากใครไม่จ่ายจะถูกฆ่า เดิมชาวบ้านตั้งใจจะช่วยซ่อนเรื่องเด็กเอาไว้แต่ เบลเมล อดีตทหารเรือซึ่งเก็บนามิและโนยิโกะมาเลี้ยง ตัดสินใจจ่ายเงินให้สำหรับเด็กทั้งสองคนมีชีวิตรอด และยอมให้ตัวเองตาย (ตอนที่ 78)

 

ช่วยคนพวกนี้เถอะนะ


ลูฟี่ลอยมาตกที่เกาะอามาซอนลิลลี่ซึ่งห้ามไม่ให้ผู้ชายเข้ามา คนที่ให้การช่วยเหลือลูฟี่ถูกสาปเป็นหิน จักรพรรดินี โบอา แฮนค็อก จึงให้ลูฟี่เลือกระหว่างเรือที่จะใช้นั่งกลับไป กับทำให้คนที่กลายเป็นหินกลับเป็นเหมือนเดิม หวังจะให้ลูฟี่แสดงธาตุแท้ออกมา แต่ลูฟี่ก็คุกเข่าก้มหัวตอบแบบไม่คิดเลยว่าให้ช่วยผู้มีพระคุณก่อน ฉากนี้อย่าว่าแต่แฮนค็อกเลย เราก็ตกหลุมรักลูฟี่ (ตอนที่)

 

จนกว่าจะพบกันใหม่


ที่รีเวิร์สเมาเท่น ทางเข้าแกรนด์ไลน์ วาฬชื่อลาบูนคอยเอาหัวกระแทกแกรนด์ไลน์ทุกวันจนเป็นแผลฉกรรจ์ กลุ่มโจรสลัดที่เอามันมาทิ้งไว้สัญญาว่าจะกลับมาหา แต่ผ่านไปหลายปีก็ไม่มีวี่แววจะได้เจอกัน มันจึงเริ่มเอาหัวกระแทกกำแพงเพื่อจะข้ามไป ลูฟี่ จึงวาดสัญลักษณ์กลุ่มเอาไว้และกำชับไม่ให้มันเอาหัวชนกำแพงให้เลือนไปเด็ดขาดจนกว่าจะพบกันใหม่ (ตอนที่)

 

เลือดที่ไร้ความเกลียดชัง


ลูฟี่เสียเลือดมากจากศึกที่เกาะเงือก ทว่าที่เกาะแห่งนี้มีกฎห้ามเงือกรับหรือให้เลือดแก่มนุษย์ อันเป็นผลพวงมาจากความเกลียดชังอันยาวนานระหว่างเผ่าพันธุ์ แม้เงือกหลายคนจะเห็นลูฟี่เป็นวีรบุรุษที่ปกป้องเกาะและต้องการจะช่วยแต่ก็ไม่กล้า จินเบจึงอาสาให้เลือดเอง ฉากเล็กๆ นี้สื่อถึงการสยบความเกลียดชังระหว่างเผ่าพันธุ์ที่มีมานานได้อย่างลึกซึ้ง (ตอนที่)

 

พลังของทุกคน


ช่วงท้ายของการต่อสู้ในเดรสโรซ่า ไม่ได้มีเพียงแค่เหล่าตัวละครหลักเท่านั้นที่มีบทบาทสำคัญ แต่ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นประชาชน คนแคระ ทหารเรือ ต่างก็ช่วยกันดันกรงนกของโดฟลามิงโก้ไว้เพื่อถ่วงเวลาให้ลูฟี่ฟื้นตัว ไม่ให้กรงนกปลิดชีพทุกคนในเมืองก่อนที่ลูฟี่จะจัดการโดฟลามิงโก้ได้ (ตอนที่)

 

ก๊อดอุซป


ในศึกที่เดรสโรซ่า อุซปตัดสินใจเลิกหนีและกลับมาช่วยเหล่าคนแคระที่เชื่อมั่นในตัวเขา จึงจัดการกับชูการ์ และปลดปล่อยผู้คนที่ถูกทำให้กลายเป็นของเล่นได้ทั้งหมด ถึงแม้ว่าความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่ก็ทำให้อุซปได้รับการยกย่องจากเหล่าผู้ถูกปลดปล่อย และขนานนามว่า “ก๊อด” ทำให้คำโกหกในวันวานของเขาที่ว่ามีลูกน้องกว่าพันคนเป็นจริงได้ในที่สุด (ตอนที่ 744)

 

ซากุระแห่งอาณาจักรดรัม


ดร.ฮิลรุคคืออาจารย์และผู้ที่เก็บชอปเปอร์มาเลี้ยง เขาเชื่อในปาฏิหาริย์ของดอกซากุระที่จะรักษาอาการเจ็บป่วยได้ จึงพยายามค้นค้วามาทั้งชีวิต ผงสีชมพูที่ย้อมหิมะให้กลายเป็นซากุระนี้ถูกยิงขึ้่นฟ้าเพื่อส่งช็อปเปอร์ให้ออกจากเกาะอย่างไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง (ตอนที่ 153)

 

ฉันยังไม่อยากตาย


แม้ว่านิโคโรบินจะตัดสินใจมอบตัวกับรัฐบาลโลก เพื่อแลกเปลี่ยนกับความปลอดภัยของเพื่อนๆ แต่เมื่อรู้ว่าทุกคนตามมาเพื่อช่วยเหลือเธอ ในขณะที่กำลังจะถูกสแปนดัมพาเข้าไปยังประตูแห่งความยุติธรรม เธอก็ดิ้นรนถึงขั้นใช้ฟันกัดขอบสะพานไว้ เพื่อถ่วงเวลาให้นานพอที่เพื่อนๆ จะมาช่วยเหลือเธอได้ อันนี้ซึ้งด้วย รู้สึกเจ็บแทนด้วย (ตอนที่ 418)

 

เรามันอ่อนแอ


หลังสูญเสียเอส ลูฟี่โทษตัวเองที่อ่อนแอและทำร้ายตัวเองอยู่นาน จนกระทั่งได้จินเบเรียกสติให้ เขาจึงตระหนักได้ว่ายังมีพวกพ้องอยู่ และต้องแข็งแกร่งขึ้นเพื่อไม่ให้สูญเสียใครไปอีก นี่อาจจะเป็นครั้งแรกในการ์ตูนเรื่องนี้เลยก็ได้ที่ลูฟี่ยอมรับว่าตัวเองอ่อนแอ ปกติไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหมแท้ๆ (ตอนที่ 590)

 

มิตรภาพที่ใจกลางขุมนรก


ในช่วงสุดท้ายของการแหกคุกนรกอิมเพลดาวน์เพื่อไปช่วยเหลือเอส ถึงแม้ว่าทุกคนจะหนีออกมาจากคุกได้แล้ว แต่ก็ยังคงไม่สามารถล่องเรือไปไหนได้เพราะมีประตูแห่งความยุติธรรมขนาดใหญ่ขวางอยู่ มิสเตอร์ทู บอน เคร จึงใช้ความสามารถปลอมเป็นผู้คุมเข้าไปเพื่อเปิดประตูให้คนที่เหลือหลบหนีออกไปได้ เหลือตัวเองเป็นคนสุดท้าย (ตอนที่ 548)

 

ไฟแห่งแชนโดรา


มองบลังก์ คริกเก็ต และเหล่าลูกสมุนต้องดำน้ำทุกวันเป็นเวลาหลายปีจนร่างกายทรุดโทรม เพื่อจะพิสูจน์ว่าที่บรรพบุรุษของเขาซึ่งถูกประหารเพราะเล่าว่าเกาะแห่งนี้เคยมีขุมทองนั้นไม่ได้พูดโกหก จนกระทั่งลูฟี่สามารถเอาชนะเอเนลูและลั่นระฆังที่อยู่บนเกาะแห่งท้องฟ้าได้อีกครั้ง จึงเป็นการพิสูจน์ว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องจริง เมืองขุมทองมีอยู่จริง คนบนท้องฟ้ามีอยู่จริง (ตอนที่ 299)

 

เทพพิทักษ์แห่งอลาบาสตา


ในศึกอลาบาสตา พวกบิบีค้นพบว่าบาล็อกเวิร์กสวางระเบิดเวลาไว้ที่หอนาฬิกา ที่ด้านล่างกำลังเกิดจลาจล ซึ่งจะทำให้มีคนเสียชีวิตจำนวนมาก แต่ไม่มีเวลาพอที่จะเอาไปทิ้งทัน ฮายาบุซา เปรู หัวหน้าองค์รักษ์ของอาณาจักรผู้มีพลังของเหยี่ยวจึงเป็นผู้อาสาลากลูกระเบิดขึ้นไประเบิดพร้อมตนเองบนท้องฟ้า ไม่ให้ใครบาดเจ็บ (ตอนที่ 208)

 

ซันจิและเซฟขาแดง


ในอดีต ก่อนที่เขาจะกลายเป็นเชฟของภัตตาคารบาราติเอ ซันจิติดอยู่บนเกาะร้างกับโจรสลัดโหดเหี้ยมนามว่าเซฟขาแดง พวกเขาตกลงแบ่งอาหารกันคนละครึ่งจนกว่าจะหาความช่วยเหลือได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วเขายกอาหารทั้งหมดให้กับซันจิ และตัดขาตัวเองกินเพื่อประทังชีวิตเอง อ่านตอนนี้ตั้งแต่สมัยม.ต้น ยังคงสะเทือนใจจนถึงทุกวันนี้ (ตอนที่ 58)

 

ท้าทายรัฐบาลโลก


ลูฟี่และกลุ่มหมวกฟางที่เหลือบุกเข้ามาถึงเอนิเอสลอบบี้ ที่ทำการของรัฐบาลโลก เพื่อชิงตัวนิโคโรบินกลับมา ขณะที่ยืนประจันหน้ากัน สแปนดัมก็ชี้ให้พวกเขาดูธงของรัฐบาลโลก ว่าพวกเขากะจ้อยร่อยแค่ไหนเมื่อเปรียบเทียบกับโลกใบนี้ ลูฟี่จึงสั่งให้โซเงคิงยิงธงนั้นทิ้ง ประกาศสงครามกับโลกเพื่อช่วยเหลือเพื่อน ฉากนี้เป็นอะไรที่เท่และสะใจมากๆ (ตอนที่ 398)

 

ทิฐิที่ไม่ลงรอย


ถึงสมาชิกกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางจะมีเหตุให้ต้องต่อสู้กันเองอยู่บ่อยครั้ง แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่จะบีบหัวใจไปกว่าการปะทะกันระหว่างลูฟี่กับอุซป สาเหตุของการวิวาทครั้งนี้เกิดจากการที่ช่างต่อเรือยืนยันว่าเรือโกอิ้งแมรี่ของพวกเขานั้นทรุดโทรมจนไม่สามารถซ่อมให้ออกทะเลได้อีกครั้งแล้ว ลูฟี่จึงตัดสินใจจะหาเรือใหม่ แต่อุซปซึ่งผูกพันกับเรือไม่เห็นด้วย จึงขอลาออกจากกลุ่ม และท้าลูฟี่สู้ โดยมีเดิมพันเป็นแมรี่ (ตอนที่ )

 

รับชีวิตของฉันคนนี้ไปแทน


หลังจบการต่อสู้กับ เก็กโค โมเรีย เจ็ดเทพโจรสลัดอีกคน บาโธโลมิว คุมะ ก็ปรากฏตัวขึ้นและเข้าทำร้ายกลุ่มหมวกฟางที่กำลังสะบักสะบอมเพื่อจับตัวลูฟี่ไป โซโลซึ่งเห็นว่ากัปตันไม่อยู่ในสภาพที่สู้ได้ จึงเสนอให้เอาหัวของตัวเองไปแทน คุมเห็นแก่ความกล้าหาญจึงใช้พลังเอาความเจ็บปวดทั้งหมดที่ลูฟี่ได้รับ ออกมาให้โซโลรับไว้แทน ฉากนี้อ่านไปกัดฟันไป ฮือ โซโลเท่จริงๆ (ตอนที่)

 

ขอบคุณมากจริงๆ

คงไม่ต้องอธิบายอะไรให้มากความ กับฉากสะเทือนใจที่สุดในวันพีซฉากนี้ เมื่อเอสซึ่งปกป้องลูฟี่จากพลังของอาคะอินุจนตัวตาย ล้มลงในอ้อมกอดของน้องชายร่วมสาบานที่ยอมฝ่าอันตรายมากมายเพื่อมาช่วยตนออกไป และกล่าวคำอำลาเป็นครั้งสุดท้าย (ตอนที่ 574)

 

สัญลักษณ์แห่งมิตรภาพ

หลังจบศึกที่อลาบาสต้า เจ้าหญิงบิบีตามมาส่งถึงฝั่งเพื่อบอกว่าจะอยู่ฟื้นฟูอาณาจักร แต่ขอให้พวกลูฟี่รับเป็นพวกอีกครั้งได้ไหม ถึงแม้จะอยากตอบกลับใจจะขาด แต่เพราะไม่ต้องการให้บีบีถูกตั้งข้อหาให้ความร่วมมือกับโจรสลัด พวกเขาจึงได้แต่ชูแขนซึ่งมีเครื่องหมายกากบาท อันเป็นสัญลักษณ์แห่งเพื่อนพ้องที่พวกเขาเท่านั้นที่รู้กันแทนคำตอบ (ตอนที่ 216)

 

ลาก่อน โกอิ้ง แมรี่

ฉากสุดท้ายที่หากไม่พูดถึง บล็อกนี้ก็คงจะไม่สมบูรณ์ เมื่อกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางไม่เหลือทั้งเรี่ยวแรงและเรือที่จะใช้หนีออกจาเอนิเอสลอบบี้ที่กำลังถูกถล่ม โกอิ้ง แมรี่ เรือของพวกเขาซึ่งถูกประเมินแล้วว่าไม่สามารถออกทะเลได้อีกเป็นครั้งที่สอง ก็ส่งเสียงเรียกให้พวกเขากระโดดลงมาหา ทั้งๆ ที่ไม่มีใครบังคับเรือ และพาพวกเขาหนีออกมาได้ในที่สุด ทว่าเมื่อเรือมาถึงจุดที่ปลอดภัย มันก็หักเป็นสองเสี่ยง พวกลูฟี่จึงตัดสินใจบอกลากับแมรี่ และทำพิธีเผาเรือเพื่อส่งเพื่อนที่ร่วมทางกันมาได้หลับอย่างสงบอยู่ใต้ท้องทะเล (ตอนที่ 430)

ปัจจุบันวันพีซดำเนินเรื่องมาแล้วเพียง 2 ใน 3 ยังมีการผจญภัยอีกมากมายรอกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางอยู่ และแน่นอนว่ายังมีฉากเรียกน้ำตาอีกมากมายรอคนอ่านอย่างเราๆ อยู่เช่นกัน ไม่ใช่เฉพาะกับเรื่องเศร้าๆ อีกมากมายที่จะเกิดขึ้น แต่ยังรวมไปถึงน้ำตาอีกหลายลิตรที่เราจะหลั่งเพราะความยินดีกับพวกเขาเช่นกัน