category กลับไปอ่าน 'คุนิมิตสึ คนจริงจอมกะล่อน' ก่อนวันเลือกตั้งจะมาถึง

Writer : kuronoire

: 22 มีนาคม 2562

การเลือกตั้งกำลังจะมาถึงแล้ว ในช่วงเทศกาลแบบนี้ทำให้เราคิดว่ามีการ์ตูนไม่เรื่องหนึ่งที่ควรจะพูดถึง แม้ว่าตัวมังงะดังกล่าวจะถูกเขียนมาตั้งแต่ 2001 หรือเกือบจะยี่สิบปีแล้ว แต่เนื้อหาภายในของการ์ตูนนั้น ยังพร้อมที่จะบอกเล่าเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับการเลือกได้เป็นอย่างดี มังงะเรื่องที่ว่าก็คือ คุนิมิตสึ คนจริงจอมกะล่อน หรือที่มีชื่อญี่ปุ่นว่า Kumimitsu No Matsuri นั่นเอง

แต่เพราะมังงะมันค่อนข้างจะเก่า แล้วก็อาจจะหาซื้อเก็บยากหน่อย เราเลยขอถือโอกาสทบทวนความจำแฟนการ์ตูนเรื่องนี้ และเล่าเรื่องราวให้ท่านที่ยังไม่ได้เปิดอ่านมังงะเรื่องดังกล่าวได้เห็นภาพมากขึ้นว่า ทำไมหลายๆ คนถึงใช้การ์ตูนเรื่องนี้ในการทำความเข้าใจกระบบการเลือกตั้ง

เรื่องราวโดยคร่าวของ คุนิมิตสึ คนจริงจอมกะล่อน

มุโต้ คุนิมิตสึ เป็นวัยรุ่นชายอดีตแก๊งค์ซิ่งที่ผันตัวมาเป็นผู้ช่วยของนักการเมืองชื่อดัง ก่อนที่จะถูกมอบหมายหน้าที่ให้มาช่วยเป็นเลขาฯ ให้กับอดีตสมาชิกสภาจังหวัดที่วางเป้าจะผันตัวเองมาลงสมัครเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดชินชิบะซากิ

ที่ตอนนี้มีการใช้เงินภาษีสร้างผลประโยชน์ให้กับบริษัทและผู้ว่าราชการจังหวัดคนเดิมอย่างต่อเนื่อง แต่ คุนิมิตสึ ซึ่งเหมือนจะมีแค่กำลังกายที่ใช้งานได้อย่างเดียวจะช่วยให้ผู้สมัครเข้าชิงเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดไปให้ถึงฝันได้อย่างไร

เล่าเรื่องการเมืองให้เข้าใจง่าย

เพราะตัวเอกโดนวางมาว่าเป็นตัวละครที่โง่สนิทใจ (เราไม่ได้กล่าวหานะ ตามท้องเรื่องมันชงมาแบบนี้) ในเรื่องเลยมีการเล่าแบบสุดโต่งตามวิสัยการ์ตูน แต่ก็ง่ายพอที่จะทำให้คนที่ไม่อินเรื่องรัฐศาสตร์ได้เห็นภาพความสำคัญของการเมืองแบบง่ายๆ ด้วยการเล่าเรื่องของการเลือกตั้งประธานนักเรียนที่คนอ่านเกือบทุกคนน่าจะมีโอกาสได้เข้าร่วมนั่นเอง

เนื้อเรื่องช่วงต้นของการ์ตูนเรื่องนี้ ที่เล่าถึงโรงเรียนประจำจังหวัดที่มีการยุบชมรมที่ใช้เงินเยอะอย่างต่อเนื่อง อันเกิดมาจากตัวประธานนักเรียนของโรงเรียนดังกล่าวทำการบริหารเงินแบบฉ้อฉลเขียนแผนการใช้จ่ายเงินของชมรมต่างๆ มาเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวเสียอย่างนั้น แถมยังมีการผลักดันนโยบายสนับสนุนให้มีการย้ายโรงเรียนไปยังที่ตั้งแห่งใหม่ ซึ่งมีห้างร้านแบรนด์ใหญ่ๆ ที่ประชาชนในจังหวัดไม่คุ้นเคย

แล้วเมื่อมีการถามว่า ‘ทำไมถึงมีการเลือกประธานนักเรียนที่มีนิสัยแบบนั้นขึ้นมา’ ก็มีการเล่าสะท้อนกลับไปว่า ก็เพราะนักเรียนในโรงเรียนคิดแค่ว่า ‘แค่เรื่องในโรงเรียนไม่ใช่เรื่องใหญ่’ เลยทำให้การเลือกตั้งได้คนหน้าเดิมๆ มาบริหารงบถึงสองปีติดกัน รู้ตัวอีกทีโรงเรียนก็เกือบจะย้ายสถานที่แล้ว แล้วเรื่องจึงค่อยๆ เล่าพลิกกลับไปว่า มีตัวแทนเข้าแข่งประธานนักเรียนคนอื่นหรือไม่ และจะทำอย่างไรให้โรงเรียนไม่ตกอยู่ในภาวะที่ถูกชี้นำหรือดำเนินการบริหารตามผู้มีอำนาจได้อีกที

เมื่อเล่าเรื่องของการเมืองระดับย่อยที่หลายคนมีโอกาสได้เห็นมาก่อน แถมยังมีการย้ำด้วยคำว่าความยากของการเลือกตั้งประธานนักเรียนอาจจะไม่ต่างอะไรกับการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรี ทำให้คนอ่านที่ผ่านจุดเริ่มต้นนี้ได้เข้าใจได้ว่า จะการเมืองระดับจุลภาคหรือมหภาคก็สำคัญไม่แพ้กัน

ต้องรู้จักโลกในหลายมุม

หลังจากพาไปรู้จักกับโลกการเมืองแบบแย็บๆ แล้ว กว่าที่เรื่องราวในการ์ตูนเรื่องนี้จะเข้าสู่ช่วงเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดอันเป็นพลอทหลักของเรื่องก็ไม่ได้เกิดขึ้นทันที การ์ตูนพาเราออกไปให้รู้จักหลายเรื่องกันก่อน

ทั้งเรื่องระบบการศึกษาท้องถิ่้น ที่แทรกเรื่องมาตั้งแต่ช่วงเลือกตั้งประธานนักเรียน, เรื่องเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากกลูเตน หรือแม้แต่เรื่องการจ่ายยาหลายขนานจนทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนขึ้นมาได้ ฯลฯ

ฟังดูแล้วอาจจะไม่เกี่ยวข้องกันใช่ไหมล่ะครับ แต่ถ้ามองว่า เรื่องราวเหล่านี้คือเรื่องราวในชุมชนขนาดย่อมอย่าง จังหวัดชินชิบะซากิ (ที่เป็นจังหวัดสมมติ) ก็กลายเป็นว่าเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้ มันก็คือปัญหาของสังคมของตัวละครที่อยู่ในเรื่อง

เหมือนกับการบริหารการเมืองของจริงที่ไม่อาจจะมองเรื่องราวได้แค่มุมเล็กๆ เพียงมุมเดียวแต่ควรจะมองอะไรแบบกว้างไกล และจริงๆ ไม่ใช่แค่อาชีพนักการเมืองเท่านั้นที่ต้องรับรู้เรื่องนี้ แต่คนแทบทุกอาชีพควรจะมองออกจากกรอบที่ตัวเองเคยอยู่เพื่อเข้าใจโลกรอบข้างและพัฒนาตัวเองเป็นการต่อไป

ยอมรับมุมมืดของการเมือง

การ์ตูนได้รับความนิยมจนถูกสร้างเป็นละครคนแสดงมาแล้ว

ถึงการ์ตูนเรื่องนี้จะพยายามเล่าด้วยความคาดหวังที่สดใสว่าจะมีการเลือกตั้งจากนโยบายอย่างเข้มข้น แต่ทุกระยะของเรื่องนี้ก็มีการเล่าแบบไม่กั๊กว่า เวทีการเมืองนั้นเป็นสถานที่อุดมไปด้วยเงินตราและพลังอำนาจ

จนหลายคนยินดีที่จะใช้วิธีการชั่วช้าในผลักดันตัวเองให้เข้าร่วมสังเวียนดังกล่าว ไม่เว้นแม้แต่ฝั่งของตัวเอกเองที่มีการเดินหมากนอกกฎกติกาอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งก็มองได้ว่าเป็นการคิดนอกกรอบ หรือ จะมองว่าเล่นไม่ซื่อก็คงจะคิดอยู่กับมุมมองของผู้อ่าน

แต่อีกส่วนที่เรื่องนี้พยายามบอกเล่าก็คือ ลึกลงไปนักการเมืองทุกคนก็เคยมีไฟจากการได้สัมผัสชีวิตของผู้คนมาก่อน แต่หลายคนได้ถูกวิญญาณแห่งความชั่วร้ายที่มีเงินและอำนาจเป็นแหล่งพลังงานเข้าสิงจนกลายเป็นนักการเมืองมือสกปรก

ก็ได้แต่คาดหวังว่าจะนักการเมืองที่อยู่ในโลกแห่งความจริงจะสามารถหลีกหนีวิญญาณร้ายตัวที่ว่านั้นได้ทุกคนไป

เพราะการเมืองเป็นเรื่องของคนทุกคน

อย่างสุดท้ายที่ คุนิมิตสึฯ เล่าแฝงมาตั้งแต่เริ่มต้นเรื่องจนถึงตอนจบก็คือ การเมืองไม่ใช่เรื่องของคนวัยใดวัยหนึ่ง หลายครั้งที่การ์ตูนตั้งใจหยิบยกว่า เด็กและเยาวชนก็มีส่วนและมีผลกับการเมืองด้วยเช่นกัน

เพราะสุดท้ายในอนาคตคนเหล่านี้ก็จะเป็นผู้ที่สามารถออกสิทธิ์ออกเสียงด้วยการเลือกตั้งได้ และเสียงของคนชรากับคนพิการก็ไม่ควรจะเป็นสิ่งที่ควรมองข้าม เพราะพวกเขาเองก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคมเช่นกัน

ฉากไคลแมกซ์ของเรื่องจึงเป็นภาพที่ประชาชนเดินทางเข้าไปลงคะแนนเสียงในคูหาเลือกตั้งอย่างครึกครื้นราวกับเป็นงานวัด เพราะว่าคนในเมืองชินชิบะซากิทุกคนต่างทราบดีแล้วว่าคะแนนเสียงของตน แม้จะเพียง 1 เสียง ก็สามารถเป็นเสียงที่เปลี่ยนแปลงอนาคตที่พวกเขาอาศัยอยู่ด้วยได้นั่นเอง

Writer Profile : kuronoire
Blog : Social Media : Facebook, Twitter
View all post

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save