ชีวิตของเด็กฝึกงานในกทม.ชีวิตดี ๆ ที่ลงตัว ใช้จ่ายเงินกันไปเท่าไรกันนะ? *ขอเสียงชาวเด็กฝึกงานกันหน่อยย ในหนึ่งวัน ที่ค่าเดินทางก็ปาไปเกือบร้อยแล้ว ค่าอาหารกลางวันอีก และดูเหมือนว่ารายจ่ายจะมากขึ้น ๆ ตามกิเลสของผู้ใช้ด้วย แต่พอถึงเวลาเมื่อมีค่าใช้จ่ายอื่นจำเป็นเข้ามา แล้วเราจะเอาเงินที่ไหนมาหมุนได้กัน “ไม่นะ! เงินมันขาดมืออ…” วันนี้เลยอยากมาแนะนำทุกคนเกี่ยวกับการฝึกนิสัยใช้จ่ายเงินแบบง่าย ๆ สู้โควิด (ยิ้มอ่อน) ตามฉบับเด็กฝึกงานมาฝากกัน มีวิธีไหนบ้างไปดูกันเลยย (ไม่ใช่เด็กฝึกงานก็ใช้ได้เหมือนกันนะ) วิธีที่ 1 ใจเร็วด่วนได้ ควรพักก่อน การที่จะใช้เงินในแต่ละครั้ง คนมักจะไม่มาคิดกันมากนักหรอกว่าสิ่งที่เรากำลังจะเสียเงินให้ คุ้มค่าแก่การเสียมากแค่ไหนกัน โดยเฉพาะกับเงินที่เสียไปเพื่อความสุขส่วนตัว รู้ตัวอีกทีก็มาบ่นกับตัวเองแล้วว่า “จะซื้อมาทำไมเนี่ย” ดังนั้นจะซื้ออะไรควรตัดสินใจคิดให้รอบคอบก่อน ว่าสิ่งนั้นมีความจำเป็นแค่ไหน ซื้อมาแล้วจะคุ้มค่าไหม ถ้าเราไตร่ตรองแล้วว่าซื้อแล้วดี ซื้อแล้วคุ้มก็เปย์ได้เลย แต่ถ้ายังมองว่ามันไม่ได้จำเป็นถึงขั้นต้องมีก็เอาไว้ก่อนก็ได้ วิธีที่ 2 ปลุกไฟสร้างแพสชันกันหน่อย การที่อยู่ ๆ ก็ให้หันมาเก็บเงินได้มันก็ดูจะฝืนใจเกินไป ถ้าเราหาแรงจูงใจในการสร้างนิสัยที่ดีในการใช้จ่ายรู้จักการประหยัดและความพอดี ก็จะมีเงินเก็บเพื่อจะเอาไว้ใช้ในยามจำเป็นจริง ๆ ไม่มีใครรู้ว่าในอนาคตจะมีอะไรเกิดขึ้นอีก การตั้งเป้าหมายเอาไว้ก็จะช่วยให้เรามีแรงจูงใจในการเก็บเงินมากขึ้นไปอีก จงปลุกไฟให้ลุกโชน!!!! วิธีที่ 3 ใครว่ารายรับรายจ่ายไม่สำคัญ เราจะรู้ตัวเองได้ก็ต่อเมื่อเห็นยอดเงินที่เราได้จ่ายออกไปนั่นแหละ ถึงจะรู้ตัวว่าเราหมดเงินไปกับอะไรบ้าง การทำบัญชีรายรับ รายจ่ายเป็นสิ่งพื้นฐานเลยที่ก็ควรให้ความสำคัญ เพราะมันจะเป็นการให้ได้ทบทวนตัวเองอยู่เสมอ จะได้รู้ว่าเราจ่ายให้กับสิ่งเหล่านี้มากไปหรือไม่ และจะทำให้สามารถวางแผนการใช้จ่ายในเดือนต่อไปได้ว่าควรจะไปในทิศทางไหนได้ วิธีที่ 4 ประหยัดอะไรได้ก็ลองทำดูก่อน อะไรที่ลดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นได้ก็ลดลง อย่างเช่น การเดินทางในช่วงไหนที่เราสามารถเดินได้ก็เดินกันก่อน คิดเสียว่าออกกำลังกายยามเช้า แม้ว่าแดดจะไม่จรรโลงใจต่อเราก็ตาม ความสุขส่วนตัวก็มีได้แต่ก็ต้องรู้จักลิมิตเอาไว้ ไม่ให้เกินตัว ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อย่าประหยัดมากจนกลายเป็นคนขี้เหนียวนะ เดินทางสายกลางกันเข้าไว้ วิธีที่ 5 ประหยัดมันยากนัก ก็หักก่อนใช้ไปเลย ในยุคแบบนี้ที่สิ่งเร้ามีมากมายมาสั่นกระเป๋าเงินของเราให้ฟีบลง คงทำใจกันลำบากจะประหยัดได้ยังไงกัน ก็ใจมันเรียกร้องอยากจะซื้ออะไรก็ขวางไม่ได้หรอก เราก็แก้ปัญหากันให้จบตั้งแต่ต้น เมื่อรายรับเข้ามาก็แบ่งสัดส่วนเงินที่จะเก็บและใช้ในทันที คำนวณจากค่าใช้จ่ายปกติของเราก่อน หลังจากนั้นส่วนที่เหลือก็เก็บเอาไว้ วิธีนี้ก็จะทำให้ใช้เงินอย่างสบายใจไม่ต้องมานั่งสะกดจิตตัวเองว่า ‘อย่าลืมประหยัด อย่าลืมประหยัด…’ เยี่ยมจริง ๆ แต่ละวิธีที่ได้กล่าวมาข้างต้นนี้ สามารถลองเอาไปปรับกันดูได้ แม้การเริ่มต้นมันจะยาก แต่เชื่อว่าเมื่อได้เห็นผลลัพธ์กันแล้ว จะช่วยสร้างกำลังใจให้กับทุกคน ให้เป็นแรงจูงใจในการเก็บออมต่อไปได้ เย้!!
