category 7 หนังสือการเมือง (ที่ลุงตู่ยังไม่ได้แนะนำ) แต่เราอยากชวนให้อ่าน

Writer : minn.una

: 30 พฤษภาคม 2562

ในช่วงนี้เราน่าจะได้ยินชื่อหนังสือ Animal Farm กันอยู่บ่อยๆ นั่นก็เพราะเป็นหนังสือที่พล.อ.ประยุทธ์ หรือลุงตู่เพิ่งจะแนะนำให้คนไทยอ่านไปหมาดๆ สำหรับคนที่ยังไม่เคยอ่าน Animal Farm เป็นเรื่องราวเสียดสีการปกครองระบอบเผด็จการ โดยถ่ายทอดผ่านฟาร์มแห่งหนึ่งที่สัตว์ทั้งหลายในฟาร์มลุกขึ้นมาต่อต้านมนุษย์และปกครองกันเองภายใต้คติ “สี่ขาดี สองขาเลว”

แต่นอกจาก Animal Farm แล้ว เราอยากชวนทุกคนมารู้จักกับหนังสือที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการเมืองอีก 7 เล่ม กดเซฟเก็บไว้อ่านกันได้ ไม่ต้องรอให้ลุงแนะนำ ไปดูกันเลย!!

ปีศาจ

นวนิยายเรื่องยาวจาก เสนีย์ เสาวพงศ์ เล่าถึงอำนาจ ความเหลื่อมล้ำ และกาลเวลา ที่แม้ว่าหนังสือเล่มนี้จะถูกตีพิมพ์ออกมาตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว แต่ประเด็นเรื่องความเปลี่ยนแปลงในกาลเวลาก็ยังคงเป็นเรื่องทันสมัยและเข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน

เรื่องนี้ใช้คำว่า “ปีศาจ” เป็นตัวแทนแนวคิดความก้าวหน้าที่คนยุคเก่าหวาดกลัวและต่อต้าน เป็นเครื่องเตือนใจให้ทุกคนตระหนักว่าไม่มีใคร สิ่งใด หรือขั้วอำนาจใดที่จะอยู่ยงคงกระพันไปได้ตลอด นอกจากนี้หนังสือเล่มนี้ยังสะท้อนให้เห็นภาพสังคมไทยภายหลังการปฏิวัติรูปแบบการปกครองมาเป็นประชาธิปไตยประมาณ 20 ปี ที่แม้ว่าจะมีการยึดเอาเสียงประชาชนเป็นใหญ่ แต่ยังคงมีความเหลื่อมล้ำระหว่างชนชั้นทางอำนาจซ่อนอยู่

1984

Big Brother is watching you.

War is peace. Freedom is slavery. Ignorance is strength.

เป็นประโยคที่ถ้าใครได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วจะอ๋อขึ้นมาทันที 1984 เป็นวรรณกรรมดิสโทเปียจาก จอร์จ ออร์เวลล์ เจ้าพ่องานเขียนเสียดสีการเมือง ผู้เขียน Animal Farm นั่นเอง สำหรับเรา 1984 อาจดูยากและซับซ้อนกว่า Animal Farm นิดหน่อย แต่เป็นหนังสือการเมืองที่ควรค่าแก่การอ่านไม่แพ้กันเลย

1984 เป็นหนังสือที่หยิบยกเอาประเด็นเรื่องความเป็นส่วนตัวและโฆษณาชวนเชื่อเข้ามาเป็นแนวคิดหลัก โดยเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นที่เมืองโอเชียเนีย ซึ่งมีผู้นำเป็นพี่เบิ้ม หรือ Big Brother ผู้อยู่ในทุกซอกมุมของเมืองและคอยจับตาดูการกระทำทุกย่างก้าวของพลเมือง สะท้อนให้เห็นถึงการตีกรอบความคิด และจิกกัดความเป็นรัฐเผด็จการได้อย่างเจ็บแสบ

เด็กชายในชุดนอนลายทาง

นี่อาจไม่ใช่หนังสือที่พูดเรื่องการเมืองแบบ 100% แต่เราเชื่อว่าเมื่ออ่านจบแล้วทุกคนจะได้หลายอย่างกลับไปแน่นอน เด็กชายในชุดนอนลายทาง หรือ The Boy in the Sriped Pajamas จากจอห์น บอยน์ เล่าเรื่องราวของเด็กชายวัย 9 ขวบ 2 คนที่รู้จักและเป็นเพื่อนกันผ่านรั้วค่ายกักกันในยุคนาซีที่ “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ถูกใช้เป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญของเกมการเมือง ประเด็นเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนถูกนำมาเล่าเป็นเรื่องหลัก และแน่นอนว่าเราจะได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ยุคนาซีไปพร้อมๆ กันด้วย

ใบไม้ที่หายไป

บันทึกเรื่องราวการเดินทางทางความคิดเชิงปรัชญาของ จิระนันท์ พิตรปรีชา ตั้งแต่ที่เธอยังเป็นเด็กสาวอ่อนต่อโลก จนกระทั่งก้าวมาเป็นหนึ่งในกลุ่มนักศึกษาหัวก้าวหน้าอุดมการณ์แข็งแกร่งในเหตุการณ์ 14 ตุลา ใบไม้ที่หายไป เคยได้รับรางวัลซีไรต์ไปเมื่อปี 2532 และเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหนังสือเล่มนี้ยังคงใช้เป็นบทเรียนให้คนรุ่นใหม่ได้อยู่เสมอ

พุทธศักราชอัสดงกับทรงจำของทรงจำของแมวกุหลาบดำ

“โศกนาฏกรรมครั้งนั้นไม่เพียงไม่เคยถูกเล่าขาน หากยังถูกลืมและในที่สุดก็ลบเลือนเหมือนไม่เคยเกิดขึ้น เช่นเดียวกับเรื่องอื่นๆ อีกนับร้อยพันของประเทศไร้ทรงจำ”

นี่คือคำโปรยของ “พุทธศักราชอัสดงกับทรงจำของทรงจำของแมวกุหลาบดำ” หนังสือที่ได้รับรางวัลซีไรต์ 2561 ผลงานจากปลายปากกาของวีรพร นิติประภา เรื่องราวว่าด้วยความเปลี่ยนแปลงของสังคมการเมืองไทย การต่อสู้ของขั้วอำนาจ โดยเลือกสะท้อนออกมาผ่านหน่วยสังคมที่เล็กที่สุดอย่างครอบครัว

ขุนทอง เจ้าจะกลับมาเมื่อฟ้าสาง

หนังสือรวมเรื่องสั้นรางวัลซีไรต์ 2524 จากอัศศิริ ธรรมโชติ เรื่องราวที่ได้แรงบันดาลใจจากช่วงภายหลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ที่มีการเรียกตัวเหล่าแกนนำนักศึกษาที่ “เข้าป่า” ให้กลับไปรายงานตัว เรื่องสั้น 13 เรื่องสะท้อนภาพและจิกกัดสังคมไทยอย่างเจ็บแสบ ไม่ใช่แค่การเมือง แต่ยังรวมไปถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำในวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยด้วย

ฟ้าบ่กั้น

ผลงานรวมเรื่องสั้นจากลาว คำหอม ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ว่าด้วยเรื่องความขุ่นมัวของอำนาจรัฐ สะท้อนปัญหาสังคมไทยโดยเฉพาะความเหลื่อมล้ำ การถูกกดขี่ของชนชั้นแรงงานในชนบทภาคอีสาน และเป็นนิยามของวาทกรรม “โง่ จน เจ็บ” ที่ไม่เคยหายไปจากสังคมไทย

หากอ่านหนังสือนานเกินไป อาจทำให้เกิดอาการตาล้าได้ ควรพักสายตา อ่านในแสงสว่างที่เพียงพอ หรือเลือกซื้อวิตามินบำรุงสายตาได้ ที่นี่

Writer Profile : minn.una
อดีตนักเรียนวารสารศาสตร์ รักการอ่าน (มากกว่าการเขียนนิดหน่อย) สนใจการเมืองและ K-POP ในเวลาเดียวกัน และเชื่อว่าตัวเองตลกขบขันอยู่ประมาณนึง
Blog : Social Media : Facebook, Twitter
View all post

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save