เข้าสู่ช่วงเวลาอันตราย เพราะทั้งหนังและซีรีส์มหากาพย์หลายเรื่องที่ทุกคนรอคอยใกล้จะถึงวันออกอากาศแล้ว ได้เวลาคลายปมของเรื่องราวต่างๆที่แฟนๆ ทั้งหลายคาใจกันสักที แต่มีสิ่งหนึ่งที่น่ากลัวกว่าการที่หนังพลิกล็อคไปจากที่คิด นั่นก็คือการเห็นสปอยล์! Mango Zero เข้าใจความรู้สึกนี้เป็นอย่างดี จึงมีวิธีหลบสปอยล์อย่างเชี่ยวชาญมานำเสนอ เอ้าทุกคนพูดพร้อมกัน ฉันจะเป็นราชานักหลบสปอยล์ให้ได้เลย! แกล้งๆ ลืมไปก่อน สนใจสิ่งอื่นแทน ในเมื่อไม่สามารถดูได้ตอนนี้ ก็ลองทำเหมือนไม่เคยรู้จักมาก่อนเลยละกัน โฟกัสกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าหรือหันไปทำอย่างอื่นที่จะไม่มีโอกาสได้เจออย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น ทำความสะอาดบ้าน รดน้ำต้นไม้ อ่านหนังสือที่ดองมาเป็นแรมปี นั่งสมาธิ ดำน้ำดูปะการัง ทำทุกอย่างที่ไม่ข้องเกี่ยวกับโลกโซเชียลมีเดียและอยู่กับตัวเองดูบ้าง วิธีนี้นอกจากจะช่วยให้เราหลุดพ้นจากการเห็นสปอยล์แล้ว ยังทำให้เราได้จัดการกับงานต่างๆ ที่คั่งค้างมานาน เผลอๆ ทำให้งานเสร็จเร็วจนได้มาดูหนังเร็วขึ้นด้วยนะ ไม่เล่นโซเชียล ซ่อนคีย์เวิร์ด การพยายามหนีสปอยล์ในโซเชียล ก็เหมือนเลี้ยวรถในทางตรง ยังไงก็ชนแน่นอน! แต่ถ้าอดใจไม่ไหว ไม่สามารถเลิกเล่นได้จริงๆ ก็สามารถซ่อนโพสต์ของบางเพจ หรือบางคอนเทนต์ของเพื่อนในเฟสบุ๊คแทน หรือถ้าเป็นในทวิตเตอร์ก็เลือกซ่อนคีย์เวิร์ดไม่ให้คำนั้นขึ้นในไทม์ไลน์ได้ โดยวิธีการก็คือ เข้าไปที่การตั้งค่าและความเป็นส่วนตัว > คำที่ซ่อน > พิมพ์คำนั้นลงไปได้เลย เท่านี้ก็ปลอดภัยในระดับหนึ่งแล้ว แต่อาจจะต้องเลือกคำเยอะสักนิดนึง ดังนั้นถ้าเลือกได้ปิดโซเชียลไปสักพักน่าจะเป็นการดีกว่า ไม่เข้าห้องน้ำชั้นโรงภาพยนตร์ ห้างส่วนใหญ่มีโซนร้านอาหารชั้นเดียวกันกับโรงหนัง บางครั้งก็แค่เข้าห้องน้ำไปโดยไม่คิดอะไร รู้ตัวอีกทีห้องของเราก็ถูกล้อมรอบด้วยแก๊งค์ที่พึ่งดูหนังเสร็จมาหมาดๆ และวินาทีหลังจากนั้นก็คือการโต้วาทีระดับโลก ไม่รู้ว่าฝ่ายไหนจะดีเบตแพ้ชนะ แต่ที่แน่ๆ เราได้ยินสปอยล์ไปเต็มๆ ทางที่ดีควรเลี่ยงไปเข้าห้องน้ำที่ชั้นอื่น หรือกลับไปเช้าห้องน้ำที่บ้านน่าจะปลอดภัยกว่า ห่างกันซักพักถ้าเพื่อนเล่าเก่ง ในบรรดาเพื่อนทั้งหมด ต้องมีสักสองสามคนที่ชอบแบ่งปันเรื่องราวให้คนอื่นฟัง ซึ่งก็รวมไปถึงการเล่าหนังที่ตัวเองพึ่งดูมาด้วย บางทีที่เขาทำอาจไม่เจตนา ลองบอกเพื่อนไปตรงๆว่าอย่าพึ่งสปอยล์ ขอดูก่อนแล้วค่อยมาเม้าท์กัน แต่ถ้าเป็นความตั้งใจของเพื่อนที่จะเล่าจริงๆ ล่ะก็ เลิกยุ่งเกี่ยวกับเพื่อนจนกว่าเราจะดูหนังจบน่าจะดีกว่า เบี่ยงเบนความสนใจเพื่อนไปคุยเรื่องอื่น เมื่ออยู่ในกลุ่มใหญ่ที่เพื่อนหลายคนดูเรื่องนี้มาแล้ว ก็คงไม่ใช่เรื่องผิดถ้าพวกเขาจะเผลอถกประเด็นเรื่องหนังกัน แต่เราดันอยู่ในวงนั้นด้วยน่ะสิ จะให้กรี๊ดขึ้นมากลางวงเพื่อหยุดบทสนทนาก็คงทำให้เพื่อนตกใจแย่ ทริคเล็กๆ ในการทำให้เพื่อนเลิกคุยเรื่องนี้กันแบบเนียนๆ คือการพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบตัวแทน เช่น สภาพอากาศ การจราจรในวันนั้น หรือสิ่งของรอบตัว เพื่อหันเหความสนใจเพื่อนๆ เท่านี้ก็จะรอดตัวไปได้อีกหนึ่งวันแล้ว ทำให้เพื่อนไม่แน่ใจ เมื่อถึงที่สุดแล้ว รู้ตัวว่าหนียังไงก็ต้องเจอเพื่อนสปอยล์แน่นอน ทางเลือกเดียวที่เหลือคือต้องพุ่งชนเท่านั้น ลองหันไปถามเพื่อนด้วยหน้าตาที่จริงจังว่า “รู้ได้ไงว่าเป็นเรื่องจริง ที่ได้ยินมาไม่ใช่แบบนี้นะ” ให้เพื่อนเกิดความเอ๊ะ! คนที่ไม่หนักแน่นในความคิดของตัวเองพอ ก็จะไม่มั่นใจและไม่กล้าพูดอีก ข้อนี้อาจจะลำบากซักนิดเพราะต้องให้เพื่อนพูดสปอยล์ออกมาก่อนเราถึงจะถามได้ หากเผลอได้ยินคนอื่นพูดเพราะความไม่ตั้งใจสปอยล์ ก็ไม่ควรเก็บไปคิดหรือโกรธให้เป็นอารมณ์จนเสียสุขภาพจิตเราซะเอง ในขณะเดียวกัน ผู้ที่ดูมาก่อนก็ควรให้โอกาสคนอื่นดูหนังเรื่องนั้นด้วยตัวเอง สำหรับใครหลายๆคน การรู้สปอยล์เป็นเรื่องที่เจ็บปวดมากทีเดียว เพราะเราไม่สามารถทำเป็นไม่รู้เรื่องมาก่อนได้อีกแล้ว และการเม้าท์กับเพื่อนที่รู้เรื่องพอๆกับเรา ต้องสนุกกว่าการเมาท์กับเพื่อนที่ยังไม่รู้เรื่องอยู่แล้ว จริงไหม
