category พานั่งไทม์แมชชีน ย้อนไปยุค 80s ที่ Akirart Cafe

Writer : minn.una

: 22 กุมภาพันธ์ 2562

จำกันได้ไหม ก่อนที่เราจะมาถึงยุคที่ใช้สมาร์ทโฟนสั่งการได้เกือบทุกอย่าง แล็ปท็อปเครื่องละไม่กี่กิโล หรือแม้แต่ฮาร์ดดิสก์ที่เก็บข้อมูลได้เป็นหลักเทอราไบต์ เราเคยใช้ชีวิตกันยังไง เมื่อย้อนไปสัก 20-30 ปีก่อน ถ้าใครพอจะจำกันได้ เราเคยมีคอมพิวเตอร์จอตู้เครื่องยักษ์ แผ่นดิสก์ความจุไม่กี่กิโลไบต์ หรือถ้าใครเกิดไม่ทันจริงๆ ก็คงจะเคยเห็นในหนังกันมาบ้างแหละ

วันนี้ Mango Zero ขอพาทุกคนไปเช็กอิน Akirart คาเฟ่แห่งใหม่ที่พาเอาบรรยากาศเก่าๆ ของออฟฟิศยุค 80 – 90s กลับมาให้เราได้เห็นกันอีกครั้ง ยุคนี้มีเสน่ห์ตรงที่เทคโนโลยีอย่างคอมพิวเตอร์เพิ่งเข้ามาได้ไม่นาน หลายๆ อย่างก็ยังคงเป็นแบบอนาล็อก ซึ่งหลายๆ คนก็น่าจะชอบกลิ่นอาย แสง สี และบรรยากาศของยุคนี้เหมือนเรา ไม่พูดพร่ำทำเพลง ถ้าพร้อมแล้วเตรียมหยิบมือถือ รื้อกล้องฟิล์ม กระโดดขึ้นไทม์แมชชีนแล้วไปลุยกันเลยวัยรุ่น!!

Akirart Cafe เป็นส่วนหนึ่งของอดีตโปรดักชัน เฮาส์ชื่อว่า Karmarart Studio คุณเคนโด้ หุ้นส่วนของร้านเล่าให้ฟังว่าตึก 3 ชั้นในซอยอนุสรณ์ 1 แห่งนี้เมื่อประมาณ 20 – 30 ปีก่อนครอบครัวเคยเปิดเป็นโปรดักชัน เฮาส์มาก่อน ก่อนจะปิดทำการไปประมาณ 10 ปีที่แล้ว และได้กลับมามีชีวิตขึ้นอีกครั้งเมื่อคุณเคนโด้ และคุณนิว สองเพื่อนซี้เด็กฟิล์มได้ปิ๊งไอเดีย พลิกโฉม (เรียกได้ว่ารื้อ) ออฟฟิศเก่าที่เคยเป็นที่พึ่งพิงยามทำหนัง  แล้วนำเอาของที่มีอยู่แล้วมาจัดวางใหม่จนเกิดเป็นคาเฟ่สุดวินเทจแห่งนี้ขึ้น

คุณเคนโด้เล่าให้เราฟังว่า ที่มาของชื่อ Akirart นั้นเกิดก่อนชื่อ Karmarart Studio ซะอีก นั่นก็เพราะว่าในตอนที่เริ่มเปิดบริษัทขึ้นเมื่อ 30 ปีก่อน ชื่อ Akirart นั้นออกจะเรียกยากเกินไป เลยเปลี่ยนเป็น Kamarart ก่อนจะคืนสู่สามัญกลับมาใช้ชื่อเดิมเอาตอนเปิดคาเฟ่ใหม่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่แหละ!

เราเริ่มรู้สึกได้กลิ่นอายความเก่าและเก๋าตั้งแต่บันไดขั้นแรก นอกจากพระเอกของงานอย่างคาเฟ่บริเวณชั้น 3 ของตึกแล้ว ชั้น 2 ของที่นี่ก็จะเปิดเป็นสตูดิโอไว้ด้วย ซึ่งบรรยากาศก็จะคุมโทนวินเทจทั้งตึก ที่สำคัญร้านมีมุมให้ถ่ายรูปเยอะมากกก ทั้งโซนที่เป็นห้องทำงาน 2 ห้อง โซนเคาน์เตอร์ชงกาแฟ และโซนห้องโถงด้านหน้า ใครที่อยากได้รูปสวยๆ บรรยากาศเรโทรๆ ก็บอกเลยว่าไม่มีผิดหวัง

มาที่เมนูกันบ้าง ที่นี่มีเครื่องดื่มประมาณ 20 เมนู ที่ทางร้านแนะนำจะเป็น Hot Americano (70 บาท) ความเก๋ไก๋ที่เขาภูมิใจนำเสนอก็คือ โดยปกติทางร้านจะมีแบ่งเมนูกาแฟออกเป็น Bold (ตัวหนา) เป็นกาแฟแบบที่ผสมนมหรือครีม และ Italic (ตัวเอียง) กาแฟแบบใส เนื้อเบาๆ และด้วยความเป็นอเมริกาโน่ กาแฟดำที่เข้ากลุ่ม Italic อยู่แล้ว พอเสิร์ฟพร้อมแก้วกาแฟเอียงๆ เข้ากับคำว่า Italic ก็เลยกลายเป็นหนึ่งในเมนูเอกลักษณ์ ที่ต้องไปลองชิมและแชะภาพกันสักหน่อย

เครื่องดื่มอีกอย่างที่ร้านแนะนำคือ Passion Fruit Espresso (120 บาท) ความเปรี้ยวและสดชื่นของน้ำเสาวรส บวกกับรสเข้มๆ ของกาแฟทำให้ใครที่ได้ชิมแก้วนี้ก็รับรอว่าตื่นเต็มตาแน่นอน

ที่เราชอบคือ Affogato x ไอติมยศเส (90 บาท) ด้วยความที่ร้านตั้งอยู่ในย่านยศเส เลยทำให้นี่เป็นอีกหนึ่งเมนูที่น่าลอง คุณเคนโด้เล่าว่าด้วยความที่เป็นคนในย่านนี้มานาน เมื่อได้เปิดร้านคาเฟ่ที่นี่ก็อยากจะใส่เมนูที่เป็นเรื่องราวของย่านนี้ลงไปด้วย สุดท้ายก็ไปตกลงปลงใจได้เมนูใหม่กับร้านไอศกรีมชื่อดังอย่างไอติมยศเส (ที่เขาแอบกระซิบมาว่า ถ้าไม่ใช่คนแถวนี้จริง ก็ไม่ให้นะเนี่ย)

ส่วนขนมเราขอยกให้ Lemon Cake (60 บาท) เค้กรสเลม่อนสูตรของพี่สาวคุณเคนโด้ที่ถ้าใครชอบรสเปรี้ยว ไม่หวานเลี่ยนก็ต้องชอบแน่ๆ และหลังจากที่ลองชิมดูแล้วก็พบว่าเค้กเลม่อนกับอเมริกาโน่ร้อนค่อนข้างเป็นคู่ที่ลงตัวเลยแหละ

สรุป

  • Akirart Cafe ชั้น 3 ตึก Kamarart Studio ซอยอนุสรณ์ 1
  • ราคา 50 – 150 บาท
  • เปิดทุกวัน (หยุดวันพุธ) 8.00 น. ถึง 20.00 น.
Writer Profile : minn.una
อดีตนักเรียนวารสารศาสตร์ รักการอ่าน (มากกว่าการเขียนนิดหน่อย) สนใจการเมืองและ K-POP ในเวลาเดียวกัน และเชื่อว่าตัวเองตลกขบขันอยู่ประมาณนึง
Blog : Social Media : Facebook, Twitter
View all post

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save