แพร (นางสาวแพรวา ทองพิทักษ์) น้องอั้ม (นางสาวโชติกา เหลืองกังวานกิจ) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หนึ่งในผู้ที่ได้รับทุน BU Global Bright จากมหาวิทยาลัยกรุงเทพที่ได้จัดโครงการดี ๆ อย่าง The Hunter Game เกมล่าคว้าทุน เพื่อให้น้อง ๆ นักเรียนม.ปลายทั่วประเทศได้เข้าร่วมกิจกรรมแข่งขันเพื่อชิงทุนการศึกษาในหลักสูตรนานาชาติ ได้มาพูดคุยกับเราถึงความคาดหวังที่พวกเขามีต่อมหาวิทยาลัยในปัจจุบัน อย่างการที่คาดหวังว่ามหาวิทยาลัยในปัจจุบันจะมีหลักสูตรที่หลากหลาย, มีการเรียนการสอนที่ทันสมัย และอีกมากมาย เราไปดูกันเลยว่า 4 สิ่งที่เด็กม.6 คาดหวังว่าจะได้รับจากมหาวิทยาลัยในปัจจุบันนี้มีอะไรบ้าง! 1. มีหลักสูตรที่ทันสมัย สอนให้ลงมือปฏิบัติจริง “รุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพทุกคนก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าทุกอย่างที่เรียนมามันได้นำไปใช้จริงหมดเลย ก็เลยรู้สึกว่าถ้าเราได้เรียนที่นี่ เมื่อจบออกไปแล้วเราจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ” แพรกล่าวหลังจากอธิบายถึงสิ่งที่เธอคาดหวังจากมหาวิทยาลัยในปัจจุบัน นอกจากโครงร่างหลักสูตรที่ดีแล้วเนี่ย กระบวนการที่ผลักดันให้นักศึกษาได้ลองปฏิบัติจริงทั้งในและนอกห้องเรียนที่ส่งผลโดยตรงกับความเป็นมืออาชีพของนักศึกษาก็เป็นสิ่งที่เด็กรุ่นใหม่อย่างพวกเราให้ความสำคัญไม่แพ้กัน หลาย ๆ คนบอกว่าการปฏิบัติจริงจะนำไปสู่การได้เรียนรู้ฝึกฝนที่ทำให้ชินกับการรับมือสถานการณ์ที่ต้องเจอในชีวิตทำงาน สมัยนี้เรียนรู้แค่ในห้องอาจจะไม่พออีกต่อไปแล้ววว!! 2. มีอุปกรณ์ที่พร้อม อาจารย์ที่เก่งและเข้าใจเด็กแบบเรา ๆ อั้ม : นอกจากหลักสูตรที่ทันสมัยแล้ว ก็มีบุคลากรในหลักสูตรนานาชาติที่พอเราได้เห็นโปรไฟล์และผลงานของพวกเขา แล้วทำให้เรามั่นใจได้ว่าพวกเขาจะสอนและให้ความรู้กับเราได้ดีจริง ๆ คนสมัยนี้แบบเรา ๆ ค่อนข้างใส่ใจกับการเลือกมหาวิทยาลัยมาก ๆ เลยแหละ เพราะสิ่งที่อั้มบอกทำให้เราได้รู้ว่าอั้มเองก็ไม่ได้มองแค่ตัวหลักสูตรเท่านั้น แต่ยังศึกษามหาวิทยาลัยต่าง ๆ ไปจนถึงคุณครู หรืออาจารย์ในมหาวิทยาลัยนั้น ๆ อีกด้วย ว่ามีศักยภาพมากแค่ไหนที่จะช่วยให้การเรียนรู้ตลอด 4 ปีในมหาวิทยาลัยเป็นไปได้อย่างสวยงาม “อุปกรณ์ที่เพียบพร้อมและมีจำนวนเหมาะสมกับจำนวนนักศึกษาก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เราเลือกเรียนที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพนะ” อั้มบอกต่อ คิด ๆ ดูแล้วมันก็จริงนะ มหาวิทยาลัยที่มีอาจารย์เก่ง ๆ และเข้าใจเด็กแบบเรา และมีอุปกรณ์เพียงพอเนี่ย ถือว่าน่าสนใจสุด ๆ 3. อิสระทางความคิดก็สำคัญนะ! ใคร ๆ ก็รู้ว่าการที่ต้องทำสิ่งเดิม ๆ ในกรอบ มันน่าเบื่อจะตายไป ยิ่งคนรุ่นใหม่แบบเราแล้วยิ่งไม่ชอบเลยแหละ จริงไหม? สิ่งที่หลาย ๆ คนมองหาและคาดหวังจากมหาวิทยาลัยก็คงจะเป็นความอิสระต่าง ๆ ที่ทำให้เราได้ค้นพบและแสดงออกความเป็นตัวของตัวเองได้อย่างเต็มที่มากกว่า อั้มเล่าให้เราฟังว่าสิ่งที่คาดหวังจากมหาวิทยาลัยก็คือ สังคมภายในมหาวิทยาลัยที่เปิดกว้าง รับฟังความคิดเห็นของกันและกัน และเป็นสังคมที่เหมาะกับการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ นั่นเอง อั้ม : มหาวิทยาลัยกรุงเทพเป็นมหาวิทยาลัยที่ค่อนข้างเปิดกว้างทางด้านความคิดของนักศึกษา แล้วก็ขึ้นชื่อว่าเป็นมหาวิทยาลัยครีเอทีฟ ซึ่งเราชอบความอิสระทางความคิดของที่นี่มาก ๆ มันค่อนข้างตรงกับตัวตนของเรา เพราะหนูจะไม่ค่อยชอบทำอะไรตามสิ่งเดิม ๆ 4. มอบโอกาสดี ๆ ให้กับนักเรียน อั้ม : เราขอมองเป็นภาพรวมของเด็กหลาย ๆ คนเลย คือมองว่าอยากได้โอกาสในการเข้ามหาวิทยาลัย บางครั้งมหาวิทยาลัยก็รับเด็กในจำนวนที่น้อยหรือว่ามีค่าเทอมที่สูง ทำให้เด็กไม่มีโอกาสเข้าศึกษา นอกจากโอกาสในการศึกษาต่อแล้ว อั้มคิดว่าโอกาสในการทำงานร่วมกับแบรนด์ต่าง ๆ ที่เป็นพาร์ทเนอร์กับมหาวิทยาลัยก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่เด็กนักเรียนม.ปลายมองหาจากมหาวิทยาลัย ส่วนแพรมองว่าการให้ทุนการศึกษาก็เป็นอะไรที่นักเรียนม.6 ค่อนข้างให้ความสนใจและคาดหวังว่าหลาย ๆ มหาวิทยาลัยจะมีมากขึ้น แพร : โอกาสอย่างการให้ทุนก็มีผลกับนักเรียนม.6 หลาย ๆ คน อย่างเพื่อนที่เราเจอในโครงการก็บอกว่าแต่ก่อนคือไม่รู้เลยว่ามหาวิทยาลัยกรุงเทพมีหลักสูตรนานาชาติด้วย พอรู้ว่ามีทุนให้สำหรับหลักสูตรนานาชาติก็เลยได้มาลองสมัครโครงการ The Hunter Game นี้ เหมือนก็มีโอกาสให้เรามากขึ้น และพวกเราคาดหวังว่าตัวเองจะกล้าพอที่จะคว้าโอกาสดี ๆ ไว้ “คาดหวังว่าเราจะทำทุกอย่างให้เต็มที่ที่สุดแล้วจริง ๆ แล้วเราจะไม่เสียใจ ต่อให้ผลจะออกมาเป็นอย่างไรเราก็ยอมรับได้” แพรพูดก่อนจะบอกบอกว่าสิ่งที่เด็กทุกคนคาดหวังว่าจะได้รับจากครอบครัวและคนรอบข้างคืออิสระในการตัดสินใจ “เราแค่คาดหวังว่าเราจะมีความกล้าพอ” และ “หวังว่าเราจะไม่กลัวเกินไปที่จะรับโอกาสต่าง ๆ ไว้ และไม่กลัวเกินไปจนต้องปฏิเสธโอกาสดี ๆ ที่ผ่านเข้ามา” อั้มเสริม การทำทุกอย่างให้เต็มที่และการมีความกล้าที่จะรับโอกาสต่าง ๆ เป็นสิ่งที่แพรและอั้มคาดหวังจากตัวเองนั่นเอง ได้อะไรจากโครงการ The Hunter Game เกมล่าคว้าทุน? ทั้งอั้มและแพรพูดเป็นเสียงเดียวกันว่านอกจากทุน BU GLOBAL BRIGHT ที่ผู้ชนะโครงการจะได้รับแล้ว กิจกรรมต่าง ๆ ในเวิร์คชอปยังช่วยส่งเสริมความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในสายอาชีพของคณะที่ตัวเองอยากจะเข้าศึกษาต่ออีกด้วย เพราะมีหลากหลายกิจกรรมที่ทำให้เห็นกระบวนการทำงานจริง ๆ แค่ฟังแพรกับอั้มพูดถึงงานครั้งนี้ เรายังตื่นเต้นไปด้วยเลย อั้ม : มันดีตรงที่เขาต้องการให้เราเห็นกระบวนการทำงาน เราได้ทัศนคติใหม่ ๆ ด้วยค่ะ เพราะเรามาทำกิจกรรมก็ได้แลกเปลี่ยนทัศนคติกับเพื่อน ๆ เหมือนได้เปิดโลกให้กว้างมากขึ้น แพร : ทุกกิจกรรมสอนเราหมดเลยค่ะ ตั้งแต่กิจกรรมแรกที่สอนให้เรากล้าที่จะฝัน ไปจนถึงพี่ ๆ วิทยากรที่สอนให้เรารับมือกับความล้มเหลวจากเรื่องราวของพวกเขาเอง The Hunter Game เกมล่าคว้าทุน คืออะไร? แพร : กิจกรรมแจกทุนสำหรับการเรียนหลักสูตรนานาชาติในมหาวิทยาลัยกรุงเทพโครงการนี้เขาจัดขึ้นมาให้เราได้รู้เลยว่า เราอยากเป็นอะไรจริง ๆ เรามีความคิดความฝันอย่างไร แล้วเราจะลงมือทำอย่างไรบ้าง เป็นโครงการที่จะทำให้ทุกคนได้ค้นหาตัวเองอย่างแน่นอน และยังทำให้เราได้เห็นว่าจริง ๆ แล้วหลักสูตรนานาชาติของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับนักเรียนที่ต้องการอิสระทางความคิด การฝึกฝนจริง และความทันสมัยค่ะ อั้ม : โครงการ The Hunter Game เกมล่าคว้าทุน คือโครงการที่แจกทุน BU Global Bright สำหรับคณะอินเตอร์ในมหาวิทยาลัยกรุงเทพนั่นเอง ใครที่ชอบภาษาอังกฤษ หรืออยากเรียนที่ที่จะพาเราไปดูการทำงานที่มีสเกลใหญ่ขึ้นในระดับโลกและระดับอินเตอร์ก็สามารถติดตามโครงการนี้กันได้ค่ะ สมัยนี้ไม่ใช่แค่มหาวิทยาลัยที่สามารถตั้งเกณฑ์เพื่อคัดเลือกเด็ก ๆ ม.ปลายเท่านั้นแล้วล่ะ เพราะเด็กนักเรียนเองสมัยนี้แบบเรา ๆ เองก็มีสิ่งที่เราคาดหวังและมองหาจากมหาวิทยาลัยเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นความทันสมัย, ความอิสระ และรูปแบบการสอนที่มีประสิทธิภาพ เพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนมีความสำคัญกับระยะเวลา 4 ปีที่เราจะได้ใช้ในมหาวิทยาลัยทั้งนั้น ใครที่สนใจอยากเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรนานาชาติของมหาวิทยาลัยกรุงเทพก็สามารถเข้าไปดูศึกษาข้อมูลหลักสูตรเจ๋ง ๆ รวมไปถึงอุปกรณ์ที่เพียบพร้อมเพื่อประกอบการตัดสินใจการสมัครเข้าเรียนต่อใน Bangkok University International และสามารถติดต่อสอบถามได้เลยที่ https://www.facebook.com/BU.International #MangoZeroXBU #Advertorial
