ไม่ปล่อยให้แฟนๆ คอยนาน! หลังจากที่เกริ่นเปิดเรื่อง เท้าความเป็นจากภาคแรกสู่ภาคนี้ใน “Tokyo Revengers 2 : ฮาโลวีนสีเลือด – โชคชะตา” หรือภาค 2.1 ก็ก้าวมาถึงบทสรุปสุดเดือดระหว่างโตมัน และวัลฮาล่าใน “ภาค ศึกตัดสิน” จนได้ “Tokyo revengers” ภาพยนตร์ Live Action ที่ดัดแปลงมาจากอนิเมะชื่อเดียวกัน บอกเล่าเรื่องราวของทาเคมิจิ ชายหนุ่มผู้ไม่เอาไหน ใช้ชีวิตเบื่อหน่ายไปวันๆ แถมยังได้รู้ข่าวเศร้าว่าแฟนสาวเพียงคนเดียวในชีวิตอย่าง “ฮินาตะ” จากไปอย่างไม่มีวันกลับจากการก่อเหตุของแก๊งโตเกียวมันจิไคที่ทรงอิทธิพลในโตเกียว แต่หลังจากอุบัติเหตุที่ทาเคมิจิถูกผลักลงไปบนรางรถไฟ ทำให้เขาย้อนเวลากลับไปเมื่อ 12 ปีก่อนและได้โอกาสแก้ไขเรื่องราวในอดีตเพื่อปกป้องคนที่เขารักอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งภาค “Tokyo Revengers 2 : ฮาโลวีนสีเลือด ภาค ศึกตัดสิน” จะเล่าต่อจากภาคแรกที่ทาเคมิจิคิดว่าเขาสามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตได้สำเร็จแล้ว แต่กลับกลายเป็นว่าท้ายที่สุดฮินาตะก็ยังพบเจอกับจุดจบแบบเดิม จนทาเคมิจิต้องเดินทางกลับสู่อดีตอีกครั้งในช่วงที่ศึกระหว่างโตเกียวมันจิไค และวัลฮาล่า กำลังอุบัติขึ้น โดยส่วนตัวที่ได้รับชม Live Action มาตั้งแต่ภาคแรก, ภาค 2.1 จนกระทั่งมาถึงภาค 2.2 นี้ ข้อดีที่ชัดเจนมาตลอด ไม่พูดถึงไม่ได้ คือการเลือกนักแสดงทุกคนมาได้เหมาะสมกับทุกบทบาท ประกอบกับฝีมือการแสดงที่ยอดเยี่ยม เตะเป็นเตะ ต่อยเป็นต่อย ตะโกนให้คอแตกกันไปข้าง ดูแล้วเชื่อได้อย่างสนิทใจว่าเป็นตัวละครตัวนั้นจริงๆ สำหรับภาค 2.2 สิ่งที่ผุดขึ้นมาในหัวทันทีที่รับชมจบก็คือประโยคที่ว่า “นี่สิ สิ่งที่รอคอย!” อาจเป็นเพราะในช่วงภาค 2.1 ใช้เวลากับการปูเรื่องราว อารัมภบทย้อนความ ทำให้มีความรู้สึกว่าเนื้อเรื่องค่อนข้างนิ่ง ไม่ได้มีจุดจดจำ หรือฉากต่อสู้สักเท่าไร กลับกันในภาค 2.1 ที่อัดแน่นด้วยคิวบู๊ระห่ำดุเดือดตลอดช่วงกลางไปจนถึงจบเรื่องตะลุมบอนซัดกันนัวชวนตื่นเต้นเร้าใจ ใครที่ตั้งใจว่าอยากจะมาเห็นลีลาการออกมัดของตัวละครที่ชื่นชอบบอกเลยว่าไม่มีผิดหวัง ทางด้านของเนื้อหา ก็เก็บครบถ้วน ทุกฉากทุกตอนที่คาดหวังจะได้เห็นออกจากหน้ามังงะมาโลดแล่นบนจอเงินแบบซื่อตรงต่อต้นฉบับสุดๆ จนพอจะเข้าใจเหตุผลที่ยืดเรื่องออกมาเป็นครึ่งแรกและครึ่งหลังได้บ้าง เพราะเรื่องราวในบทฮาโลวีนสีเลือด มีรายละเอียดและฉากสำคัญค่อนข้างมาก ซึ่งตรงนี้มีจุดที่แอบเสียดายเล็กน้อย เพราะพอจับแยกสองส่วนแบบนี้ ทำให้เสียอรรถรสและความต่อเนื่องทางอารมณ์จากภาคแรกสู่ภาคจบไป ถึงอย่างนั้นเอง ต้องบอกว่า “Tokyo Revengers 2 : ฮาโลวีนสีเลือด ภาค ศึกตัดสิน” เป็นบทสรุปที่ลงเอยได้สวยทีเดียว อัดแน่นด้วยอารมณ์ สนุก ตื่นเต้น จังหวะตลกโปกฮา ลุ้นระทึก และเสียน้ำตาซาบซึ้งให้มิตรภาพของชาวแก๊ง ครบทุกรสชาติ โดยเฉพาะความสัมพันธ์สมาชิกแก๊งรุ่นก่อตั้ง รวมถึงหัวหน้าและรองหัวหน้าหน่วยที่ 1 ขอให้กำทิชชูกันมาดีๆ ถึงจะรู้แล้วว่าต้น ปลาย จบเป็นอย่างไร ก็ยังอดที่จะรู้สึกประทับใจไม่ได้อยู่ดี เป็น Live Action น้ำดีที่ทั้งแฟนมังงะและแฟนอนิเมะไม่ควรพลาด “โตเกียว รีเวนเจอร์ส : ฮาโลวีนสีเลือด ภาค ศึกตัดสิน” รอบปกติ 31 สิงหาคม 2566 ในโรงภาพยนตร์ที่ร่วมรายการ รับชมตัวอย่างภาพยนตร์ ได้ที่
