เจาะใจบ้านเบส ฐานทัพของเหล่าแฟนคลับ K-POP ในประเทศไทย 4 วง

Writer : fonn

: 28 มิถุนายน 2562

บ้านเบสแหล่งรวมข่าวสาร และการรวมพลของเหล่าแฟนคลับเพื่อสนับสนุนดาราหรือศิลปินที่ตัวเองชอบ โดยบ้านเบสเหล่านี้กลุ่มแฟนคลับจะเป็นผู้สร้างขึ้นเอง ซึ่งทางฝั่งศิลปิน K-POP ก็เป็นหนึ่งในวงการดนตรีที่มีแฟนเบสเกิดขึ้นจำนวนมากและมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งให้ข่าวสาร ร่วมมือกันโหวต จัดกิจกรรม ทำโปรเจกต์ต่างๆ เพื่อเป็นฐานทัพสำคัญที่คอยสนับสนุนให้ศิลปินประสบความสำเร็จ

ต้องยอมรับว่าในประเทศไทย แฟนเบสของกลุ่มแฟนคลับ K-POP มีบทบาทสำคัญมากในหมู่มวลแฟนคลับด้วยกัน เพราะการติดตามข่าวสารของศิลปินที่อยู่ต่างประเทศนั้น มีกำแพงด้านภาษาและระยะทางอยู่ ดังนั้นแฟนเบสจึงถือเป็นตัวกลางสำคัญที่ขาดไม่ได้ในวงการนี้ สำหรับใครที่เป็นแฟนคลับศิลปิน K-POP คงรู้จักและติดตามบ้านเบสกันแน่นอน

แต่รู้ไหมว่าเบื้องหลังความรู้สึกและพลังขับเคลื่อนบ้านเบสแต่ละบ้านนั้นเป็นอย่างไร ทีมงาน MangoZero จึงหยิบยกบทสัมภาษณ์ของแอดมิน 4 บ้านเบส จาก 4 วง กับ 4 สไตล์การสนับสนุนศิลปินมาฝากกัน

Soshi Fanclub
บ้านเบสในยุคเปลี่ยนผ่าน จากเว็บบอร์ดสู่​โลกโซเชียล

บ้านเบสของวงเกิร์ลกรุ๊ป Girls’ Generation กับสมาชิกสาวมากความสามารถทั้ง 9 คน ที่เดบิวต์ในปี 2007 และโด่งดังสุดๆ กับเพลงฮิตติดหู อย่างเพลง Gee ในปี 2009  

บ้านเบสหลังนี้จึงก่อตั้งมาอย่างยาวนานตั้งแต่ยุคเว็บบอร์ด และอยู่ในช่วงที่การเสพผลงานต่างๆ ไม่ได้เข้าถึงง่ายและรวดเร็วอย่างทุกวันนี้ จนกระทั่งเข้าสู่ยุคโซเชียลมีเดีย และถึงวันเวลาที่เหล่าสมาชิกในวงค่อยๆ แยกจากกันเพื่อเดินตามฝันของแต่ละคน

จุดเริ่มต้นในยุคเว็บบอร์ด

เราแค่อยากหาเพื่อนที่พูดคุยเรื่องเดียวกัน ในยุคนั้นส่วนใหญ่จะมีเมนบอร์ดฟรีที่เปิดให้เราสร้างบอร์ดขึ้นมาเองแต่อยู่ในเซิร์ฟเวอร์ของเขา เราก็พยายามเปิดหาข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มแฟนคลับในประเทศไทยว่าเขาไปคุยกันที่ไหน จึงได้พบปะเพื่อนๆ และคนที่ชอบ Girls’ Generation เหมือนกัน

ด้วยความที่เราน่าจะโตที่สุดในกลุ่มนั้น เลยคุยกับทุกคนว่าอยากจะทำอะไรซักอย่างเพื่อเป็นศูนย์รวมของคนที่ชอบ Girls’ Generation ให้เขามีที่โหลดไฟล์ง่ายๆ มีแหล่งข่าว เพราะยุคสมัยนั้น YouTube ก็ยังไม่ดัง เวลาโหลดไฟล์ก็ต้องโหลดจากเซิร์ฟเวอร์ของประเทศเกาหลีก่อน

หรือคนที่แปลข่าว ส่วนใหญ่ก็ต้องแปลจากภาษาเกาหลีมาเป็นภาษาอังกฤษก่อนแปลเป็นภาษาไทย ทำให้เราอยากรวบรวมข่าวสารและรูปภาพมาให้ อีกทั้งเราทำงานด้านไอทีอยู่แล้ว จึงก่อตั้งเว็บไซต์ Soshi Fanclub ขึ้นมา

ตอนนั้นเงินลงทุนเปิดค่อนข้างสูง เพราะเทคโนโลยีสมัยนั้นเราต้องเช่าพื้นที่ก่อน จากนั้นซื้อเซิร์ฟเวอร์เป็นของตัวเอง และซื้อเซิร์ฟเวอร์เพิ่มเพื่อแยกไว้สำหรับอัปโหลดไฟล์บ้าง ซึ่งเราลงทุนด้วยเงินส่วนตัว เพราะตอนแรกเราตั้งใจว่าจะไม่รบกวนคนอื่น

แต่น้องๆ ทีมงานมองว่า ในเมื่อทุกคนรวมถึงทีมงานเอง ก็เข้ามาดาวน์โหลดไฟล์ต่างๆ มาตามข่าวสาร มาใช้ทรัพยากรร่วมกันในนี้ จึงเริ่มเปิดรับบริจาค แต่เราจะเน้นทำเสื้อขาย เพื่อนำกำไรมาเป็นค่าใช้จ่ายรายเดือน

สิ่งแปรผันตามวันเวลาผันแปร

ช่วงแรกๆ เราทำโปรเจกต์พิเศษวันครบรอบวงบ้าง แต่หลังๆ ไม่ได้ทำ เพราะโปรเจกต์แบบนี้ต้องใช้เวลา ต้องติดต่อประสานงาน เตรียมงานต่างๆ ด้วยความที่ทีมงานของเราโตขึ้นทำให้ไม่ค่อยมีเวลา ส่วนการอัปเดตข่าว ปัจจุบันข่าวสารมันไปไว เรายังไม่ทันลง ก็กลายเป็นข่าวเก่าไปแล้ว เลยไม่ต้องกังวลว่าต้องรีบอัปเดต เราเอาข่าวสารมาเก็บเป็นคลังมากกว่า 

เมื่อก่อนเราใช้เวลากับบ้านเบสนี้เยอะ แต่ตอนนี้ Girls’ Generation กิจกรรมน้อยลงและมีกิจกรรมเดี่ยวของสมาชิกแต่ละคนมากกว่า ทำให้ไม่ได้ใช้เวลากับบ้านเบสมากเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะเป็นการพูดคุยกับน้องๆ ทีมงาน ถามสารทุกข์สุขดิบ เพราะพวกเราโตมาด้วยกัน นัดกินข้าวกัน ไปเที่ยวกัน ปรึกษาเรื่องราวชีวิตส่วนตัวได้ เหมือนเป็นพี่เป็นน้อง

ต้องบอกว่า Girls’ Generation เป็นสื่อกลางที่ทำให้เรารู้จักคนที่มีความชอบคล้ายกัน ได้รู้จักคนหลากหลายวัย หลากหลายทัศนคติ และหลากหลายอาชีพ อย่างเวลามีปัญหาเรื่องกฎหมาย ก็มีคนที่รู้กฎหมาย เวลามีปัญหาสุขภาพ ก็มีคนที่เป็นหมอ หรือมีคนที่ชอบกาแฟ ก็ได้รู้เรื่องกาแฟไปด้วย ทำให้เรามีวิสัยทัศน์ที่กว้างขึ้น ได้รู้เรื่องที่ไม่เคยรู้ และทำให้โตขึ้นไปด้วยกัน

(รูปจาก soshifanclub.com)

ในวันที่สมาชิกวงไม่ครบเหมือนเดิม

สำหรับเราสมาชิก 9 คน 9 แบบ มีความแตกต่างกัน แต่มีการเต้นที่พร้อมเพรียงกันอย่างไม่น่าเชื่อ จะอยู่รวมกันก็ดี หรือแยกกันก็มีเอกลักษณ์ของแต่ละคน เราชอบความน่ารัก ความสดใสของทุกคน ตั้งแต่สมาชิกเหลือ 8 คน ส่วนตัวก็ตกใจ คิดว่าต้องมีวันนั้นแต่มันเร็วเกินไป

ไม่ว่าตอนเหลือ 8 คน หรือเหลือ 5 คนอย่างตอนนี้ เราเข้าใจว่าการอยู่ด้วยกันหลายคน แต่ละคนก็ต้องมีความชอบหรือความคิดที่เติบโตขึ้นอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ทำให้ทีมงานยังอยู่ด้วยกันคือความชอบใน Girls’ Generation เราต้องก้าวไปข้างหน้าเพื่อที่จะทำตามความฝันความหวังที่มีร่วมกัน

บ้านเบสนี้ก็คงทำต่อไปเรื่อยๆ ไม่รู้เหมือนกันว่านานแค่ไหน คาดการณ์ไม่ได้ว่าจะทำต่ออีกกี่ปี หรือต่อให้หมดเรื่องจะทำแล้ว เราก็ยังคอยสนับสนุนกิจกรรมของ Girls’ Generation เป็นแหล่งรวมข่าวสาร เป็นสังคมที่ให้แฟนคลับได้พบปะเพื่อนใหม่ และได้พูดคุยกับคนที่ชอบอะไรเหมือนๆ กัน เรายังมีเป้าหมายเหมือนกับตอนแรกที่เปิดบ้านนี้และยังคงทำต่อไป

(รูปจาก twitter ของ Yuii_Coming)

Twitter : @soshifanclub 
Facebook : soshifanclub 
Website : soshifanclub.com

BTS Thailand
บ้านเบส…เราจะเป็นคนที่ดีขึ้น

บ้านเบสของวง BTS บอยแบนด์ที่มาแรงสุดๆ ในขณะนี้ ซึ่งบ้านเบสหลังนี้ได้ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ BTS เริ่มเดบิวต์ และค่อยๆ เติบโตไปพร้อมๆ กัน จนกระทั่งวงไปได้ไกลถึงระดับสากลแล้ว และสิ่งที่ศิลปินกลุ่มนี้มักพูดในงานประกาศรางวัลหรือสื่อสารกับเหล่าแฟนคลับ คือวลีกินใจในเชิงว่า ‘จะเป็นคนที่ดีขึ้น’ ทำให้บ้านเบสนี้เริ่มสานต่อปณิธานเหล่านั้นและมีโปรเจกต์การกุศลมากขึ้น

จากความรักสู่โปรเจกต์การกุศล

ช่วง 1-5 ปีแรก มันเป็นช่วงที่วงเดบิวต์และเพิ่งเติบโต ต้องการแรงสนับสนุน สมัยก่อน BTS ไม่ได้ดัง ช่วงนั้นมีโปรเจกต์ช่วยกันโหวต ช่วยกันสตรีมเพลงเพื่อให้วงได้รางวัล เรามองว่ารางวัลเหมือนเป็นลำโพง เป็นกระบอกเสียงให้คนรู้จักวงมากขึ้น เพราะตอนที่วงไม่เคยได้รางวัล ไม่เคยชนะรายการเพลง ก็ไม่มีใครรู้จัก แต่พอเริ่มได้รางวัลก็เป็นจุดเปลี่ยนให้มีชื่อเสียงมากขึ้น

ช่วงนั้นเราก็เต็มที่กับการสนับสนุนให้ศิลปินคว้ารางวัลมาให้ได้ เพราะถ้าเราอยากให้ศิลปินอยู่ได้นานๆ เราก็ต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วยสนับสนุน ไม่งั้นวงจะหายไป

พอปีที่แล้ว BTS เข้าสู่ปีที่ 5 วงก็เริ่มทำแคมเปญกับ UNICEF ชื่อ LOVE MYSELF ตัวเราก็ชอบงานการกุศลเหมือนกัน เลยรู้สึกว่าครบรอบ 5 ปีควรทำอะไรสักอย่างที่ยิ่งใหญ่และเกิดประโยชน์ บวกกับตอนนั้นอยู่ในช่วงอัลบั้ม LOVE YOURSELF จึงเป็นจุดเริ่มต้นของคอนเสปต์การที่เราจะรักคนอื่นได้ เราต้องรักตัวเองก่อน และออกมาเป็นโปรเจกต์บริจาคเลือด แล้วมานับยอดกัน โดยโปรเจกต์นี้เราได้ร่วมมือกับบ้าน CANDYCLOVER  ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบ้านเบสของวง BTS

จริงๆ เรารู้สึกผิดอยู่เหมือนกันที่บอกให้ทุกคนมาช่วยกันโหวตในช่วงแรก ซึ่งแต่ละคนก็คงมีเวลาส่วนตัว ไม่ได้ว่างมาทำตรงนี้ อาจจะมีคนที่คิดว่าถ้าตัวเองไม่โหวต ไม่สตรีม จะเรียกว่าเป็นแฟนคลับได้ไหมนะ แต่ตอนนั้นวงยังไม่ดัง เราก็ไม่มีทางเลือก พอมาตอนนี้เราคิดว่า เรามีทางเลือกมากขึ้น วงประสบความสำเร็จ จึงลดเรื่องโหวตลง ให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ เพราะกลุ่มแฟนคลับก็ใหญ่ขึ้น มีคนมากขึ้น ทำให้สถิติดีขึ้น รางวัลก็มาเอง

(รูปจาก twitter ของ LOVE MYSELF)

การส่งต่อที่ไม่สิ้นสุด

ตอนแรกเราเคยเน้นความสำเร็จของศิลปินในเรื่องรางวัล แต่พอช่วงหลัง BTS ประสบความสำเร็จเกินความคาดหมายมาก ไม่มีใครคิดว่าวงเด็กน้อยตอนนั้นจะมาถึงจุดนี้ แม้แต่เราก็ไม่ได้คิด จึงรู้สึกว่าตอนนี้ไม่ต้องเครียดกับรางวัลเหมือนเมื่อก่อน

อีกทั้งปีหลังๆ เราเห็นปณิธานของ BTS ว่าอยากทำอะไรเพื่อสังคม และ BTS จะมีวลีประมาณว่า “จะเป็นคนที่ดีขึ้น” เราก็รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องดีนะ ถ้าเราโตขึ้นแล้วเราเป็นคนที่ดีขึ้น และจะยิ่งดีถ้าเราสามารถกระจายเรื่องราวเหล่านี้ออกไปให้ทุกคนรู้สึกอยากเป็นคนที่ดีขึ้นได้ จากจุดนี้จึงทำให้เรารู้สึกว่าการเป็นบ้านเบสไม่ใช่แค่การติดตามข่าวสารของศิลปินอย่างเดียว เรามีสื่อในมือ เราเอาสื่อไปทำเรื่องที่ดีได้

และด้วยความที่เราทำงานโฆษณา มีความรู้เรื่องการส่งข่าวประชาสัมพันธ์ จึงส่งข่าวการทำโปรเจกต์บริจาคเลือดไปให้สื่อเกาหลีหลายๆ ที่ พอสื่อแรกลง สื่ออื่นๆ ก็ลงตาม ประมาณ 40 สื่อ และออกทีวีช่องหลักของเกาหลีด้วย

ซึ่งจุดประสงค์ของเราคือ ถ้าคนมาเห็นข่าวนี้แล้วมันจุดประกายเขา สมมติแฟนคลับไม่เคยบริจาคเลือดเลย แต่อยากฉลองให้ BTS ก็ช่วยบริจาคเลือด เป็นการส่งต่อที่ไม่สิ้นสุด เราจึงตัดสินใจทำโปรเจกต์ต่อปีนี้เป็นปีที่สอง โดยมีทั้งโปรเจกต์บริจาคเลือดและบริจาคเงินด้วย

(รูปจาก dispatch)

เรื่องเงิน…เรื่องใหญ่

สำหรับโปรเจกต์บริจาคเงิน ปกติวิธีที่มักทำกัน คือรวมเงินเข้ามาที่บ้านก่อน เพื่อที่จะได้บริจาคในนามแฟนคลับเป็นก้อนเดียว แต่เราเป็นคนซีเรียสเรื่องเงินเรื่องทอง การที่คนจะโอนเงินมาให้เรา มันต้องเชื่อใจอย่างมาก เราต้องทำให้มันโปร่งใสชัดเจน โปรเจกต์บริจาคเงินในปีนี้จึงให้แฟนคลับโอนไปที่มูลนิธิโดยตรง เราแค่มานับยอดรวมการบริจาค

แฟนคลับบางคนเป็นผู้ใหญ่ การที่เขาบริจาคเข้ามูลนิธิโดยตรง ก็สามารถนำใบกำกับภาษีไปลดหย่อนภาษีได้ด้วย และเรื่องเงินก็เป็นเรื่องของกำลังศรัทธา เราไม่ได้กำหนดว่าต้องบริจาคให้ที่ไหน บางคนอยากบริจาคให้สัตว์ อยากบริจาคให้เด็ก อยากบริจาคให้ให้ผู้ป่วยไร้ญาติ หรือจะบริจาคให้ที่ไหนก็ได้ตามความสบายใจ แค่มากรอกแบบฟอร์มและเอาใบเสร็จมาให้เราดู

ส่วนเมื่อปีที่แล้วหลังโปรเจกต์บริจาคเลือด เราก็ทำวิดีโอสรุปงานลงจอ LED ที่สยาม แต่ปีนี้เราไม่ได้ลงสื่อจอ เพราะแฟนคลับก็เป็นคนจำนวนมากที่มีหลายความคิด ในส่วนนี้เราเข้าใจ เนื่องจากการซื้อสื่อมีราคาค่อนข้างสูง จึงมีคนที่คิดว่าเอาเงินตรงนี้ไปบริจาคดีกว่าไหม เราก็นำผลตอบรับนี้มาปรับปรุง ทำให้ปีนี้ไม่ซื้อสื่อจอแล้ว เอาเงินไปบริจาคให้เกิดประโยชน์ตามจริงแทน

(รูปจาก twitter ของ CANDYCLOVER)

Twitter : @BTS_Thailand
Facebook : BTS Thailand
Website : letbtsknow.blogspot.com

FOR IGOT7 TH
บ้านเบสสายโหวต รวมพลังคว้ารางวัลใหญ่

บ้านเบสของวง GOT7 บอยแบนด์เกาหลี 7 คน และมีหนึ่งในสมาชิกเป็นชาวไทย ซึ่งบ้าน FOR IGOT7 TH ก่อตั้งขึ้นโดยมีเป้าหมายสำคัญคือการทำให้ศิลปินกลุ่มนี้ชนะรางวัลในงานต่างๆ และได้พื้นที่สื่อเพื่อให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น

โดยวิธีที่เหล่าแฟนคลับจะช่วยศิลปินได้ คือการโหวตหรือการสตรีมต่างๆ นั่นเอง ดังนั้นบ้านเบสนี้จึงเป็นศูนย์รวมพลังการโหวตจากเหล่าแฟนคลับที่ทำออกมาอย่างเป็นระบบ

จากกลุ่มไลน์เล็กๆ สู่บ้านโหวตใหญ่

ตอนที่ GOT7 เริ่มเดบิวต์ จะเป็นช่วงของการโหวตแข่งกับศิลปินท่านอื่นๆ ที่เป็นศิลปินหน้าใหม่ เรารวมตัวในกลุ่มไลน์เพื่อช่วยกันโหวต แต่การรวมกันในกลุ่มไลน์ ก็ได้เพียงแค่กลุ่มเล็กๆ เท่านั้น จึงมีความคิดว่าน่าจะลองไปทวีตเชิญชวนในทวิตเตอร์ดู พอเราให้คนจากกลุ่มไลน์ไปทวีตพร้อมๆ กัน แฟนคลับหลายคนก็เกิดความสนใจขึ้นมา

ทำให้เราเริ่มคุยกันถึงการเปิดเป็นบ้านเบสเพื่อเป็นศูนย์รวมการโหวต การเทรนด์ และการสตรีมเพลง เพราะอยากให้ GOT7 ได้รางวัล อยากให้พวกเขาชนะ แล้วได้รับความสนใจมากขึ้น

ตอนแรกที่เปิดบ้านเบสนี้มีกัน 7 คน เพราะเรายึดตามจำนวนสมาชิกในวง สิ่งที่เราทำก็คือ การรับบริจาคเงินเพื่อใช้ในการโหวตศิลปิน ทำรูปภาพสอนวิธีการโหวต ทำการประชาสัมพันธ์ข้อมูลการโหวต และตอบคำถามกลุ่มแฟนคลับ ซึ่งเราแบ่งงานกันชัดเจนว่าใครทำในส่วนไหน โดยช่วงแรกที่เริ่มเปิดทวิตเตอร์ของบ้านเบสหลังนี้ เราได้เก็บเกี่ยวคนมาจากกลุ่มไลน์เดิมประมาณ 500-600 คน

สิ่งที่เราได้กลับมาจากการทำบ้านเบสนี้ มันอาจไม่ได้เห็นเป็นรูปธรรม แต่เป็นความสุขเล็กๆ เพราะอย่างน้อยเราก็ได้พยายามทำเพื่อให้ศิลปินที่เราชอบไปถึงจุดๆ หนึ่งได้ และเราได้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พวกเขาเติบโตขึ้นได้

(รูปจาก รายการ THE SHOW)

การรวมพลทำงานอย่างเป็นระบบ

ถ้าเป็นงานโหวตทั่วไป อย่างพวกรายการเพลง เราจะลงข้อมูลประชาสัมพันธ์ เชิญชวนคนให้ช่วยกันโหวต แต่ถ้าเป็นงานโหวตใหญ่ๆ นอกจากทำประชาสัมพันธ์แล้ว เราสร้างทีมโหวตด้วย โดยงานใหญ่ เช่น งานที่มีการจัดงานประกาศรางวัลอย่างเป็นทางการ งานเพลงปลายปี เพราะถ้าเป็นงานใหญ่ ก็จะมีถ่ายทอดสดการรับรางวัลทางโทรทัศน์ และได้ออกสื่อต่างๆ 

ส่วนงานสตรีมเพลงแต่ละครั้งเราใช้คนเกือบ 1,000 คน จะมีการแบ่งทีม เพราะการทำงานเป็นทีมจะทำงานได้ง่ายกว่า เนื่องจากแอดมินไม่สามารถดูแลคนจำนวนมากได้ เราจะหาหัวหน้าประจำทีมมาดูแล เหมือนเป็นผู้ช่วยเรา

และหลังจบการโหวตหรือการสตรีมแต่ละงาน เราจะสอบถามความคิดเห็นและข้อเสนอแนะทุกครั้ง ว่างานที่ผ่านมาการทำงานของทีมในกลุ่มไลน์เป็นอย่างไร และการทำงานครั้งต่อไปอยากให้เราปรับปรุงในส่วนไหน แต่คำตอบที่กลับมาส่วนใหญ่คือ เหมือนเดิม ไม่ต้องปรับปรุง แต่ทุกครั้งเราก็พยายามใส่ใจลูกทีมของเราให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้แต่ละคนต้องทำงานหนักเกินไป

(รูปจาก YouTube ช่อง Mnet K-POP)

ไม่ใช่ทุกคนที่มีเวลา

ตอนที่ยังเป็นกลุ่มไลน์ เราจะสร้างกลุ่มขึ้นเฉพาะตามแต่ละงานโหวต พอจบงานเราก็จะปิดกลุ่ม คนในกลุ่มจะหมุนเวียนไปเรื่อยๆ เพราะช่วงที่เราทำงานโหวต คนในกลุ่มบางคนไม่ว่างก็ขอออก เราจึงต้องรับคนใหม่เข้ามาเพื่อให้งานได้เดินต่อ

มีช่วงที่ท้อเหมือนกัน ตอนที่แอดมินคนอื่นๆ ในบ้านเบส เริ่มโตและทำงาน ช่วงนั้นไม่มีใครเลย เหลือเราคนเดียว เราก็คิดว่าทำไมคนอื่นถึงสามารถไปทำงานของตัวเองได้ ทำให้เรารู้สึกไม่อยากทำต่อแล้ว จนเกือบจะปิดบ้านไป

แต่มีน้องคนหนึ่งมาเสนอว่า ให้รับคนอื่นเข้ามาทำบ้านนี้ต่อหรือไม่ก็ยกบ้านให้คนอื่นดูแล ซึ่งในความคิดเรา ในเมื่อเราสร้างบ้านนี้ขึ้นมาด้วยมือตัวเอง ถ้าเกิดจะต้องปิดบ้านหลังนี้ เราก็ต้องปิดด้วยตัวเราเอง ไม่ใช่ยกให้คนอื่นดูแลต่อ เพราะเรามีมาตรฐานของเราอยู่แล้ว ไม่รู้ว่าคนที่ทำต่อจะสามารถทำงานในมาตรฐานเดียวกับเราได้หรือเปล่า

Twitter : @FORIGOT7TH
Website : comeflywithgot7.wordpress.com

TWICE Support TH
บ้านเบสเพื่อโปรเจกต์คอนเสิร์ตโดยเฉพาะ

บ้านเบสที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อทำโปรเจกต์ในคอนเสิร์ตของวง TWICE ที่จัดขึ้นที่ประเทศไทยในปี 2019 ซึ่งการทำโปรเจกต์ในคอนเสิร์ตนั้น เรียกว่าเป็นธรรมเนียมของเหล่าแฟนคลับที่เมื่อศิลปินมาจัดคอนเสิร์ตก็อยากฝากภาพความประทับใจกลับไป

ตัวอย่างเช่น แปรอักษร ชูป้ายไฟ ทำวิดีโอฉาย หรือฟู้ดซัพพอร์ต และถึงแม้แอดมินของบ้านเบสนี้เพิ่งเป็นแฟนคลับได้ไม่นาน แต่ความรักและความมุ่งมั่นก็ทำให้ตัดสินใจมาเป็นหัวเรือในการทำโปรเจกต์ครั้งนี้

แฟนคลับหน้าใหม่ หัวใจเกินร้อย

วง TWICE ก่อตั้งวงตั้งแต่ปี 2015 แต่เราเพิ่งเข้ามาเป็นแฟนคลับวงนี้เมื่อปี 2018 ซึ่งในปีเดียวกัน เราก็ได้ไปคอนเสิร์ต TWICE ที่จัดในประเทศไทย และได้เห็นโปรเจกต์ที่แฟนคลับทำในคอนเสิร์ต ทำให้เรารู้สึกว่าอยากทำให้มันมีอะไรมากกว่านี้

จนได้รู้จักกับพี่ๆ บ้าน TWICE & ONCE in Pantip ซึ่งเป็นหนึ่งในบ้านเบสของวง TWICE และได้คำแนะนำเกี่ยวกับการทำโปรเจกต์คอนเสิร์ต แต่พี่ๆ เขาอยากลองให้คนรุ่นใหม่ได้ทำบ้าง พอเราคิดว่าเราจะทำแน่นอน ก็ประกาศออกไปว่ามีใครจะทำไหม ซึ่งไม่มี เราจึงได้มาทำโปรเจกต์นี้และเปิดทวิตเตอร์ของบ้านนี้ขึ้นมา

ยอมรับว่าโปรเจกต์นี้กระทบกับการทำงานและชีวิตมาก เพราะเราค่อนข้างทุ่มเท และด้วยความที่ทีมเราเป็นทีมใหม่ ระบบการทำงานยังไม่ลงตัว เราต้องลงไปทำในทุกส่วน ทำให้เวลาเราทำงานในบริษัท บางทีโปรเจกต์เกิดมีปัญหาขึ้นมาเราก็ต้องแก้ตอนนั้น เหมือนเราต้องสแตนด์บายตลอดเวลา

(รูปจาก Facebook ของ 411ent)

คอนเสิร์ตที่เต็มไปด้วยความกังวล

ปัญหาของโปรเจกต์นี้ มีตั้งแต่วินาทีแรกที่เราเดินเข้าคอนเสิร์ต จนวินาทีสุดท้าย อย่างแรกคืออุปกรณ์ที่ใช้ในโปรเจกต์ไม่ถูกยกลงมาจากห้องเก็บของก่อนจะปล่อยคนเข้าคอนเสิร์ต เราก็ต้องโทรไปแจ้งเขาให้ช่วยยกลงมา

อย่างต่อมา เราเดินเข้าไปในคอนเสิร์ต ซึ่งเป็นบัตรโซนยืนที่อยู่ด้านล่าง พอเรามองขึ้นไปที่นั่งชั้น 2 มันจะมีกล่องไฟสำหรับการแปรอักษร เป็นตัว T ตัว W และตัว ∞ (อินฟินิตี) ซึ่งตัว ∞ วางผิด ก่อนที่คอนเสิร์ตจะเริ่มเราก็ตัดสินใจวิ่งไปหาพี่การ์ดให้ช่วยพาขึ้นไปที่นั่งข้างบน ขอไปขยับกล่องให้มันถูกต้อง เพราะโปรเจกต์นี้เราทำมาตั้งนาน เราจะไม่ยอมให้มันผิด

แต่ปัญหาไม่จบแค่นั้น เพราะกล่องไฟมีถ่านไม่ครบทั้งที่ตรวจหมดแล้ว เราเลยวิ่งลงไปข้างล่าง โดยที่ตอนนั้นไม่มีเงินติดตัวเลย ไม่รู้คิดอะไรอยู่ แต่ไปเจอพี่คนหนึ่งพอดี จึงขอยืมเงินเขามาซื้อถ่าน และหาวิธียื่นถ่านไปให้คนที่นั่งข้างบนตรงกล่องไฟ

พอคอนเสิร์ตดำเนินไปจนถึงช่วงแฟนโปรเจกต์ เราไม่ได้ดูวิดีโอโปรเจกต์ที่ทำมาฉายในคอนเสิร์ตเลย เพราะหันไปดูความเรียบร้อยที่กล่องไฟอย่างเดียว แต่ว่ามันประทับใจนะ พอศิลปินเห็นโปรเจกต์แล้วเขามีความสุข น้ำตาคลอ ก็ถือว่าเราทำสำเร็จ

(รูปจาก Facebook ของ 411ent)

แม้จะเหนื่อยแต่มีแรงใจทำต่อ

การมาทำโปรเจกต์นี้ มีวันที่ร้องไห้ หรือบางครั้งต้องขนของคนเดียวก็มี แต่ไม่เคยถึงขั้นอยากเลิกทำกลางทาง ถึงจะเสียใจแต่รู้สึกว่าเราต้องทำต่อให้เสร็จ จุดมุ่งหมายของเราคืออยากทำให้ศิลปินที่เราชอบมีความสุข

ถ้าใครติดตาม twicetagram (IG ของ TWICE) จะมีที่สมาชิก ‘โมโมะ’ ลง IG Story คัพเค้กรูปปั้นคล้ายตัวเอง ส่วน ‘ดาฮยอน’ ก็ถ่ายรูปคัพเค้กรูปปั้นคล้ายตัวเองเหมือนกัน และ ‘จองยอน’ เป็นภาพในสนามบินที่เกาหลี คือเขากลับไปแล้ว แต่ที่มือเขายังใส่แหวนไฟที่เป็นอุปกรณ์โปรเจกต์ของเรา ตอนแรกคิดว่าสิ่งที่เราทำจะไปไม่ถึง แต่พอได้เห็นแล้วก็รู้สึกว่ามันถึงจริงๆ

ตอนนี้ยังไม่มีการพูดคุยในทีมว่าใครจะทำต่อบ้าง แต่ตัวเราก่อนจะจบโปรเจกต์ บอกเลยว่าอาจจะไม่ทำแล้ว เพราะเหนื่อยมาก แต่ว่าพอวันที่เราทำเสร็จ ได้เห็นรีแอกชันของศิลปิน เราตัดความคิดนั้นออกไปหมดเลย กลายเป็นว่า ‘โอเค ฉันจะทำต่อ!’ แต่ส่วนของทางบ้านโปรเจกต์ต้องดูก่อน

(รูปจาก twitter ของ @TWTH2019)

Twitter : @TWTH2019

7 Event น่าสนใจตลอดเดือนกุมภาพันธ์
 2017


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save