บีทีเอสซ่อมแล้วก็กลับเข้าสู่ช่วงปกติในการแย่งชิงพื้นที่บนบีทีเอส ไปทำงานทีไรต้องยืนทุกที คนเยอะ ยืนก็เมื่อย บางทีก็อยากนั่งบ้าง แต่การเดิมพันมันช่างสูงเหลือเกิน ช่วงชิงที่นั่งไม่ทันก็เหมือนกับเป็นผู้แพ้ในสมรภูมิ นี่คือการรวบรวมเทคนิคที่จะเพิ่มโอกาสพิชิตที่นั่งบนบีทีเอส แล้วคุณจะไม่ใช่ผู้แพ้อีกต่อไป ตำแหน่งเหมาะสมในการยืนรอบนชานชาลา ระบบรถไฟฟ้าบีทีเอสเป็นรถไฟแบบ 4โบกี้ต่อ1ขบวน ตำแหน่งของโบกี้แรกและโบกี้สุดท้ายจะเป็นโบกี้ที่อยู่ใกล้ทางขึ้นชานชาลามากที่สุด ทำให้เป็นตำแหน่งที่มีคนมากที่สุดด้วย ควรหาทำเลทองในการเข้าแถวยืนรอรถไฟฟ้าบริเวณกลางขบวน(ช่วงโบกี้ที่2หรือ3) ซึ่งมักจะมีคนน้อยกว่า ทำให้มีโอกาสที่จะได้เป็นหัวแถวหรือเป็นกลุ่มต้นแถว และมีโอกาสมากกว่าในการเข้าไปเลือกที่นั่งบนรถไฟฟ้า จดจำตำแหน่งประตูรถไฟฟ้า รถไฟฟ้าบีทีเอสหนึ่งขบวนนั้นในแต่ละโบกี้ จะมีประตูฝั่งละ 4บาน เท่ากับว่าขึ้นชานชาลามาจะเจอประตูทั้งหมด 16 บาน ประตูที่ควรมองหาที่สุดคือประตูที่2และ3ของแต่ละโบกี้(ประตูที่อยู่บริเวณกลางแต่ละโบกี้) เพราะเป็นประตูที่สามารถเจอที่นั่งได้ทั้งทางซ้ายมือและทางขวามือ ไม่ควรขึ้นประตูที่อยู่ริม(บานแรกและสุดท้าย)ของแต่ละโบกี้ เพราะจะมีโอกาสเจอที่นั่งแค่ฝั่งเดียว อีกฝั่งจะเป็นห้องขับหรือเป็นทางเชื่อมระหว่างขบวนซึ่งจะไม่มีที่นั่ง ควรยืนต่อแถวบนชานชาลายังไง ผู้ที่ได้เปรียบในการเข้าไปหาที่นั่งบนรถไฟฟ้าที่สุดคือคนที่อยู่กลุ่มหัวแถว หากคุณเป็นคนที่ไม่ได้อยู่กลุ่มคนหัวแถวล่ะก็ อย่าหวังจะได้นั่ง วิธีที่ดีที่สุดคือการรอขบวนถัดไป หากคุณไม่ได้รีบ(เพราะถ้ารีบก็ยอมยืนเถอะ) คุณก็จะอยู่ในตำแหน่งหัวแถวสำหรับขบวนถัดไป มีอีกกรณีที่หากเป็นสถานีที่คนเยอะ บางครั้งจะมีการต่อแถวอีกหนึ่งแถวเพิ่มขึ้นมา เป็นแถวในและแถวนอก การต่อแถวใหม่ที่อยู่ริมนอกแม้จะเป็นหัวแถวแต่คุณก็มีโอกาสน้อยมากที่จะได้นั่ง เพราะประตูในขณะเปิดสุดแล้วมีความกว้างแค่ 1.4เมตรเท่านั้น ไหนจะคนที่ออกจากรถไฟฟ้า ไหนจะคนแถวใน การแทรกเข้าไปไม่ใช่เรื่องง่ายเท่าไหร่ การมองหาตำแหน่งที่นั่ง หลังจากขึ้นไปบนรถไฟฟ้าจะพบกับที่นั่งฝั่งละ7ที่นั่ง กับที่นั่งที่อยู่ฝั่งตรงข้ามอีก7ที่นั่ง ให้หันมามองหาที่ว่างโดยเริ่มจากตำแหน่งที่ 1 ที่เราสามารถไปถึงได้ไวที่สุดก่อนคือ ที่นั่งริมสุดที่ติดกับประตูฝั่งที่เราเข้ามา ให้มองไล่ไปจนถึงแค่ที่นั่งที่4เท่านั้น(เกินกว่านั้นคือไกลเกินไป เสี่ยงโดนแย่งสูง) หากไม่มีที่ว่างเลยให้มองไปที่ตำแหน่งที่ 2 คือฝั่งตรงข้าม ถ้ายังไม่มีอีกก็หันหลังไปมองที่ตำแหน่งที่ 3 และ 4 ตรงนั่งอีกฝั่งเลย อาจจะยังพอมีที่ว่าง หาที่ว่างให้เจอแล้วรีบเข้าไปนั่งให้ไวที่สุด สายตาคุณจะต้องไวดุจเหยี่ยวเพราะหากช้าเกินไปเพียงแค่เสี้ยววินาที คุณคือผู้แพ้ที่จะต้องยืน การยืนให้ได้ที่นั่ง หากคุณคือผู้แพ้ที่หาที่นั่งไม่ได้ ยังมีตำแหน่งการยืนสำหรับผู้ไม่ยอมแพ้อยู่ คือตรงกลางระหว่างแผงที่นั่งทั้งสองฝั่งนั่นแหละ และเผชิญหน้ากับคนนั่งอย่างกล้าหาญ เพราะถ้าหากมีคนลุกเพื่อลงสถานีระหว่างทางของคุณ คุณก็จะมีโอกาสที่จะได้เสียบแทนที่นั่งนั้นทันที เทคนิคเล็กๆคือสังเกตลักษณะคนที่นั่งอยู่ หากเป็นนักท่องเที่ยวก็มีโอกาสที่พวกเค้าจะลงที่สถานีอโศก สุขุมวิทหรือสยาม หรือหากเป็นนิสิตจุฬาฯ พวกเค้าก็อาจจะลงที่สถานีสามย่าน ก็เป็นอีกเทคนิคที่เพิ่มโอกาสหาที่นั่งให้คุณได้ หนีไปขึ้นที่ต้นสาย ถ้าขึ้นต้นสายไม่มีใครแย่งแน่นอน หากคุณอยู่สถานีใกล้ๆคุณก็สามารถนั่งย้อนไปเพื่อที่จะหาที่นั่งแบบชัวร์ๆได้ เช่นคุณเดินทางมาสายสุขุมวิทและต้องการเปลี่ยนสายไปสายสีลม คุณก็นั่งไปสถานีสนามกีฬาแห่งชาติเพื่อไปหาที่นั่งที่ต้นสายได้ และโอกาสที่จะได้ที่นั่งก็จะมีสูงมากๆ แต่หากเป็นในช่วงไพรม์ไทม์หรือเวลาเลิกงานบางครั้งก็อาจจะมีผู้โดยสารเยอะเหมือนกัน ฉนั้นไม่ว่ายังไงก็ต้องหูไวตาไวเอาไว้อยู่ดี เลือกขึ้นเที่ยวเช้าตรู่หรือเที่ยวดึก ว่ากันว่าหากขึ้นรถไฟฟ้าเที่ยวแรกสุดหรือเที่ยวสุดท้ายของวัน ไม่ใช่แค่จะได้นั่งแต่จะนอนหรือเดินเล่นบนรถไฟฟ้าเลยยังได้(แต่ก็ควรที่จะนั่งเฉยๆนั่นแหละ) หากเลยช่วงเวลาไพร์มไทม์ที่มีผู้โดยสารใช้บริการมาก ก็จะมีโอกาสได้ที่นั่งสูงมาก โดยคุณสามารถมาขึ้นรถไฟฟ้าได้ตั้งแต่ก่อน 6:00น.และรอบสุดท้ายของวันที่ 00:00น. การใช้สิทธิ์ในที่นั่ง Priority Seat Priority Seat คือที่นั่งพิเศษที่สำรองไว้สำหรับเด็ก สตรีมีครรภ์ คนชรา และคนพิการ รวมไปถึงพระสงฆ์ หากคุณเป็นหนึ่งบุคคลที่มีสิทธิ์ในที่นั่งสำรอง อย่ารีรอที่จะใช้สิทธิ์ของคุณ ไม่จำเป็นต้องยืนรอจนคนอื่นลุกให้นั่ง สามารถสะกิดบอกคนที่กำลังนั่งที่นั่งสำรองให้สละที่ให้คุณนั่งได้ทันที และคุณก็จะได้นั่งแน่นอน 100% โดยที่นั่งเหล่านี้จะอยู่บริเวณที่นั่งริมสุดติดกับประตูของทุกฝั่งที่นั่ง แต่ก็ไม่ต้องทำถึงขั้นแกล้งเป็นคนพิการ แต่งตัวแก่ หรือห่มจีวรไปขึ้นบีทีเอสนะ ให้ผู้โดยสารที่ต้องการนั่งจริงๆเถอะ อย่าไปละเมิดสิทธิ์กัน ในช่วงเวลาเร่งด่วนแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะได้ที่นั่งบนบีทีเอส เทคนิคเหล่านี้เป็นเพียงวิธีที่จะช่วยเพิ่มโอกาสให้คุณเท่านั้น จะแพ้หรือชนะก็ต้องแล้วแต่ทักษะด้านไหวพริบและความเร็วของคุณเอง แต่อย่าลืมมีน้ำใจนักกีฬากันด้วย มีผู้ชนะก็ต้องมีผู้แพ้ อย่าลืมที่จะเป็นผู้แพ้ที่ดี และเป็นผู้ชนะที่เอื้อเฟื้อต่อผู้อื่นบ้าง ที่นั่งไม่ใช่สิ่งสำคัญ สิ่งสำคัญอยู่ที่จุดหมายปลายทางที่เราจะไป ระหว่างทางก็ไม่ต้องสมบูรณ์แบบไปซะทุกครั้งก็ได้
