นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เผยความคืบหน้านโยบายลดค่ารถไฟฟ้าของกระทรวงคมนาคมนั้น เตรียมเสนอแนวทางลดค่าเดินทางรถไฟฟ้า 2 รูปแบบ ดังนี้ 1. ลดค่ารถไฟฟ้าในช่วงนอกเวลาเร่งด่วน ได้แก่ เวลา 10.00-16.00 น.และ 20.00 – 24.00 น. รวมถึงวันเสาร์และอาทิตย์ จะเก็บค่าโดยสารลดลง 17-20 บาท คิดเป็นสัดส่วนลดราคาสูงสุด 45% แบ่งตามเส้นทางดังนี้ รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต ลิงก์ ราคาปกติ อยู่ที่ 15-45 บาท /คน/เที่ยว โดยช่วงนอกเวลาเร่งด่วน จะลดเหลือ 15-25 บาท /คน/เที่ยว (ลดลง 45%) รถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงเตาปูน-บางใหญ่ ราคาปกติ อยู่ที่ 14-42 บาท/คน/เที่ยว ช่วงนอกเวลาเร่งด่วน จะลดเหลือ 14-25 บาท/คน/เที่ยว (ลดลง 40%) รถไฟใต้ดินสายสีน้ำเงินช่วง บางซื่อ-หัวลำโพง-บางแค ปัจจุบันอยู่ที่ 16-42 บาท/คน/เที่ยว ช่วงนอกเวลาเร่งด่วน จะลดเหลือ 16-30 บาท/คน/เที่ยว (ลดลง 28%) 2. ลดค่าบัตรรายเดือน หรือลดค่าโดยสารลง 5 บาท สำหรับตั๋วโดยสารรายเดือนในเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วง รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์และรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงิน และในวันที่ 6 ก.ย.นี้ คณะกรรมการพัฒนาโครงสร้างอัตราค่าโดยสารระบบขนส่งทางราง จะพิจารณามาตรการลดค่าครองชีพในการเดินทางแก่ผู้ใช้รถไฟฟ้า หากผ่านความเห็นชอบจะนำเสนอต่อกระทรวงคมนาคมให้บังคับใช้ทันที โดยเฉพาะมาตรการลดค่าโดยสารช่วงนอกเวลาเร่งด่วน สามารถดำเนินการได้ตั้งแต่เดือนตุลาคม ทั้งนี้นโยบายนี้จะเป็นการทดลองใช้มาตรการก่อนเป็นเวลา 3 เดือน กรมการขนส่งทางรางจะประเมินผลว่าส่งผลดีต่อการให้บริการระบบรางอย่างไร นายสราวุธกล่าวต่อว่า มาตรการดังกล่าวจะกระตุ้นให้ประชาชนหันมาใช้รถไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 10% ส่วนเงินที่จะนำมาอุดหนุนการลดค่าโดยสารในครั้งนี้จะไม่กระทบกับภาษีประชาชน เตรียมแผนหารือกับกรุงเทพมหานครและกระทรวงการคลังในการนำภาษีป้ายวงกลมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งแต่ละปีจัดเก็บได้ 14,000 ล้านบาท จะขอจัดสรรมาใช้อุดหนุนมาตรการดังกล่าวปีละ 500 ถึง 1,000 ล้านบาท นอกจากนี้จะมีการเสนอมาตรการให้ผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วโดยสารรถไฟฟ้าในระบบใดก็ได้ครบ 15,000 บาท สามารถนำค่าใช้จ่ายมาลดหย่อนภาษีเงินได้ส่วนบุคคล ซึ่งรูปแบบนี้จะเป็นลักษณะเดียวกับนโยบายช้อปช่วยชาติ ที่มา : dailynews