เรื่องราวของ “JUJUTSU KAISEN : HIDDEN INVENTORY / PREMATURE DEATH – THE MOVIE” จะพาแฟนๆ อนิเมะ “Jujutsu Kaisen” ย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่ “เกะโท-โกโจ” ยังเป็นนักเรียนปีสองของโรงเรียนไสยเวท พวกเขาได้รับภารกิจให้ปกป้อง “อามาไน ริโกะ” เด็กสาวที่ได้รับเลือกให้ผสานร่างกับท่านเทนเงนเพื่อคงความเป็นอมตะ “เกะโท-เกะโจ” จึงต้องต่อกรกับกลุ่มนักฆ่าทั้งหลายที่หมายหัว “ริโกะ” ไว้ โดยเฉพาะกับ “โทจิ ฟุชิงุโระ” นักฆ่าไร้พลังเวทย์ที่แข็งแกร่งอย่างน่าเหลือเชื่อ ก่อนอื่นหากจะพูดถึงความสดใหม่ทางด้านเนื้อหาของ “JUJUTSU KAISEN: Hidden Inventory/Premature Death” ก็อาจจะพูดได้ไม่เต็มปากนัก เพราะแฟนๆ การ์ตูนหลายคน คงจะเคยรับชมเนื้อหาในรูปแบบอนิเมะ (ตอนสั้น) กันมาก่อนหน้านี้แล้ว ยกเว้นฉากน่ารักๆ ก่อนเริ่มเรื่องที่ขอแนะนำเลยว่าไม่ควรพลาด แต่ถ้าหากจะพูดถึงในแง่ของความรู้สึก ต้องยอมรับว่า “JUJUTSU KAISEN: Hidden Inventory/Premature Death” ในเวอร์ชั่นนี้ ยังคงสร้างความสะเทือนอารมณ์ได้ดี ดูจบแล้วเหมือนได้แผลใหม่มาประดับกลางใจแม้จะเคยรับรู้เรื่องราวมาก่อนแล้วก็ตาม ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะการชมในโรงภาพยนตร์ ทำให้เราได้ดูเรื่องราวติดต่อกันแบบยาวๆ ไม่มีจังหวะหยุดคั่นเหมือนกับตอนรับชมในเวอร์ชั่นแบ่งตอน จึงทำให้เราสามารถดำดิ่งไปกับเนื้อหา ความคิด ความรู้สึกของตัวละครได้แบบเต็มๆ นี่จึงเป็นเหตุผลให้โดยส่วนตัวแล้วรู้สึกชอบเวอร์ชั่นภาพยนตร์มากกว่าเวอร์ชั่นตอนสั้น แม้เรื่องราวจะไม่ได้แตกต่างกันก็ตาม แถมในตอนจบของภาพยนตร์ ยังมีเครดิตสุดกินใจที่ทำเอาแฟนอนิเมะอยากจะจดจำมันไว้ให้ครบทุกวินาที ยิ่งมีเพลง “Where Our Blue Is – Tatsuya Kitani” หรือ “ท้องฟ้าที่เรายังมีกัน” มาประกอบเนื้อหาด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้เนื้อเรื่องสีเทาชวนขมนี้ยิ่งขมลึกไปถึงใจ เรียกได้ว่าถ้าให้พูดถึงสิ่งเดียวที่รู้สึกเสียดายใน “JUJUTSU KAISEN: Hidden Inventory/Premature Death” หลังออกจากโรงภาพยนตร์มา ก็คงต้องขอยกให้มิตรภาพของ “เกะโท-โกโจ” ที่แม้แต่ไสยเวทย้อนกลับก็ไม่สามารถเอาคืนมาได้นี่แหละ ร่วมดำดิ่งไปสู่กาลเวลา ความทรงจำ และสายสัมพันธ์ที่ไม่มีวันย้อนกลับมาใน “JUJUTSU KAISEN : HIDDEN INVENTORY / PREMATURE DEATH – THE MOVIE” รับชมได้แล้ววันนี้ ในโรงภาพยนตร์
