category Mango Movie Review : เครยอนชินจัง เดอะมูฟวี่ : ร้อนแรงแซ่บเว่อร์! แดนเซอร์แห่งคาซึคาเบะ “ปลุกพลังแห่งอินเดีย แล้วมาทำให้โลกสนุกด้วยเสียงเพลงกันเถอะ!”

Writer : nong bambi

: 27 ตุลาคม 2568

เชื่อว่าการ์ตูนในดวงใจยามทานข้าวของใครหลายๆ คนคงหนีไม่พ้นเจ้าเด็กแก้มกลมตัวแสบ สวมเสื้อสีแดงและกางเกงสีเหลือง ที่รู้จักกันในชื่อ “ชินจัง”

เครยอนชินจัง เดอะมูฟวี่ : ร้อนแรงแซ่บเว่อร์! แดนเซอร์แห่งคาซึคาเบะ เป็นเดอะมูฟวี่เรื่องที่ 33 ของชินจัง กำกับโดยมาซาคาซุ ฮาชิโมโตะ โดยในการผจญภัยครั้งนี้ ชินจังและผองเพื่อนยกขบวนกันไปแดนซ์ไกลถึงประเทศอินเดีย หรือดินแดนภารตะนั่นเอง

เครยอนชินจัง เดอะมูฟวี่ ในภาคนี้ได้เล่าถึงการจัดงานเทศกาล Kasukabe Kids Entertainment Festival เพื่อเฉลิมฉลองที่เมือง “มุชิไบ, รัฐฮากาชมิล” ในประเทศอินเดียได้กลายเป็นเมืองพี่น้องกับเมือง “คาซูคาเบะ” ซึ่งเป็นบ้านเกิดของชินจัง

ชินจังและผองเพื่อนสมาชิกกองกำลังป้องกันคาซูคาเบะ (Kasukabe Defense Force)  ที่ประกอบไปด้วย ชินโนะสุเกะ โนฮาระ (หัวหน้าแก๊ง), โทรุ คาซามะ, เนเน่ ซากุราดะ, มาซาโอะ ซาโตะ และโบทาโร่ อิคาวะ จึงตัดสินใจรวมพลังกันเพื่อเข้าแข่งในงานเทศกาล Kasukabe Kids Entertainment และมาสัมผัสเอกลักษณ์ของประเทศอินเดียด้วยกัน

แต่แล้วก็เกิดเรื่องวายป่วง เมื่อ “ชินจัง” ได้พบกับกระเป๋าเป้สะพายที่มีทิชชูสะกดจิตปริศนา และ “โบจัง” ถูกปลุกพลังมืดภายในตัวขึ้นมา หลังจากที่แพ้เสียงในหัวแล้วยัดทิชชูเข้าไปในจมูก นำไปสู่การเดิมพันมิตรภาพ และต่อสู้ด้วยพลังแห่งอินเดีย

เนื้อเรื่องยังคงเรียกเสียงหัวเราะและรอยยิ้มได้เช่นเคย แต่ที่พิเศษกว่าทุกภาคคงเป็นเรื่องเสียงเพลงและท่าเต้นปลุกพลังอินเดียสุดน่ารักปนความฮาที่มีให้รับชมและรับฟังตลอดการผจญภัยครั้งนี้ จนเกือบเรียกได้ว่าเป็นการ์ตูน Musical เลยทีเดียว ทั้งยังมีการนำเพลงธีมไฮไลต์ของ “ชินจัง” มารีมิกซ์ใหม่เพื่อให้เข้ากับภาคนี้โดยเฉพาะอีกด้วย


และนี่เป็นครั้งแรกในชินจังเดอะมูฟวี่ที่ตัวหลักในการดำเนินเรื่องคือ “โบจัง” เด็กผู้ชาย Introvert ที่มาพร้อมกับน้ำมูกย้อยอันเป็นซิกเนเจอร์ ผู้ที่ไม่เคยมีใครได้รับรู้สิ่งที่อยู่ในใจของเขาเลย แม้แต่เพื่อนๆ ในแก๊งก็ตาม ซึ่งเนื้อเรื่องได้พาคนดูไปทำความรู้จักและเข้าใจในตัวของโบจังได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว รวมไปถึงการนำเสนอมิตรภาพของเด็กๆ เหล่านี้ด้วย

นอกจากนี้ยังมีการสอดแทรกกิมมิคของยุคสมัยที่เปลี่ยนไปผ่านการกระทำเล็กๆ น้อยๆ ของตัวละคร อย่างการเล่นโซเชียลมีเดีย หรือ การถ่ายรูปอัพเดตให้คุณแม่ดูผ่านทางโทรศัพท์ ทำให้รู้สึกรีเลทกับชีวิตจริงอยู่ไม่น้อยเลย

ไฮไลต์ของภาคนี้คือการนำเสนอเรื่องราวที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของวัฒนธรรมอินเดีย ไม่ว่าจะเป็นสถานที่สำคัญอย่าง “ทัชมาฮาล”, การแต่งกายฉบับชาวอินเดีย, ภาษาอินเดีย อาทิ “นมัสเต” ที่เป็นคำกล่าวทักทาย หรือ คำกล่าวขอบคุณอย่าง “ธันยาวาด”, การร้องเต้นอันเป็นซิกเนเจอร์ หรืออาหารหลักเมืองแขกอย่าง เมนูแป้งที่ทานคู่กับแกงต่างๆ โดยเฉพาะ “จาปาตี” หรือโรตีอินเดีย (ดูจบแล้วถึงกับต้องเสิร์ชหาร้านทานกันเลยทีเดียว) 

ถ้าพูดถึงเรื่องโพรดักชันในส่วนของภาพยังคงมาตรฐานความสวยสดงดงามไว้ไม่ต่างจากภาคอื่นๆ แอบเสียดายที่การแปลเพลงของพากย์ไทยยังไม่ค่อยคลิกหูเท่าไร แต่ก็พอลบล้างได้จากเหล่าทีมนักพากย์ไทยคนเก่ง 

โดยหนึ่งในนั้นคือ “รตา ชินกระจ่างกิจ” ในบทบาทของ “อาเรียน่า” ไอดอลสาวที่จะมาร่วมผจญภัยไปด้วยกันในภาคนี้ ซึ่งเป็นผลงานพากย์เสียงครั้งที่ 11 ของรตาที่ทำออกมาได้ดีมากๆ ทั้งในส่วนของการพากย์และการร้องเพลงตลอดเรื่อง

สรุปภาพรวมเครยอนชินจัง เดอะมูฟวี่ ในภาคนี้ทำออกมาค่อนข้างโอเค สามารถไปดูแบบปล่อยจอยสนุกๆ ได้ แม้เส้นเรื่องจะไม่ค่อยมีอะไรมากมาย แต่ก็ได้ความบันเทิงใจจากเสียงดนตรีเพราะๆ ท่าเต้นสนุกๆ และยังได้ข้อคิดให้หันกลับไปสนใจคนข้างตัวมากกว่าที่เคยอีกด้วย

แล้วไปสัมผัสกลิ่นอายของอินเดียได้ใน เครยอนชินจัง เดอะมูฟวี่ : ร้อนแรงแซ่บเว่อร์! แดนเซอร์แห่งคาซึคาเบะ ได้แล้ววันนี้ทุกโรงภาพยนตร์

รับชมตัวอย่างได้ที่นี่:

 

[NEWS] เริ่มแล้ว! นิทรรศการแอนิเมชั่นจิบลิที่ใหญ่ที่สุด THE WORLD OF STUDIO GHIBLI'S ANIMATION EXHIBITION BANGKOK 2023 เปิดให้เข้าชม 1 ก.ค.


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save