Mango Movie Review : The Cheese Sisters (2022) ล่าสุดร้อนๆ หอมกรุ่นจากเตา The Cheese Sisters ภาพยนตร์แนว Girls Love จาก iAM Films ภายใต้บริษัท อินดิเพนเด้นท์ อาร์ทิสท์ เมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ iAM ต้นสังกัดของศิลปินไอดอลหญิง BNK48 และ CGM48 กับ 4 เรื่องราวที่บอกเล่าความรัก ความสัมพันธ์ มิตรภาพ และการเติบโตของหญิงสาวผ่านกระบวนการทำชีส นำแสดงโดยเมมเบอร์จาก BNK48 และ CGM48 ทั้งหมด 8 คน 4 คู่ด้วยกัน เริ่มต้นที่ Dairy Farmer ฟาร์มโคนมกับ เฟิร์น (รับบทโดย เนย BNK48 ) ในช่วงชีวิตที่ต้องเติบโตแสนกระทันหันแบบหลับตากระโดดลงน้ำ เพราะเธอสูญเสียพ่อผู้เป็นที่รักไปอย่างไม่มีวันกลับ ต้องประคับประคองฟาร์มต่อไปด้วยตัวเอง โชคยังดีที่เธอมี ฝน (รับบทโดย น้ำหนึ่ง BNK48 ) เพื่อนรักที่คอยยืนเคียงข้างและโอบกอดเธอเอาไว้ได้ทันท่วงทีเปิดตัวด้วยน้ำตาขมระทมท่ามกลางความเงียบแต่ผ่านไปสักพักก็จะพอคลี่ยิ้มบางๆได้ให้กับความผูกพันที่สองเพื่อนรักมีให้กัน Cheese Maker : ความสัมพันธ์ก่อตัวที่ Farm Stay ห่างไกลตัวเมือง เมื่อไอริน (รับบทโดย เจนนิษฐ์ BNK48) ตัดสินใจพักจากชีวิตวัยทำงานในกรอบแสนอึดอัด และได้พบเจอกับ นาว (รับบทโดย ปัญ BNK48) ลูกเจ้าสาวเจ้าของ Farm Stay ผู้เปี่ยมด้วยพลังงานและความสดใสเคมีความแตกต่างอย่างลงตัวทำให้เห็นความสัมพันธ์ที่ค่อยๆก่อตัวและผลิบานเป็นความรักอย่างช้าๆเป็นธรรมชาติมีจังหวะให้เขินอยู่มากมายโดยไม่ทันตั้งตัว Deliver : การโคจรกลับมาพบกันของปราง (รับบทโดย วี BNK48) และมิว (รับบทโดย ฟ้อนด์ BNK48) รักครั้งเก่าที่มุ่งหน้าเดินทางด้วยกัน บนเส้นทางสายความทรงจำคละคลุ้งไปด้วยภาพเก่าที่ทั้งคู่ต่างรู้ดีว่าไม่มีวันหวนคืน เป็นตอนที่ชาวก้าวสามถอยสี่ไม่เคย move on ไปไหนได้เลยน่าจะถูกใจไม่น้อยมีเทคนิคการเล่าเรื่องที่โดดเด่นที่สุดและเส้นเรื่องที่ค่อนข้างน่าสนใจเต็มไปด้วยมวลอารมณ์ที่รับส่งระหว่างสองตัวละครรับรองได้ว่าใครดูเป็นต้องอินไปตามๆกัน Baker : “มองฉันเป็นชีสพายที่เธอนั้น Love ได้มั้ย~” ท้องฟ้าอึมครึมเปลี่ยนเป็นวันแดดจ้าฟ้าโปร่ง ความน่ารักของแพท (รับบทโดย มามิ้งค์ CGM48) พี่สาวเจ้าของคาเฟ่จอมซึน วางมาดดุ และเมจิ (รับบทโดย คนิ้ง CGM48) น้องสาวข้างบ้านสุดโก๊ะมีกลิ่นอายญี่ปุ่นให้ความรู้สึกเหมือนกำลังดูอนิเมะรักสดใสหัวใจกุ๊กกิ๊กสักเรื่องอาจจะมีบางช่วงที่บทชวนจั๊กจี้ไปบ้างแต่ถ้าพูดถึงสองนักแสดงนำน้องใหม่ก็ต้องบอกเลยว่าแสดงฝีมืออย่างสุดความสามารถน่าติดตามพัฒนาการต่อไป “ชีสเป็นวัตถุดิบที่มีราคา และที่มันมีราคาก็เพราะทุกคนใส่ใจกับมันมาก ถึงแม้พวกเขาจะไม่รู้ว่าปลายทางของชีสจะไปอยู่ที่ไหน แต่พวกเขาก็ตั้งใจที่จะทำมันออกมามากๆ” จุดร่วมอย่างหนึ่งของทุกช่วงในจักรวาลพี่สาวชีส คือ พลอตเรื่องที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน มีจุดเชื่อมโยงระหว่างแต่ละเรื่องให้ดูเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และขมวดเรื่องหาจุดจบร่วมกันได้แบบกำลังดี บวกกับงานภาพ แสงและสีที่ต้องเอ่ยปากชมว่าทำออกมาได้ละมุนละไมเข้ากับเนื้อเรื่อง และเชิญชวนให้อยากออกไปท่องเที่ยวเมืองเหนือแบบสุดๆ และอีกส่วนที่จะข้ามไปไม่ได้เลยคือเพลงประกอบที่ช่วยสนับสนุนทุกคู่ทุกช่วงได้เป็นอย่างดีฟังก่อนชมว่าชอบแล้วฟังอีกครั้งหลังชมยิ่งชอบยิ่งอินเข้าไปอีก โดยรวมแล้วเป็นเรื่องที่ปล่อยใจดูได้เพลิดเพลิน มีองค์ประกอบต่างๆ ที่ดี จนนึกเสียดายที่เวลา 134 นาทีน้อยเกินกว่าจะบอกเล่าเรื่องราวของทุกคนทุกคู่ได้ครบสมบูรณ์ หากอยากมาเสพเนื้อเรื่องแบบเต็มอิ่มคงต้องทำใจเอาไว้ระดับหนึ่ง (แง) ส่วนใครที่ตั้งใจมาดูความน่ารัก–ความสัมพันธ์ของเมมเบอร์ก็ให้ทำใจเอาไว้เหมือนกันเพราะดาเมจแรงเกินต้านทานซ้อมนั่งกุมใจยิ้มเมื่อยแก้มกันเอาไว้ยาวๆ ได้เลย ตีตั๋วเข้าไปลองลิ้มชิมชีสหอมหวานละมุนละไมที่ทิ้งรสขมติดปลายลิ้นนิดๆ มีโมเมนต์ให้หัวใจพองโตมากๆ หน่อย ตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายนเป็นต้นไป เจอกันได้ทุกโรงภาพยนตร์ 🍿 รับชมตัวอย่างได้ที่นี่
