ทุกสิ้นปี เรามักจะได้ชมภาพยนตร์ส่งท้ายปีเก่าเพื่อเป็นเหมือนสัญลักษณ์ว่าปีใหม่ใกล้จะมาถึงแล้ว และสำหรับปีนี้ค่ายหนังอารมณ์ดีอย่าง GDH ก็ได้นำภาพยนตร์เรื่อง “พรจากฟ้า” มามอบให้เป็นของขวัญแก่คนไทยทุกคน ผ่านบทเพลงพระราชนิพนธ์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 รู้จักกับ “พรจากฟ้า” เป็นภาพยนตร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเพลงพระราชนิพนธ์ “พรปีใหม่” ที่เป็นเพลงพระราชทานในวันขึ้นปีใหม่ พ.ศ. 2495 พี่เก้ง-จิระ พูดว่า “อยากทำหนังไทยให้คนชอบ คนรักเพลงของในหลวง และรู้สึกซาบซึ้งกับความสร้างสรรค์ของในหลวงที่มอบของขวัญให้ชาวไทยเป็นบทเพลงพระราชนิพนธ์” จุดประสงค์ในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะ ‘อยากมอบดนตรีให้เป็นของขวัญ’ แก่คนไทยทุกคน แบ่งออกเป็น 3 เรื่องสั้น ได้แก่ 1)ยามเย็น 2)Still on my mind 3)พรปีใหม่ มีจุดร่วมกันคือบทเพลงพระราชนิพนธ์ที่ให้ผู้กำกับแต่ละคนเลือกเพลง และสร้างออกมาเป็นภาพยนตร์สั้น ภาพยนตร์สั้นทั้ง 3 เรื่อง ไม่ได้ตัดขาดจากกัน แต่มีตัวละครที่สามารถเชื่อมโยงกันได้ทุกเรื่อง แนะนำนักแสดง วี วิโอเลต แสดงเป็น แป้ง : นักร้องเสียงประสานที่ต้องร้องในพิธีมอบทุนรัสเซีย นาย ณภัทร แสดงเป็น บีม : นักเรียนทุนปริญญาโทที่กำลังจะไปเรียนต่อ มิว นิษฐา แสดงเป็น ฟา : ลูกสาวของลุงป้อมที่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ แสดงเป็น เอ : ช่างซ่อมเปียโนขาประจำของบ้านลุงป้อมกับป้าฟ้า เต๋อ ฉันทวิชช์ แสดงเป็น หลง : อดีตนักร้องนำวงร็อก ที่ผันตัวมาเป็นพนักงานออฟฟิศ หนูนา หนึ่งธิดา แสดงเป็น คิม : พนักงานออฟฟิศ ที่มีใจมุ่งมั่นจะสร้างวงดนตรี ‘ยามเย็น’ หนังรักวัยรุ่น ที่คนรุ่นไหนดูก็เข้าใจ เป็นเรื่องราวความรักของแป้งกับบีม หนุ่มสาวที่บังเอิญได้พูดคุยกันเพราะถูกขอให้ช่วยมาเป็นสแตนด์อิน “ท่านทูต” กับ “ภริยาท่านทูต” เหตุการณ์ในหนังเกิดขึ้นภายในแค่ 1 วัน จบลงเมื่อยามเย็นได้ผ่านไป และทิ้งไว้ให้คนดูเดาต่อเองว่าเรื่องราวของทั้งคู่จะเป็นอย่างไรต่อ กำกับโดย พี่ปิง(Hormone) และ พี่หมู(Suckseed) เพราะเป็นผู้กำกับ 2 คนที่เลือกเพลง ‘ยามเย็น’ เป็นเพลงโปรดเหมือกัน เพลง ‘ยามเย็น’ ถูกตีความเนื้อเพลงออกมาเป็นเรื่องของความรักที่ไม่สมหวัง เคมีของทั้งคู่น่ารักลงตัว แสดงออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ วีร้องเพลงเพราะมาก ตัวเล็ก หุ่นดี แสดงดีมาก ขนาดฉากที่เศร้ายังเล่นออกมาได้น่ารัก นาย การแสดงไม่ต้องพูดถึง มาพูดเรื่องหน้าตาดีกว่า เพราะว่าหล่อมากกกก ทุกองศา ทุกการขยับปาก ทุกรูขุมขนนน แถมในเรื่องยังชอบเล่นมุกจีบสาวแบบที่ถ้ามาจีบเราบ้าง คงตายคาที่ไปเลย #เพ้อ Still on my mind ถึงเป็นอัลไซเมอร์ แต่รักนั้นจะไม่ยอมลืม เรื่องของลุงป้อม ผู้ป่วยอัลไซเมอร์ ที่หลงลืมปัจจุบัน แต่ยังคำนีงถึงห้วงเวลาในอดีต โดยมี ‘ฟา’ ลูกสาว เป็นคนคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง กำกับโดย พี่ต้น(คิดถึงวิทยา) ที่เลือกเอาเพลง “Still on my mind” เพราะอยากนำบทเพลงพระราชนิพนธ์ที่คนไทยอาจไม่คุ้นหูมากนักมาให้คนไทยรู้จักกัน แรงบันดาลใจที่ทำหนังเกี่ยวกับอัลไซเมอร์ได้มาจากป้าของพี่เก้ง-จิระ ที่ถึงจะป่วยเป็นโรคนี้ แต่ครอบครัวสามารถรับมือกับปัญหาในแง่บวก เมื่อพี่ต้นได้ศึกษาเพิ่มเติมก็พบว่า การบำบัดด้วยดนตรี (Music Therapy) เป็นวิธีที่เยียวยาผู้ป่วยโรคนี้ได้ ในภาพยนตร์ตอนนี้ ต้องชื่นชมการแสดงของ มิว ที่เข้าถึงบทบาทได้ดี ทำให้คนดูอาจจะร้องไห้ตามเป็นช่วงๆ ถ่ายทอดชีวิตของคนที่ต้องดูแลผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ได้อย่างถึงบทบาท ซันนี่ ก็แสดงออกมาได้น่ารักแต่ก็ยังไม่ทิ้งความขี้เล่น กวนๆ สไตล์ซันนี่ไว้ให้เราได้อมยิ้ม สำหรับนักแสดงที่น่าจะโดดเด่นที่สุดใน ‘Still on my mind’ ก็คือ บทของลุงป้อม ผู้ป่วยอัลไซเมอร์ที่ชวนให้เราร้องไห้และยิ้มตามได้อย่างมีความสุขปนเศร้า 3.พรปีใหม่ : หลอมรวมใจคน ผ่านทำนองดนตรี เรื่องของหลง นักร้องนำวงร็อค ที่เลิกล้มความฝันของตัวเองมาทำงานออฟฟิศ จนได้เจอกับ คิม(หนูนา) พนักงานสาว ที่อยากรวมวงดนตรีเพื่อมอบให้กับ ป้าฟ้า ผู้ที่เพิ่งล่วงลับไปแล้ว กำกับโดย พี่เก้ง-จิระ มะลิกุล ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากประสบการณ์ที่ตัวเองได้ไปเรียนเครื่องเป่ามา เลยอยากจะสร้างภาพยนตร์ที่มอบความสุขให้กับคนไทยได้ผ่านเสียงเพลง พี่เก้งได้เลือก เพลง “พรปีใหม่” เพราะเป็นเพลงที่ในหลวงได้ทรงมอบให้กับคนไทยเป็นของขวัญวันปีใหม่ เลยเป็นแนวทางของภาพยนตร์ชุดเรื่องนี้ ที่ ‘อยากมอบดนตรีให้เป็นของขวัญ’ เต๋อ-ฉันทวิชช์ ธนะเสวี และ หนูนา-หนึ่งธิดา โสภณ แสดงออกมาได้เข้าขากันได้ดีเหมือนเช่นเคย เป็นตอนที่กลมกล่อมด้วยจังหวะตลกๆ มีมุกแบบ GDH รวมถึงจังหวะหลอกให้คนดูตื่นเต้นแบบกวนๆ ‘พรปีใหม่’ ถือเป็นตอนที่มีนักแสดงรวมตัวกันเล่นดนตรีมากที่สุดใน 3 ตอนเลย ทำให้เป็นบรรยากาศหนังที่คิดว่าน่าจะตอบจุดประสงค์ของผู้กำกับได้ดีมากๆ สรุป 8/10 คะแนน โดยรวมแล้ว ‘พรจากฟ้า’ เป็นภาพยนตร์ที่สามารถดูได้ทุกเพศ ทุกวัย เหมาะที่จะพาครอบครัวมาร่วมชมด้วยกัน เป็นภาพยนตร์ที่จะสร้างรอยยิ้มและความสุขให้กับคนไทย หลังจากที่เราอาจจะอยู่ในช่วงโศกเศร้ามาเป็นเวลานาน ถึงในหนังจะไม่ได้มีการกล่าวถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 แต่บทเพลงของท่านทำให้เราคิดถึง และรู้สึกว่าท่านไม่ได้จากเราไปไหนไกล เป็นภาพยนตร์ที่จะทำให้เรารู้จักบทเพลงของในหลวงได้ดีขึ้น ในมุมที่ต่างไปจากเดิม รวมถึงอาจจะทำให้ใครหลายคนร้องฮัมเพลงพระราชนิพนธ์ของท่านไปอีกหลายวันเลย 🙂 มีรอบ sneak preview วันที่ 28-29 พฤศจิกายน และ ฉายจริงวันที่ 1 ธันวาคม นี้ รู้จักกับ 3 บทเพลงพระราชนิพนธ์ “ยามเย็น หรือ Love at Sundown” เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ 2 ซึ่งทรงพระราชนิพนธ์ ในปี พ.ศ. 2489 2. “Still on my mind หรือ ในดวงใจนิรันดร์” เพลงพระราชนิพนธ์ ลำดับที่ ๓๗ ทรงพระราชนิพนธ์ใน พ.ศ. ๒๕๐๘ ซึ่งเป็น 1 ใน 5 เพลงพระราชนิพนธ์ที่ทรงพระราชนิพนธ์ทำนอง และคำร้องภาษาอังกฤษด้วยพระองค์เอง 3. “พรปีใหม่” เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ ๑๓ ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นและพระราชทานให้กับประชาชนไทย ในวันปีใหม่ วันอังคารที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๙๕ ที่มา : วิกิพีเดีย