category จากหูฟัง เป็นตั้งใจดู สู่ประสบการณ์ Live Performance กับ Apple Music

Writer : Patta.pond

: 15 กรกฏาคม 2563

ในวันที่เพลงเป็นอีกหนึ่งสิ่งแทนความรู้สึก เพื่อฮึกเหิม เพื่อเยียวยา หรือเพื่อบอกความในใจ เชื่อว่า 3 ใน 5 คนที่กำลังอ่านบทความนี้อยู่ ต้องฟังเพลงเป็นงานอดิเรกแน่นอน โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่ทุกคนต้อง Social Distancing จากคนอื่น ยิ่งทำให้วงการเพลงมีความสำคัญมากกว่าที่เคยเป็น และนั่นก็ทำให้การเลือกใช้แพลตฟอร์มเพลงเป็นสิ่งสำคัญเช่นเดียวกัน

 Apple Music หนึ่งในแพลตฟอร์มสตรีมเพลง ที่ได้นำเสนอความสุข และยกระดับประสบการณ์ของผู้ฟังให้ดียิ่งขึ้นตลอด 5 ปีที่ผ่านมา แน่นอน ทุกคนรู้ แฟนคลับรู้ สิ่งเบสิคที่ Apple Music สามารถทำได้ ไม่ว่าจะเป็นการดูว่าเพื่อนๆ กำลังฟังเพลงอะไรอยู่ เลือกฟังเพลงจากวิทยุ หรือจากเพลย์ลิสต์ของศิลปิน หรือกระทั่งสั่งให้ Siri เล่นเพลงให้ก็ยังได้ ล้วนเป็นสิ่งทั่วไป ในตอนนี้ Apple Music สามารถทำได้มากกว่านั้น มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

Live Performance

ปกติแล้ว แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเพลง มักจะมีเพียงแค่เพลง หรือ MV เท่านั้น แต่แน่นอนว่าเป็น Apple Music ทั้งที ก็ต้องมีอะไรพิเศษกว่าที่อื่น นั่นก็คือ Live Performance  เป็นการแสดงดนตรีแบบเต็มรูปแบบ โดยมู้ดแอนด์โทนของ Live ของแต่ละศิลปินนั้นก็มีความแตกต่าง และทาง Apple ก็เรียกได้ว่ามอบพื้นที่ในการถ่ายทอดผลงานอย่างเต็มที่กับศิลปิน ทำให้ได้โชว์ที่แสดงถึงความเป็นตัวตนอย่างแท้จริง

อย่างล่าสุดที่มี Visual Live Performance ของนักร้องสาวเสียงเอกลักษณ์ วี วิโอเลต กับ “Glitter and Smoke Live in BKK ที่จะพาไปสัมผัสกับตัวตนของเธอในอีกแง่มุม ซึ่งเจ้าตัวเลือกเพลง I’d Do It Again, Cool และ All That I Can Do จากในอัลบั้มมาร้องและแสดงผสมผสานไปกับแสง สี เสียงที่เต็มไปด้วยความฝันและจินตนาการ ซึ่งวีเองมีส่วนร่วมทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง การรับชม Live Performance จะให้ความรู้สึกที่มากกว่าการฟังเพลงได้อย่างไร ต้องไม่พลาดชม

Documentary

คล้ายๆ  Behind the scene แต่ก็มีอะไรมากกว่านั้น Documentary หรือสารคดีความเป็นมาของชีวิตจะพาคุณไปรู้จักกับศิลปินโปรดมากยิ่งขึ้น อะไรคือแนวคิด ที่มา และแรงบันดาลใจของอัลบั้มนั้นๆ หรือแม้แต่เส้นทางสู่การเป็นนักร้อง ขนกันมาให้หมดในทุกวงการ ไม่ว่าจะเป็นสาย EDM อย่าง Kygo Martin Garrix สายอินดี้นุ่มๆ อย่าง Honne หรือดาราจรัสฟ้า The Beatles ก็ตาม

อะไรใหม่ในอนาคต

แน่นอนว่าเทคโนโลยีของ Apple Music นั้นยังไม่หมดเท่านี้ มาดูกันว่าในอนาคตจะมีการพัฒนาฟีเจอร์อะไรเพิ่มบ้าง

Listen Now

ทุกครั้งที่คุณเลือกเพลงฟัง Apple Music จะทำการเรียนรู้ จดจำ และจัดการระบบ พร้อมสรุปเพลง Top Picks ที่ทำให้คุณสามารถเลือกฟังซ้ำอีกครั้งได้อย่างง่ายดาย หลังจากนั้นก็เตรียมฟังเพลงโปรดวนไปได้เรื่อยๆ โดยไม่ต้องมานั่งเลือกเพลล์ลิสใหม่แล้ว

Autoplay

ต่อไปการเล่นเพลงบน Apple Music จะสามารถเล่นได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องแตะปุ่มใดๆ เพิ่มเติม และเมื่อเพลงถูกเล่นไปจนหมดอัลบั้มหรือเพลย์ลิสต์แล้ว ระบบจะค้นหาเพลงที่คล้ายกันเพื่อให้เล่นเพลงต่อไป

ที่สำคัญระบบการค้นหาเพลงก็ได้รับการพัฒนาขึ้นให้เข้าถึงอารมณ์และกิจกรรมที่คุณกำลังทำอยู่ ทำให้สามารถค้นพบเพลงใหม่ๆ ที่ตรงใจคุณได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม เรียกได้ว่ามีทุกรูปแบบอารมณ์กันเลยทีเดียว

ในวันที่เพลงอยู่เป็นเพื่อนเคียงข้างเราเสมอ การเลือกเเพลตฟอร์มในการฟังที่ดี ก็เป็นอีกหนึ่งส่งที่ต้องให้ความสำคัญเช่นเดียว สามารถลองเลือกใข้ Apple Music บริการสตรีมเพลงแบบไม่มีโฆษณาที่ช่วยให้คุณฟังเพลงจากคลังเพลงกว่า 60 ล้านเพลง และสามารถสร้างเพลย์ลิสต์ส่วนตัวได้ สามารถฟังเพลงได้ทุกเมื่อ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ และฟีเจอร์ที่น่าสนใจอื่นๆ 

สมัครสมาชิก และดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.apple.com/th/music/

Writer Profile : Patta.pond
Blog : Social Media : Facebook, Twitter
View all post
5 เหตุผลทำไมแฟนเพลงถึงรัก Coldplay


5 เหตุผลทำไมแฟนเพลงถึงรัก Coldplay


[Covid-19 Phenomena] 10 New Normal ในมุมกีฬาและความบันเทิง หลังผ่านพ้นวิกฤตโควิดระบาด

[Covid-19 Phenomena] 10 New Normal ในมุมกีฬาและความบันเทิง หลังผ่านพ้นวิกฤตโควิดระบาด


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save