category 10 สิ่งที่คุณไม่เคยรู้ เกี่ยวกับเจ้าพ่อเพลงดิสโก้ บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์

Writer : incwaran

: 1 สิงหาคม 2562

ห่างหายจากการแสดงคอนเสิร์ตใหญ่มาเกือบสิบปี คราวนี้เจ้าพ่อเพลงดิสโก้ บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์ กลับมาพร้อมซิงเกิ้ลใหม่และคอนเสิร์ตใหญ่ให้เราได้หายคิดถึง แม้ที่ผ่านมาเราจะไม่ค่อยได้เห็นผลงานใหม่ของผู้ชายคนนี้ แต่เราก็ยังได้ยินเพลงของเขาอยู่เสมอ ที่ไม่ว่าจะเก่าแค่ไหนแต่ฟังเมื่อไหร่ก็อิน

ล่าสุดเพิ่งปล่อยเพลงใหม่ ‘Spotlight’ กับดนตรีจังหวะโดนใจ ให้แฟนคลับซ้อมร้องก่อนไปคอนเสิร์ต Mango Zero เลยเข้าไปคุยกับผู้ชายหลายบทบาทคนนี้ ถึงเบื้องหลังชีวิตนักดนตรี นักธุรกิจ และคุณพ่อ ที่ไม่ว่าจะเป็นบทบาทไหนเขาก็ทำได้ดี และจากการพูดคุยครั้งนี้ก็ทำให้เราได้ 10 สิ่งที่คุณอาจจะยังไม่รู้เกี่ยวกับบุรินทร์ บุญวิสุทธิ์

1.ร้องเพลง ‘หยุด’ มากกว่า 40,000 ครั้ง

“เพลงหยุดร้องบ่อยที่สุด ผมว่าผมร้องมาไม่ต่ำกว่า 40,000 ครั้ง 18 ปีที่ผ่านมาร้องเพลงหยุดมาเยอะมากๆ แต่บอกว่าเบื่อไหม ไม่เคยเบื่อ เพราะว่าทุกๆ ครั้งที่เราไปแสดง คนดูก็ไม่เหมือนเดิม คนดูไม่ใช่คนเดิม

พลังที่เขาส่งกลับมาให้เรา ทุกๆ ครั้ง สำหรับผมมันคือความสุข มันคือความชื่นใจ ที่คนที่ชอบดนตรีเหมือนกัน แล้วเขาส่งพลังกลับมาให้เราขึ้นมาบนเวที เวลาที่เราร้องออกไป เวลาที่เขาร้องกลับมาไม่ว่าจะช่วงเวลาไหนก็ตาม ผมรู้สึกว่าพลังตรงนั้นมันเติมเต็มความสุขของผมจริงๆ”

2.ถ้าได้ยินเพลงตัวเองที่ไหนจะลุกออกไปที่อื่น

“ผมรู้สึกเขิน ทุกๆ ครั้งที่ผมไปที่ไหนแล้วเขาเล่นเพลงผมหรือเขาเปิดเพลงผม ผมจะลุกไปที่อื่นเลย เพราะผมเขินมาก ไม่รู้ว่าทำไม ต้องบอกทุกๆ คนที่เล่นเพลงผมแล้วผมเดินออกไปเนี่ย ไม่ใช่ผมไม่ชอบหรืออะไร ผมเขิน ขอบคุณมากที่ชอบดนตรีของผม”

3.อยากทำเพลงร่วมกับ Stevie Wonder มอบให้มูลนิธิคนตาบอดทั่วโลก

“ผมอยากจะทำงานกับ Stevie Wonder มีเพลงเพลงหนึ่ง ที่กำลังจะทาบทามอยู่ ชื่อเพลงแสงที่ปลายทาง เพลงนี้ผมอยากจะมอบให้มูลนิธิคนตาบอดทั่วโลก ก็เลยอยากจะชวน Stevie Wonder ซึ่งเป็นนักดนตรีที่ตาบอด ให้เขามาเป่าฮาร์โมนิก้าให้ หรือว่ามาเล่นคีย์บอร์ดให้เรา”

“เขาเป็นศิลปินในดวงใจของผม เขาคือแรงบันดาลใจในการที่จะบอกว่าคนคนหนึ่งอาจจะไม่ได้มีอะไรครบอย่างคนอื่น แต่เขาคืออัจฉริยะ เมื่อตาเขามองไม่เห็น หูเขาเลยมีความพิเศษมากกว่าคนอื่น เขาเลยทำดนตรีได้ดีที่สุดคนหนึ่งในโลกนี้เลย”

4.อยากเป็นนักโบราณคดี 

“ตั้งแต่เด็กเลย ผมอยากเป็นนักโบราณคดี ผมไม่ค่อยได้ดูรายการบันเทิงเท่าไหร่ เปิดทีวีผมจะดูแต่สารคดี ดูหนังด้วยแต่ดูสารคดีเป็นหลัก ความชอบอย่างหนึ่งของสารดีมันคือการถ่ายทำของเขาคือเรื่องจริง เขาถ่ายจากของจริง ไม่มีการแต่งเรื่อง”

“ผมมีไอดอลของผมคนหนึ่งที่ทำสารคดี ชื่อ Sir David Attenborough ผมเคยดูตั้งแต่ผมเด็กๆ ผมมองว่าเขาเป็นคนที่เสียงเพราะมากๆ และเล่าเรื่องได้สนุกมาก ทุกครั้งที่ผมนอนไม่หลับ ผมจะเปิดสารคดีของเขา เพื่อให้ผมฟังเสียงเขาแล้วให้เขากล่อมผมนอน ก็เป็นแรงบันดาลใจทำให้ผมอยากทำสารคดี”

“แต่ข้อหนึ่งที่มันเป็นอุปสรรคของผม ที่ทำให้ผมเป็นนักโบราณคดีหรือนักทำสารคดียากเนี่ย หนึ่งคือคุณต้องออกไปอยู่ตรงนั้นเป็นปี คุณจะไม่ได้เจอครอบครัวคุณเลย นอกจากคุณจะพาครอบครัวคุณไปด้วยเลย อย่างที่สองคุณต้องรวยมาก หรือคุณต้องหาเงินเก่งมาก ในการที่คุณจะใช้เงินกี่ปีก็ตาม เพื่อจะทำให้สารคดีออกมาสองชั่วโมง แต่ใช้เงินไม่รู้เท่าไหร่”

“ทุกๆ อย่างมันคืออุปสรรคในการที่จะทำให้ความฝันอันนี้มันเป็นไปได้ยาก แต่ผมก็ยังฝันอยู่ ถ้าสักวันหนึ่งผมมีลูกโตแล้ว เขาสามารถดูแลตัวเองได้แล้ว ผมอยากจะไปทำความฝันของผมให้มันเป็นจริงให้ได้”

5.ดูสารคดีกับลูกก่อนนอนทุกคืน

“ก่อนนอนทุกๆ วัน ผมจะมีเวลาว่าก่อนจะนอน 15 นาทีหรือ 20 นาทีสุดท้าย ครึ่งชั่วโมงสุดท้าย ต้องดูสารคดี เพราะว่ามันจะทำให้คุณหลับสบาย และผมจะเปิดของ Sir David Attenborough นี่แหละ ให้เขาดู”

“สารคดีแบบนี้มันทำให้เรารู้จักโลกมากขึ้น ทำให้เรารู้สึกรักโลกมากขึ้น”

6.ซีเรียสเรื่องสิ่งแวดล้อม

“ผมพยายามลดใช้พลาสติกมาซักระยะหนึ่งแล้ว จริงๆ อะไรที่ลดใช้พลังงานได้ก็พยายามจะเลิกใช้”

7.เกือบตายหลายรอบ

“เกือบตายหลายรอบ”

“ ตอนเด็กเป็นคนใจร้อน ตามประสาเด็กวัยรุ่นเด็กผู้ชาย เราก็มีการชกต่อยอยู่สม่ำเสมอ เคยมีเรื่องกับคนแล้วจำได้เลยว่าเกือบตายมาสองครั้งได้ ก็ต่อยกันไปต่อยกันมา สุดท้ายเขาชักปืนขึ้นมาจ่อที่หน้าผมเลย ผมทำไงรู้ไหมฮะ ยกมือเลยฮะ ไม่เคยเจอปืนจ่อหน้า ครั้งนั้นครั้งแรก ก็รู้สึกว่ามันเป็นความรู้สึกที่ใช้ได้เลย แต่เผอิญว่ามันเป็นกลางวันแสกๆ แล้วคนเยอะมาก เขาก็เลยไม่ได้ยิงผม ถือว่าเกือบตายไปแล้ว”

8.ไม่เคยตีลูกแม้แต่ครั้งเดียว

“หลักการของผมคือ ผมอยากให้เขาเติบโตมาเป็นคนดี ผมไม่เคยตีกรอบลูกเลยว่าโตขึ้นมาต้องเป็นแบบนี้ แต่ผมจะบอกเขาเสมอว่า ถ้าคุณเดินทางนี้คุณจะเจออะไร ถ้าคุณอ้อมมานิดนึงคุณจะเจออะไร ถ้าคุณมาทางลัดคุณจะเจออะไร ก็รอให้เขาเลือกดู”

“ตั้งแต่ผมมีลูกมาผมไม่เคยตีลูกแม้แต่ครั้งเดียวเลย แต่ผมจะใช้คำพูดแล้วก็ใช้เหตุผลในการที่จะบอกลูก บางทีลูกผมโดนผมใช้เหตุผลนั่งร้องไห้แล้ว การตีมันไม่ใช่ทางออกที่จะทำให้เขาจำ หรือให้เขาเข็ด”

“ผมโดนพ่อแม่ตี เด็กๆ ก็รู้สึกว่าเจ็บ พอโตขึ้นแล้วรู้สึกว่า ถ้าทำเสร็จแล้วโดนตีทีเดียวก็จบ เพราะฉะนั้นมันไม่ได้ทำให้เข็ด มันไม่ได้ทำให้คิด ผมมองว่าถ้าเราคุยด้วยเหตุผล เขาจะเอากลับไปคิด แล้วเวลาเขาทำอะไรผิด เขาจะรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ดีและมันผิดจริงๆ”

9.ครอบครัวมาดูคอนเสิร์ตใหญ่ทุกครั้ง

คอนเสิร์ตใหญ่จะไปดูกันทุกครั้ง แต่คอนเสิร์ตทั่วไป ใหม่ๆ ตอนชุดแรกจะไปเชียร์ แต่ผมจะไม่ชอบ ผมเขิน เวลาพ่อแม่ผมมานั่งดูอยู่ ผมจะรู้สึกเขิน ผมจะไม่กล้าปลดปล่อยความเป็นตัวเองมากเกินไป”

“เวลาพ่อแม่มาดู โอเคเราชื่นใจ เราก็ดีใจที่เขามาให้กำลังใจเรา แล้วเขาก็ยินดีกับเรา เห็นความสำเร็จของ แต่ก็เขิน เขินทุกๆ ครั้ง ถ้าคอนเสิร์ตใหญ่ส่วนมากจะมองไม่ค่อยเห็นพ่อแม่เพราะว่าคนเยอะแล้วก็ไฟมันแรง แต่ต้องขอบคุณครอบครัวที่มาเชียร์ทุกๆ ครั้ง ต้องบอกว่าชื่นใจจริงๆ”

10.กำลังจะมีคอนเสิร์ตเดี่ยวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตั้งแต่เคยทำมา

“ฝากคอนเสิร์ตผมด้วยนะครับ Disco in Tuxedo นะครับ คอนเสิร์ตเดี่ยวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตั้งแต่เคยทำมา จัดที่อิมแพค อารีน่า วันที่ 19 ตุลาคมนี้นะครับ เริ่มจองบัตรได้วันที่ 3 สิงหาคม ที่ไทยทิกเก็ตเมอร์เจอร์ทุกสาขานะครับ แขกรับเชิญของเราในครั้งนี้ นอกจากผมจะขนเพลงฮิตมา เพลง Side-B ที่คุณอยากจะฟังแล้วไม่เคยได้ฟังมานาน ผมมีแขกรัญเชิญพิเศษมาหลายคน อย่างเบน ชลาทิศ กานต์ The Parkinson โต้ง Twopee Southside Triumphs Kingdom น้องนาย นภัทร แล้วก็หัวหน้าใหญ่อีกคน เรายังบอกไม่ได้

Writer Profile : incwaran
Blog : Social Media : Facebook, Twitter
View all post

[News] เก็บตกภาพบรรยากาศวันแห่งความทรงจำ Siam☆Dream Last One Man Live เวทีสุดท้ายกล่าวอำลา 5 ปีแห่ง Siam☆Dream


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save