สานต่อคดีใหม่ สืบสวนฆาตกรรมบนแม่น้ำไนล์ กับนักสืบตาไว ‘มิสเตอร์ปัวโรต์’

Writer : Hanachan

: 10 กุมภาพันธ์ 2565

รีวิว : Death on the Nile 

สานต่อคดีใหม่ สืบสวนฆาตกรรมบนแม่น้ำไนล์ กับนักสืบตาไว ‘มิสเตอร์ปัวโรต์’

“เมื่อใดมีการฆาตกรรม เมื่อนั้นย่อมมีฆาตกร และฆาตกรก็อยู่กับเราที่นี่”

หลาย ๆ คนคงจะพอจะคุ้นเคยประโยคนี้ จากปากของ ‘แอร์กูล ปัวโรต์’ นักสืบฝีมือดีจาก Murder on the Orient Express (2017) ภาพยนตร์อันโด่งดังที่สร้างมาจากนิยายคลาสสิคของราชินีนิยายอาชญากรรมอย่าง อกาธา คริสตี้ (Agatha Christie) ซึ่งถูกนำมาตีพิมพ์นับครั้งไม่ถ้วน

หลังจากที่การฆาตกรรมบนรถไฟคลี่คลาย ภาพยนตร์ได้ทิ้งท้ายคดีใหม่ที่บอกใบ้ถึงเรื่องราวในคดีใหม่อย่างการฆาตกรรมที่แม่น้ำไนล์เอาไว้ด้วย (ถ้าใครยังจำได้) จนเวลาก็ล่วงเลยมาเกือบ 5 ปี ในที่สุดการสืบสวนคดีใหม่ของมิสเตอร์ปัวโรต์ในครั้งนี้ก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งกับภาพยนตร์ ‘Death on the Nile’ ที่มีชื่อไทยว่า ฆาตกรรมบนลำน้ำไนล์

สำหรับการกลับมาในครั้งนี้ มิสเตอร์ปัวโรต์ จะพาเราย้อนกลับไปในปี 1937 ท่องแดนอียิปต์ และค้นหาความจริงผ่านเรื่องราวการฮันนีมูนแสนสุขของคู่รักหวานฉ่ำ ข้าวใหม่ปลามัน ที่นำไปสู่การฆาตกรรมบนเรือสำราญหรู ในขณะที่ล่องอยู่กลางแม่น้ำไนล์ ซึ่งแน่นอนว่าฆาตกรตัวร้ายจะต้องเป็นหนึ่งในสมาชิกบนเรือลำเดียวกัน

โดยในภาคนี้ ได้นักแสดงตัวท็อปอย่าง ‘กัล กาด็อต’ มารับบทนำ และได้ ‘เคนเนธ บรานาห์’ มารับบทนักสืบคนเดิมคนดี พร้อมสายตาแหลมคมที่ไม่มีใครเกิน รวมถึงได้ เอ็มมา แม็คเคย์ (Sex Education), โซฟี โอโคเนโดะ, ทอม เบตแมน, โรส เลสลีย์ (GOTs) และ เลทิเทีย ไรท์ (Black Panther) มาร่วมแสดง+สร้างความน่าสงสัยให้กับคดีในครั้งนี้ด้วย

หากพูดถึงด้านเนื้อเรื่อง ครั้งนี้มีการแตะให้รู้จักตัวละครนักสืบของเรามากยิ่งขึ้น ทั้งคนรักของเขา การไว้หนวด ก่อนจะโยงมาสู่เรื่องราวความรักและความตาย ไปจนถึงวิธีการเล่าเรื่องแบบใหม่ที่ถูกแต่งแต้มเข้ามาให้เรื่องนี้ดูง่าย และดูมีอะไรมากกว่าภาคที่ผ่านมา ซึ่งแน่นอนว่ายังไม่มีอะไรเล็ดลอดสายตามิสเตอร์ปัวโรต์ไปจริงๆ 

ในส่วนของภาพและโปรดักชั่น คงต้องชื่นชมว่าสวยและดึงความขลัง + อลังการของสิ่งมหัศจรรย์จากอารยธรรมโบราณอย่างพีระมิด แม่น้ำแห่งชีวิต ไปจนถึงมหาวิหารอาบูซิมเบลได้ดี ทำให้ภายในระยะเวลา 2 ชั่วโมงของหนังเรื่องนี้เราจะได้เห็นภาพสวยๆ (นักแสดงสวยด้วย) ที่สอดแทรกสัญญะชวนคิดให้ติดตามกัน

นอกจากนี้ สิ่งที่ดีคือการผูกตัวละครหลักในภาคนี้ ให้มีคาแรคเตอร์เหมือนราชินีแห่งอียิปต์อย่าง ‘คลีโอพัตรา’ ว่าด้วยความยั่วยวน ความงาม เหนือสิ่งอื่นใดมาพร้อมกับปัญญาอันชาญฉลาดทำให้หลายคนหมายปอง (หรือจ้องผลาญ) อยู่ท่ามกลางความรักและความเกลียดชัง 

ส่วนตัวแล้ว สิ่งที่ชอบที่สุดในเรื่องนี้ คือการร้อยเรียงเพลงสไตล์บูลส์ที่ร้องโดยคนผิวสี แสดงถึงความทุกข์ ความสุขจาก ‘ความรัก’ ของทุกตัวละครที่มี  ผสานเนื้อเพลงที่เป็นตัวช่วยเล่าให้เรื่องนี้โฟลว์ไปได้อย่างไม่มีจุดสะดุด   

ในทางกลับกัน ถึงแม้วิธีการเล่าเรื่องจะซับซ้อนและดูมีอะไรมากกว่าภาคแรก แต่คำตอบของหนังกลับเดาทางได้ง่ายกว่าที่คิดไว้ เพราะเปิดปมได้ไม่นานเราก็มีตัวเลือกในใจ เพียงแค่ว่าเรานั่งดูเพื่อรอเฉลยต่อไปเพื่อความแน่ใจ และรอดูวิธีการของคนร้ายที่ใช้ฆาตกรรมเท่านั้นเอง 

สรุปได้ว่า ภาคนี้ดูง่าย ดูเพลินกว่าภาคแรก ภาพสวย (กัล กาด็อตสวยมากกกกกกก) วิธีการเล่าเรื่องดี การลำดับเรื่องทำให้เราจดจ่อ ชวนติดตามได้ดีตั้งแต่ต้นยันจบ (ส่วนตัวแล้วรู้สึกชอบภาคนี้มากกว่ารถไฟ และถึงแม้จะเดาทางได้ แต่องค์ประกอบหลาย ๆ อย่างของหนังก็ทำให้เกิดความประทับใจกับเรื่องนี้) 

เอาไป 4/5 มะม่วงงงงงงง 

ใครที่เป็นแฟนคลับคุณปัวโรต์อย่างลืมตามมาดูคดีใหม่ ภาพยนตร์ ‘Death on the Nile’ จะลงจอฉายวันที่ 10 กุมภาพันธ์นี้ ทุกโรงภาพยนตร์

รับชมตัวอย่างภาพยนตร์ Death on the Nile ได้ที่นี่

Writer Profile : Hanachan
ฮานะจังมีความสุขกับการดูซีรีส์เกาหลีและท่องเที่ยวไปวันๆ Green tea lover / Japanese food forever ♡
Blog : Social Media : Facebook, Twitter
View all post

[สัมภาษณ์พิเศษ] SF Cinema กับการกลับมาเปิดบริการ ภายใต้มาตรการ ดูแลด้วยใจ


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save