เป็นอีกหนึ่งครั้งที่มี Mango Zero มีโอกาสคุยกับยูนิตชราไลน์ของ BNK48 (ยกเว้นน้องก่อน) แบบพิเศษซึ่งเป็นการพูดคุยก่อนที่น้องๆ จะรู้ตัวว่ามีการเปิดตัวเพลง River ให้เป็นเพลงเชียร์ของ A.P. Honda Racing Thailand เราเลยชวนน้องๆ มาคุยกันสั้นๆ ถึงหน้าที่ใหม่ในการเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ รวมถึงเผยเรื่องซิงเกิ้ลใหม่ล่าสุดด้วย BNK48 เชื่อมโยงกับเรื่องมอเตอร์สปอร์ตตรงไหนบ้าง ตาหวาน : หนูมองว่าเราต้องแข่งขัน ถึงเราจะไม่ได้แข่งขันเหมือนมอเตอร์สปอร์ตที่วัดด้วยความเร็ว แต่เราก็ต้องพัฒนาฝึกฝนตัวเองเพื่อให้ไปสู่เป้าหมาย อย่างพี่ๆ นักแข่งก็ต้องตั้งใจซ้อมเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย BNK48 น่าจะมีจุดเชื่อมโยงที่เหมือนกันในตรงจุดนี้ แก้ว : เราคิดว่าการแข่งขันทุกอย่างมันเหมือนกันคือการต้องเอาชนะใจตัวเองก่อนค่ะ สำหรับพี่ๆ นักแข่งก็ต้องต่อสู้กับจิตใจตัวเอง เช่นถ้าพี่ๆ แข่งรถไปแล้วมัวระแวงว่าใครจะตามมา หรือมัวแต่มองคนอื่นก็จะไม่มีสมาธิ เหมือนกับ BNK48 ที่ต้องแข่งขันกับตัวเองก่อน รู้สึกอย่างไรกับประสบการณ์ในการเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ A.P. Honda เนย : เป็นประสบการณ์ใหม่ที่ต้องขอบคุณมากที่ให้โอกาส พวกเราก็จะตั้งใจทำให้เต็มที่และส่งมอบความสดใสให้เต็มที่เลย อร : เราก็อยากจะเป็นกำลังใจให้กับพี่ๆ ทุกคนที่เป็นนักแข่งเพราะพี่ๆ ก็เป็นหนึ่งในแรงผลักดันของพวกเราเหมือนกันค่ะว่าเราจะต้องสู้ พยายาม และไม่ยอมแพ้ น้ำหนึ่ง : เราดีใจและขอบคุณผู้ใหญ่ที่ให้โอกาสและเล็งเห็นว่าพวกเราสามารถมาสร้างประโยชน์อะไรให้กับพวกพี่ๆ ได้บ้าง ก็จะเป็นกำลังใจและทำหน้าที่ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้ดีค่ะ แก้ว : เรารู้สึกขอบคุณทาง A.P. Honda มากๆ ค่ะ พวกเราก็จะทำให้เต็มที่เลยค่ะ หวังว่าจะเป็นการขยายฐานคนดู และทำให้คนไทยหันมาสนใจการแข่งขันมอเตอร์ไซค์มากขึ้นค่ะ พอจะบอกได้ไหมว่าบทบาทของการเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คืออะไร ก่อน : ตอนนี้เรายังไม่ได้แบ่งหน้าที่กันนะคะ แต่หนูคิดว่าตาหวานเขาสามารถร้องนำเชียร์ได้ (หัวเราะ) อร : ก่อนหน้านั้นตาหวานก็เพิ่งร้องเพลงเชียร์ไป (ร้องเพลงพร้อมกัน) สีสันของ BNK48 จะมาช่วยให้กีฬาแข่งรถน่าสนใจขึ้นตรงไหน อร : เรามีเรื่องความสดใสค่ะเอาพวกเรามาช่วยเชียร์อัพ แก้ว : ถึงเขาจะดูเคร่งครึมในการแข่งขันเนอะ แต่ถ้ามีพวกเราช่วยเชียร์อัพก็ทำให้บรรยากาศดูสดใสมากยิ่งขึ้น ช่วงนี้งานเริ่มจะเยอะมากแล้วจัดการกับตารางชีวิตอย่างไรโดยเฉพาะเรื่องเรียน น้ำหนึ่ง : เราต้องดูว่าวิชาเรียนนั้นสำคัญมากน้อยแค่ไหน มีควิซ หรือมีสอบไหม ถ้าไม่มีอะไรที่สำคัญมาก เราก็สามารถคุยกับอาจารย์ได้เพื่อขอแบ่งเวลาไปทำงานค่ะ ก่อน : เรามีแพลนเนอร์ส่วนตัวค่อยจดตารางให้ค่ะว่าวันนี้จะทำอะไรบ้าง และจะไปทบทวนว่าวันต่อไปเราจะทำอะไร นอกจากงานที่เยอะขึ้นแล้วเห็นการเปลี่ยนแปลงของ BNK48 เรื่องอะไรอีกบ้าง เนย : เราเพิ่งได้รับเลือกให้เป็นเซ็นเตอร์ของซิงเกิ้ลที่สาม ‘Shonichi’ ค่ะ ก็อยากให้ฝากติดตามด้วย เพราะเนื้อหาของเพลงก็ดีมากๆ เลย ฝากติดตามด้วย แก้ว : เรารู้สึกว่ามาไกลกว่าที่คิดเยอะเลย หนึ่งปีก่อนจำได้ว่าเรายังเป็นเด็กที่ตื่นเต้นอยู่เลยกับการออกมาเจอแฟนๆ ครั้งแรก แต่วันนี้เรามีแฟนๆ เป็นของตัวเองแล้วค่ะ แล้วก็กำลังจะเติบโตไปอีกเรื่อยๆ ทั้งเธียร์เตอร์ ซิงเกิ้ลใหม่ และอื่นๆ ที่จะผลักดันเราไปข้างหน้า อร : มันเป็นเรื่องปกติของ 48 Group ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เรามีซิงเกิ้ลที่เพิ่มขึ้น เริ่มจะมีเธียร์เตอร์ มีสมาชิกรุ่นหนึ่ง สมาชิกรุ่นสอง สมาชิกรุ่นสาม ฯลฯ แต่การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องที่ดี ซิงเกิ้ลใหม่หน่อยเตรียมตัวไปถึงไหนแล้ว อร : ตอนนี้เราก็ฝึกซ้อมกันอย่างหนักด้วยกับซิงเกิ้ลใหม่ และออกงานอีเวนต์กันหนักหน่วงค่ะ (หัวเราะ) อย่างที่บอกก็คือเราก็แบ่งเวลาเหมือนกัน ตอนนี้ก็เตรียมตัวรอได้เลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเพลงเธียร์เตอร์ หรือซิงเกิ้ลที่สาม ซิงเกิลใหม่ความคืบหน้าเป็นอย่างไร ทำอะไรไปแล้วบ้าง เนย : ตอนนี้เราผ่านขั้นตอนการอัดเพลงและซ้อมเต้นแล้วเรียบร้อยค่ะ ก็มีปรับปรุงแก้ไขไลน์การเต้น ถ้าถึงเวลาที่เหมาะสมเดี๋ยวจะปล่อยออกมาเร็วๆ นี้ แต่ว่าในส่วนของท่าเต้นและการร้องเราเตรียมไว้เรียบร้อย อร : เร็วๆ นี้เราจะมีถ่าย MV ด้วยนะคะ (หัวเราะ) ในฐานะที่เนย เป็นเซ็นเตอร์ของซิงเกิ้ลใหม่กดดันแค่ไหน เนย : กดดันค่า (หัวเราะ) แน่นอนซิงเกิ้ลที่ผ่านมาได้รับความนิยมสูงมาก มันต้องมีการเปรียบเทียบเป็นธรรมดาอยู่แล้วแต่หนูก็จะทำให้เต็มที่ ทำผลงานออกมาดีๆ ให้แฟนคลับได้รับชม ซิงเกิ้ลที่สามเพลงก็เป็นเรื่องของความพยายามล้วนๆ เลย ซึ่งถ้าเพลงใหม่ออกมาน่าจะเข้ากับการเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ด้วย นอกจากการฝึกฝน ซ้อมร้องและเต้นแล้ว ตอนนี้ต้องซ้อมอะไรอีก เนย : อย่างแรกเราต้องดูแลตัวเองก่อนเลยเพราะเราค่อนข้างที่จะทำงานหนัก สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญมาก ดังนั้นอย่างแรกเราต้องฝึกตัวเองก่อน ตอนหลังเราออกสื่อบ่อยมากก็ต้องมาฝึกเรื่องของการพูด การวางตัว นอกจากการร้อง การเต้นก็ต้องฝึกเรื่องนี้แหละที่เยอะเป็นพิเศษ ตาหวาน : เราพยายามกลับไปฝึกฝนตัวเองที่หน้ากระจก เพราะเวลาทำงาน ถ้าไปถ่ายแบบ หรือถ่ายอะไรก็ตามหากเรารู้มุมของตัวเองมันก็จะทำงานได้ไวขึ้น และเราพยายามที่จะไปฝึกฝนตัวเองให้มากขึ้นในทุกด้าน มีเทคนิคในการเชียร์อัพนักแข่งที่ต้องให้กำลังใจอย่างไร ก่อน : การเชียร์ของเราคือการให้กำลังใจ แต่ก็ไม่ได้ให้กำลังใจอย่างเดียว แต่อยากจะให้แรงใจ ทุ่มทั้งใจ ใจของเราก็ให้เขาด้วย จะได้มีแรงแข่งต่อไป (หัวเราะ) น้ำหนึ่ง : การเชียร์แบบสุดเหวี่ยงแบบ เอ้า! สู้ๆ แบบนี้ (หัวเราะ) เราคงเชียร์แบบเต็มที่ เขาก็เต็มที่เราก็ต้องเต็มที่ในส่วนหน้าที่ของเราด้วย อร : ถ้ามีการเชียร์แบบเต็มที่ไปแล้วระหว่างพักเหนื่อย หนูก็ขอเป็นคนช่วยซับเหงื่อให้ได้ไหมคะ ล้อเล่นนะ (หัวเราะ) ก็จะเป็นกำลังใจตอนที่เหนื่อย และก็ท้อแหละค่า เนย : เราก็มีหน้าที่ให้กำลังใจอยู่ข้างสนามส่งมอบความสดใสให้ทุกคนได้มีแรง และพวกเราก็จะเป็นกำลังใจให้ตลอดค่ะ ตาหวาน : หลังจากที่พี่ๆ สู้กันมาอย่างเต็มที่ ระหว่างที่พักผ่อนเราก็จะมาร้องเพลงของเราให้ฟังแล้วกันนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่า แก้ว : หนูก็จะเชื่อมั่นในตัวพี่ๆ นักแข่งทุกคนนะคะ หวังว่าจะคว้าแชมป์มาให้พวกเรา มารับงานเกี่ยวกับรถมอเตอร์ไซค์ มีใครในนี้ขี่รถมอเตอร์ไซค์ไหม ตาหวาน : หนูก็ทั้งขับรถยนต์และขี่มอเตอร์ไซค์เหมือนกันค่ะ แต่ยังไม่ได้ขับแข็งขนาดนั้น ก็พยายามฝึกอยู่ซึ่งคุณแม่ก็กล้าๆ กลัวๆ เวลาให้เราขับ แต่ว่าหนูขับได้นะคะ (หัวเราะ) น้ำหนึ่ง : เราก็ขับรถนะ แต่หนูเรียนไกลมากแล้วระยะทางจากที่เรียน และมาซ้อมมันต้องใช้รถค่ะ ตอนนี้ก็ขับเก่งหรือยังนะไม่แน่ใจ (หัวเราะ) คือขับรถแล้วเราก็ยังมีความระมัดระวังในการขับรถไม่ได้เกร็งนะคะ แค่ระมัดระวัง (หัวเราะ) เรียบเรียงโดย ทีมงาน MangoZero