สัมภาษณ์พิเศษ : เปิดเบื้องหลัง 'ลงทุนแมน' เพจสุดฮิตที่ย่อยเรื่องเศรษฐกิจ การลงทุน ในมุมที่ใครๆ ก็เข้าใจได้

เชื่อว่าหลายคนรู้จัก ‘ลงทุนแมน’ เพจคอนเทนต์แนวธุรกิจคุณภาพคับแก้วที่เติบโตไวที่สุดในปีนี้ ถ้าจำกันได้ ‘ลงทุนแมน’ เปิดเพจครั้งแรกเมื่อ 13 มีนาคม 2017 และไม่นานก็ขยับมาเป็นเพจที่มีคนติดตามกว่าสามแสนไลก์ ด้วยพลังของคอนเทนต์ล้วนๆ คนที่ติดตามลงทุนแมน ย่อมสงสัยในใจว่า ‘ใครคือลงทุนแมน’ อาจจะเหมือนกับที่ชาวก็อธแฮม ตั้งสงสัยว่า ‘ใครคือแบทแมน’

ทว่าสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กับตัวตนของลงทุนแมน ก็คือเคล็ดวิชาในการสร้างเพจที่สร้างสรรค์ การขยันหาคอนเทนต์ มาให้ความรู้ด้านการลงทุนทุกวันแทบไม่เห็นวันหยุดเลย ลงทุนแมน ทำงานอย่างไร และทำเพจไปเพื่ออะไร นี่เป็นบทสัมภาษณ์ที่จะได้คำตอบในสิ่งที่มีคนสงสัย ส่วนลงทุนแมนเป็นใคร นั้นเขาบอกกับเราว่า “ไม่ต้องให้คนอื่นรู้ว่าเราเป็นใคร สิ่งที่สำคัญกว่าตัวตน คือการกระทำ”

แนวคิดการทำเพจลงทุนแมน ที่เล่าเรื่องโลกการทำธุรกิจที่ดูเข้าใจยากให้กลายเป็นสิ่งที่ใครก็เสพได้ง่าย นั้นคุณได้แรงบันดาลใจมาจากไหน

ลงทุนแมน : เริ่มจากการเล่าเรื่องราวในเพจเฟซบุ๊คตัวเอง ปรากฏว่ามีคนแชร์ต่อเป็นจำนวนมาก แชร์ไปถึงคนที่ไม่ใช่เพื่อนเรา แล้วมาขอเราเป็น friend ซึ่งเราก็เกรงใจว่าจะตอบรับดีหรือไม่ สุดท้ายจึงคิดว่าน่าจะทำเป็นเพจขึ้นมาน่าจะเหมาะสมกว่า

สนใจเรื่องการลงทุน หรือศึกษามานานแค่ไหน ถึงเล่าเรื่องการลงทุน ตัวเลข เรื่องธุรกิจได้สนุกขนาดนี้

ลงทุนแมน : ชีวิตอยู่กับเรื่องลงทุนมานานระดับหนึ่ง (ไม่สะดวกที่จะบอกตัวเลขที่แน่นอน แต่เกินสิบปี) และอยู่กับมันทั้ง 24 ชม. แม้แต่ฝันบางคืน

(โพสต์แรกของเพจลงทุนแมน)

เคล็ดลับในการย่อยเรื่องยากๆ ให้เข้าใจได้ง่ายๆ ในไม่กี่นาทีแบบลงทุนแมน คืออะไร

ลงทุนแมน : ไม่ได้มีเคล็ดลับอะไร แค่ต้องทำการบ้าน ทำความเข้าใจ เมื่อเราเข้าใจ มันก็เหมือนเราเล่าให้เพื่อนฟัง…คนที่พูดแล้วยาก อาจเป็นเพราะ เขาไม่ได้เข้าใจมันจริงๆ

โลกของการลงทุนนั้นซับซ้อนมากอยู่แล้ว แต่อะไรที่ทำให้คุณมั่นใจว่าเรื่องธุรกิจ จะไม่ใช่ของแสลงจนคนเบือนหน้าหนี

ลงทุนแมน : ธุรกิจอยู่รอบตัวเราทุกคน เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เหมือนกับบอกว่าวันนี้เราไม่กินข้าวได้มั้ย คำตอบคือเราหนีมันไปไม่ได้ และคนที่เข้าใจเรื่องธุรกิจได้ดีกว่า คือผู้ชนะของโลกนี้ คนที่จะอยู่รอดในสังคมได้ต้องเข้าใจว่าธุรกิจเขาทำอะไรกัน เราตื่นขึ้นมา แปรงฟัน ใช้ยาสีฟันคอลเกต อาบน้ำด้วยสบู่ลักซ์

สระผมด้วยแชมพูแพนทีน กินข้าวเช้าเป็นขนมปังฟาร์มเฮ้าส์ เล่นมือถือไอโฟน แชทคุยไลน์กับเพื่อน เดินทางไปทำงานด้วย bts ที่เล่ามาดูเพลิน แต่จริงๆ แล้วเรามี 7 บริษัทของแต่ละธุรกิจที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้แล้ว

(หนึ่งในบทความที่มีคนแชร์มากที่สุดในเพจลงทุนแมน)

จำได้ไหมว่าจุดเปลี่ยนที่ทำให้คนรู้จักลงทุนแมน เป็นวงกว้างมาจากคอนเทนต์ไหน

ลงทุนแมน : ไม่ได้มีคอนเทนต์ ไหนทำให้รู้จักเป็นพิเศษ น่าจะมาจากการที่เราทำคอนเทนต์ ที่ดี ซ้ำกันแบบถี่ๆ ทำให้คนเริ่มคิดว่า เพจนี้มีอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อเขา ทำให้รู้เรื่องที่ไม่เคยรู้ ทำให้อยากติดตาม ตัวอย่างเรื่องที่นิยมสุดๆ ก็คงจะเป็น บ้านไร่กาแฟหายไปไหน ปตท.กำลังเขี่ยเซเว่น? ท็อปเจริญกำไรดีแค่ไหน อวสาน Yahoo ทำไปได้อะไร 11 ปีที่หายไป

มีวิธีการเลือกหยิบประเด็น หรือกรณีศึกษาของธุรกิจต่างๆ มาเล่าเป็นบทความจากอะไรบ้าง

ลงทุนแมน : หยิบจากมุมมองเรื่องรอบตัวที่เราอยากรู้ และคนอื่นน่าจะอยากรู้เหมือนกัน

คุณอยากให้คนอ่านได้ประโยชน์อะไรจากสิ่งที่คุณเลือกมานำเสนอ

ลงทุนแมน : อยากให้คนอ่านได้แนวคิด ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน หรือ ในการทำธุรกิจ การศึกษาเรื่องราวของแต่ละธุรกิจจากประสบการณ์จริง เป็นความรู้ที่หาไม่ได้จากการเรียนในห้องเรียน เมื่อทุกคนทีความรู้มากขึ้น สุดท้ายลงทุนแมนอยากให้สังคมดีขึ้น

เราติดตามลงทุนแมน มาตั้งแต่ยอดไลก์พันต้นๆ จนมีเว็บ มีคอนเทนต์ใน Line Today ล่าสุดมีแอป ‘ลงทุนแมน’ คุณวางกลยุทธ์การเติบโตของเพจไว้ตั้งแต่แรกเลยหรือเปล่า

ลงทุนแมน : ไม่ได้วางอะไรเลย มี partner เข้ามาติดต่อเรื่อยๆ อันไหนน่าสนใจก็ลองทำดู ไม่ได้เสียหายอะไร อย่างมากก็เหนื่อย เสียเวลา ไม่ทำก็ไม่รู้ ก็ลองทำนู่นนี่ไปเรื่อย ไม่ได้มีแผนอะไรที่เป็นขั้นตอน ทำเพราะสนุก เดี๋ยวมันก็จะมีความคิดใหม่ๆให้ลองทำอะไรใหม่ๆเอง

คุณบอกในเพจว่าแอป ‘ลงทุนแมน’ คือ Social Knowledge ที่ทำให้สังคมดีขึ้น ถ้าคนมีคงรู้เรื่องการลงทุน เข้าใจเรื่องโลกของการทำธุรกิจมากๆ สังคมไทยจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางไหน

ลงทุนแมน : รู้ไหมว่างบประมาณรัฐบาลใส่เงินไปในกระทรวงไหนมากที่สุด? คำตอบคือ กระทรวงศึกษาธิการ ความรู้เป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาประเทศ การทำให้ทุกคนรู้วิธีทำเงินทำธุรกิจ เป็นสิ่งที่จะเป็นทางลัดทำให้ทุกคนมีโอกาสที่จะสำเร็จมากขึ้น

เงิน เป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งชีวิตความเป็นอยู่ การรักษาพยาบาล หรือแม้แต่ อาชญากรรมจะน้อยลง ลงทุนแมนอยากเป็นกระทรวงศึกษาธิการบนโลก Social

ในแง่ของการกระจายความรู้ล่ะ คุณเชื่อใจช่องทางไหนมากกว่าระหว่างเพจ หรือแอป

ลงทุนแมน : แอปจะช่วยให้คนติดตามได้ง่ายขึ้น และหาอ่านข้อมูลย้อนหลังได้สะดวกขึ้น เฟซบุ๊คเราอาจจะไม่ได้เห็นทุกโพสต์ เพราะเพจอื่นๆ ก็แย่งกันโพสต์ในเฟซบุ๊ค แน่นอนว่าเฟซบุ๊คเป็นช่องทางที่มีการแชร์กันทำให้ข้อมูลเรากระจายเข้าถึงคนจำนวนมากได้ แต่แอปน่าจะเป็นสิ่งที่เราควรมีเตรียมไว้ให้กับคนที่ติดตามเราอย่างจริงจัง

เราเชื่อว่าแอปจะทำให้เขาอ่านข้อมูลของเราได้ง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก และประเด็นใหญ่คือเรามีแพลตฟอร์มใหม่ในแอปที่เป็นช่องทาง เปิดให้ทุกคนแสดงความรู้ความสามารถอีกด้วย ซึ่งเฟซบุ๊คทำไม่ได้ เราอยากสร้างสังคมของเราเองที่เป็นสังคมความรู้

(หนึ่งในวิดีโอคอนเทนต์ที่มีการร่วมมือกันระหว่าง ‘ลงทุนแมน’ กับพาร์ทเนอร์อื่นๆ)

แอป ‘ลงทุนแมน’ จะมาช่วยเสริม อะไรให้กับเพจของคุณต่อในอนาคต

ลงทุนแมน : เสริมเรื่องการสร้างสังคมแห่งความรู้ให้มีตัวตนจับต้องได้มากขึ้น

ช่วงหลังเริ่มเห็นโฆษณาแล้ว การมีโฆษณามีผลกระทบต่อการนำเสนอคอนเทนต์ของคุณไหม

ลงทุนแมน : คงไม่มีเพราะเราแยกชัดว่าคอนเทนต์ไหนเป็นโฆษณา ผู้อ่านทุกคนฉลาดเขาแยกแยะได้ และมีหลายโฆษณาที่ลงทุนแมนไม่รับเพราะขัดกับแนวทางของเพจ

แต่ละวันคุณมีกระบวนการคิดงาน หรือสร้างงานอย่างไร ต่อหนึ่งวันคุณให้เวลากับการทำเพจแค่ไหน

ลงทุนแมน : ใช้เวลาทั้งวัน นอกจากการนอนและ กินข้าว

(หนึ่งในคอนเทนต์ของลงทุนแมน ที่มีโฆษณาซึ่งเล่าเรื่องได้แนบเนียนและสนุก)

เพจนี้คุณทำเองคนเดียวหรือเปล่า

ลงทุนแมน : ความลับ

ชอบบทความไหนของตัวเองที่สุดตั้งแต่เปิดเพจมา

ลงทุนแมน : ‘ทำไปได้อะไร’ ที่พูดถึงเรื่องการวิ่งของพี่ตูน บอดี้สแลม

(หนึ่งในบทความที่ลงทุนแมน ชอบที่สุด)

ชื่อเพจนี่คิดนานไหม

ลงทุนแมน : ไม่นาน อยากได้ชื่อสั้นๆ ที่สื่อถือสิ่งที่อยากนำเสนอในเพจ

ทำไมถึงปกปิดตัวตนขนาดนี้

ลงทุนแมน : ไม่อยากให้ทุกคนมายึดติดกับตัวตน อยากให้ทุกคนมองที่คอนเทนต์เป็นหลัก ทุกวันนี้ในโลกออนไลน์มีเน็ตไอดอล หรือ กูรูมากอยู่แล้ว ไม่อยากเป็นแบบนั้น เราอยากเป็นแบทแมน สไปเดอร์แมน ที่ช่วยคนอื่นโดยไม่ต้องให้คนอื่นรู้ว่าเราเป็นใคร สิ่งที่สำคัญกว่าตัวตน คือ การกระทำ

คุยมาขนาดนี้แล้วขอถามนิดนึง ปี 2018 ควรลงทุนอะไรดี ลงทุนแมนพอจะแนะนำได้ไหม

ลงทุนแมน : ลงทุนในสิ่งที่เราเข้าใจ ต่อให้ลงทุนแมนบอกว่าอะไรดี ถ้าเราไม่เข้าใจก็จะไม่สบายใจที่จะลงทุนอยู่ดี ต้องถามตัวเองว่าเรารู้เราเข้าใจในเรื่องอะไรบ้าง สิ่งนั้นแหละ จะเป็นการลงทุนที่ดีในปี 2018

_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _