โกงกันเก่งคนสมัยนี้ ดูเหมือนว่าการโกงบัตรคอนเสิร์ตที่เป็นการซื้อบัตรต่อจากเหล่ามิจฉาชีพยังมีให้เห็นอยู่ทุกวัน และก็ไม่มีวิธีอะไรที่จะสามารถการันตีได้ว่า บัตรที่เราซื้อต่อนั้นเราจะได้รับจริงหรือป่าว หรือถ้าได้จริง ก็อาจจะเป็นบัตรปลอม รู้ไว้ก่อนโดนโกง ถ้ารู้ว่าเราโดนโกง เราจะทำยังไงต่อกันดี เช็คยังไงให้ชัวร์ ไม่ว่าจะซื้อบัตรผ่าน Twitter หรือ Facebook หรือช่องทางไหนก็ตาม เช็คให้แน่ใจก่อนว่า “ชื่อที่จะโอน หรือ Account นั้นๆ น่าเชื่อถือแค่ไหน” วิธีง่ายๆ คือ ลองเช็คชื่อ นามสกุล หรือ หมายเลขบัญชีธนาคารได้ทาง https://blacklistseller.com/report/report_search_page ซึ่งเป็นเว็บเอาไว้เช็ครายชื่อมิจฉาชีพเพียงเบื้องต้นเท่านั้น สามารถป้องกันตัวเราได้ในระดับหนึ่ง และ สามารถบอกบุญลูกค้าคนอื่นแชร์ข้อมูลชื่อมิจฉาชีพลงได้ ลองใส่ # งานคอนเสิร์ต หรือ แฟนคลับ แล้วตามด้วยคำว่า “โกง” ดูอาจจะเจอรายชื่อ หรือ เลขที่บัญชี พวกแฟนคลับด้วยกันมาเตือนไม่ให้ซื้อ – ขายกับบุคคลนี้ เป็นต้น ควรซื้อบัตรต่อจากแหล่งที่มีความน่าเชื่อถือ เช่น กรุ๊ปแฟนคลับใหญ่ที่เปิดมานาน ถ้าเปิดมาสั้นๆ อย่าพึ่งปักใจเชื่อเด็ดขาด ทางที่ดีอย่าซื้อกับคนแปลกหน้าดีที่สุด โกงแบบไหนบ้าง ถึงแม้ว่าเราจะขอบัตรประชาชนตัวคนขายมาไว้ ก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่า “เขาจะไม่โกงเรา” เทคนิคแพรวพราวมากของมิจฉาชีพ เช่น ส่งบัตรประชาชนให้เพื่อเราสบายใจ แต่สุดท้ายก็ไม่ส่งบัตรให้ การนัดรับบัตรคอนเสิร์ตหน้างานแล้วไม่มา ขอมัดจำค่าบัตรก่อน ทำทีเหมือนว่าจะส่งชัวร์แน่ๆ ที่ร้ายคือ บัตรซ้ำ บัตรซ้อน มันคือ การที่โจรไปแลกบัตรแข็งมาแล้ว ขายบัตรให้เราแล้ว จากนั้นโจรไป “แจ้งความว่าบัตรหาย” รวบหลักฐานชำระเงิน มีใบแจ้งความ สามารถขอบัตรใหม่ที่จำหน่ายบัตรได้ จากนั้นโจรก็ไปขายให้กับลูกค้าใหม่อีกทอด พอไปถึงเราที่เหมือนจะมีบัตรแข็งอยู่แล้ว แต่ก็ไปเจอลูกค้าตัวจริงที่ที่นั่งซ้ำกับเรา รู้ได้ไงว่าโกง โจรไม่ตอบพอเราโอนเงินไปแล้ว ถามไปไม่ตอบ อ่านไม่ตอบ หรือ ถึงขั้น Block เราไปเลย โจรลบ Hashtag ทุกอย่างในการขายทางออนไลน์ โจรลบ Account ทิ้ง โดนโกงแล้ว ทำไงต่อ เมื่อเรารู้แล้วว่าโดนโกงแน่ ๆ ทำทุกอย่างให้ไวที่สุด คือ รวบรวมหลักฐานทุกอย่างที่จะเอาผิดโจรได้ เช่น รูปการโอน ข้อความแชท ที่ได้ตกลงซื้อขายกัน ไม่ว่าจะทางไลน์ , Capture แหล่งที่ขายพวก Hashtag ต่างๆ หรือ Account ของโจร (ถ้าทัน) , ถ้าได้หน้าบัตรประชาชนของโจรไว้ ก็จะดีมาก เมื่อรวมหลักฐานได้แล้ว ก็นำหลักฐานไปแจ้งความกับตำรวจ “ข้อหาฉ้อโกง” ลงบันทึกประจำวัน และ ให้ออกจดหมายราชการ (ที่มีตราครุฑ) เพื่อที่จะมีอำนาจในการปิดบัญชีนั้นได้ นำเอกสารที่ได้จากตำรวจไปยื่นกับ “ธนาคารที่เราโอนไป” ธนาคารจะอายัดบัญชีนั้นทันที หมายความว่า บัญชีนั้นจะถอน โอน ทำธุรกรรมอะไรไม่ได้นอกจากว่า โจรเจ้าของบัญชีจะเจรจาคืนเงิน เพื่อถอดแจ้งความ และ ยกเลิกอายัดบัญชี หลังจากอายัดบัญชีโจรได้ ต่อจากนี้เป็นเรื่องของตำรวจว่าจะดำเนินการอย่างไร ตำรวจก็จะมีหมายเรียก ถ้าเรียก 3 ครั้งแล้วโจรไม่ยอมมา เรื่องจะดำเนินการสู่ศาลต่อไป ซึ่งใช้เวลานาน ตัวแทนจำหน่าย เช่น Thai Ticket Major บอกว่า ถ้าพบเจอบัตรที่นำไปขายในราคาที่สูงขึ้น สามารถแจ้งและระงับบัตรนั้นได้ แต่ถ้ามีการซื้อขายกันเรียบร้อยแล้ว แล้วโดนโกง หน่วยงานไม่สามารถรับผิดชอบได้ ดังนั้นทางที่ดี เราควรซื้อบัตรจากตัวแทนบริษัทที่ Official เปิดขายบัตรดีที่สุด หรือ ซื้อบัตรจากคนรู้จัก ไม่ซื้อจากคนแปลกหน้า แต่ถ้าจำเป็นที่ต้องซื้อบัตรต่อจากคนอื่นก็ควรตรวจสอบข้อมูลของผู้ขายมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ให้มากที่สุด เพื่อประโยชน์ของตัวเอง