เมื่อเช้าถอดปลั๊กที่ห้องหรือยังนะ ประตูห้องปิดสนิทดีหรือเปล่า ความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับใครหลายคนในทุกช่วงเช้า และเมื่อความไม่มั่นใจและความกังวลถาโถมหนักขึ้น จนสุดท้ายต้องยอมย้อนกลับมาเช็คครั้ง ยิ่งเป็นบ่อยเข้า ยิ่งดูเหมือนเป็นความผิดปกติมากกว่าความกังวลทั่วไป หรือนี่จะเป็นอาการของ OCD หรือโรคย้ำคิดย้ำทำ? โรค OCD (Obsessive-compulsive disorder) หรือโรคย้ำคิดย้ำทำ เกิดจากการคิดเรื่องใดเรื่องหนึ่งซ้ำๆ เช่น การรักษาความสะอาด การรักษาความปลอดภัย หรือความคิดที่ต่อเรื่องๆหนึ่ง จนก่อให้เกิดเป็นพฤติกรรมทำซ้ำๆ เช่น ล้างมือซ้ำ เช็คประตูบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือพูดเรื่องนั้นไม่เลิก โดยบางครั้งอาจเกิดเป็นพฤติกรรมความคิิดหมกมุ่นอยู่กับเรื่องนั้น แต่ไม่ได้แสดงออกมา และทำให้เกิดอาการเครียดและอาจทำให้เกิดโรคทางจิตเวชอื่นๆ ตามมาได้ แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะบางครั้งเราก็อาจจะเป็นแค่ความวิตกกังวลเฉยๆ มาเช็คกันหน่อยดีกว่าว่า เราเข้าข่ายจะเป็นโรคย้ำคิดย้ำคิดหรือเปล่า กลัวเชื้อโรคหรือความสกปรก ไม่อยากสัมผัสสิ่งที่คนอื่นจับ เช่นลูกบิดประตู หรือราวบันไดสาธารณะ รวมไปถึงการทำความสะอาดสิ่งเดิมซ้ำๆ เช่นล้างจาน ล้างมือ หรืออาบน้ำ ต้องจัดเรียงทุกอย่างให้อยู่เป็นที่ รู้สึกอึดอัดเมื่อมีสิ่งของหายไปจากพื้นที่ของมัน เช่น จิ๊กซอว์ที่ต่อไม่ครบ ของวางเปลี่ยนไปจากที่เดิม นับจำนวนของอย่างซ้ำๆ เกี่ยวกับตัวเลข หรือรู้สึกขัดใจเมื่อเห็นรูปภาพในตำแหน่งที่ไม่สมมาตร กลัวการทำร้ายตัวเองหรือผู้อื่น เมื่อทำสิ่งที่เปลี่ยนไปจากเดิมแม้เพียงเล็กน้อย ก็มักคิดว่าจะทำให้ตัวเองหรือคนอื่นเสียใจ ทำให้ขอโทษตลอดเวลา ถามคำยืนยันจากผู้อื่นซ้ำๆ อย่างผิดปกติ ถามซ้ำๆ ว่าการทำสิ่งนี้เป็นเรื่องผิดไหม หรือทำแบบนี้ได้ไหม ก่อนจะวกกลับมาถามอีกรอบ ทั้งที่พึ่งตอบไปไม่นาน กลัวขายหน้า กลัวว่าจะเผลอทำตัวหยาบคายในที่สาธารณะ หรือทำตัวแย่ในสังคมอย่างควบคุมไม่ได้ ชอบคิดในเรื่องแย่เรื่องเดิม จินตนาการถึงเรื่องแย่ๆ โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับเพศหรือศาสนา เช่น ฉากที่ไม่เหมาะสม หรือคิดคำหยาบคายอยู่ในหัว สะสมของที่ไม่จำเป็นเต็มบ้าน ของที่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ หรือพังไปแล้ว ก็ยังเก็บไว้ หรือมีเก็บไว้ที่บ้านแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถหยุดซื้อได้ หากคิดว่าตัวเองเข้าข่ายในการเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ ก็สามารถพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยได้ โดยจะเป็นการตรวจร่างกาย และการตรวจทางจิตเวชตามเกณฑ์ของสมาคมจิตเวชศาสตร์แห่งสหรัฐอเมริกา แม้ไม่ได้ส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพในเบื้องต้น แต่หากปล่อยทิ้งไว้ก็จะมีผลเป็นอย่างมากกับชีวิตประจำวันและการเข้าสังคม ดูแลร่างกายตัวเองแล้ว ก็อย่าลืมดูแลจิตใจกันด้วยนะ : – ) ที่มา : Ramamental, Webmd
