เมื่อวันที่ 7 เมษายนทางเพจเฟซบุ๊กกรมอุตุนิยมวิทยา เผยแพร่กราฟิกที่คาดหมายค่าดัชนีความร้อนสูงสุดระหว่างวันที่ 7-9 เมษายน 2566 ซึ่งจังหวัดที่มีการคาดหมายค่าดัชนีความร้อนสูงสุดคือ กระบี่ โดยอยู่ที่ 54 องศาเซลเซียสของวันที่ 9 เมษายน หรือพรุ่งนี้นั่นเอง สำหรับค่าดัชนีความร้อนไม่ใช่อุณหภูมิจริงที่เกิดขึ้น แต่เป็นการคำนวณมาจากค่าอุณหภูมิของอากาศที่ตรวจวัดได้จริง และความชื้นสัมพัทธ์ โดยนำมาใช้เพื่อระบุความเสี่ยงสภาวะที่ร่างกายจะได้รับผลกระทบจากความร้อน รวมถึงตัวเลขจะมีความต่างจากอุณหภูมิที่เครื่องวัดหรือโทรศัพท์แสดง ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยา พยาการณ์ค่าดัชนีความร้อนสูงสุดในวันนี้ 8 เมษายน ♨️ แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน > 39.1 องศาเซลเซียส ศรีสะเกษ > 38.8 องศาเซลเซียส บางนา กทม. > 47.4 องศาเซลเซียส ชลบุรี > 47.6 องศาเซลเซียส ภูเก็ต > 45.4 องศาเซลเซียส ส่วนวันพรุ่งนี้ 9 เมษายน ค่าดัชนีความร้อนสูงสุด ♨️ เพชรบูรณ์ > 44.3 องศาเซลเซียส โชคชัย จ.นครราชสีมา > 41.3 องศาเซลเซียส บางนา กทม. > 50.2 องศาเซลเซียส*** ชลบุรี > 43.2 องศาเซลเซียส กระบี่ > 54 องศาเซลเซียส*** โดยกรมอนามัยได้ออกมาเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวังผลกระทบจากค่าดัชนีความร้อน แบ่งระดับได้ดังนี้ 💚 สีเขียว – ระดับเฝ้าระวัง > ดัชนีความร้อน 27-32 องศาเซลเซียล อ่อนเพลีย วิงเวียน คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัวจากการสัมผัสความร้อน หรือออกกำลังกาย ใช้แรงงานท่ามกลางอากาศที่ร้อน 💛สีเหลือง – ระดับเตือนภัย > ดัชนีความร้อน 32-41 องศาเซลเซียล เกิดอาการตะคริวจากความร้อน และอาจเกิดอาการเพลียแดดหากสัมผัสความร้อนเป็นเวลานาน 🧡สีส้ม – ระดับอันตราย > ดัชนีความร้อน 41-54 องศาเซลเซียล มีอาการตะคริวที่น่อง ต้นขา หน้าท้อง หรือไหล่ ทำให้ปวดเกร็ง มีอาการเพลียแดด และอาจเกิดภาวะลมแดด (Heat stroke)ได้ หากสัมผัสความร้อนเป็นเวลานาน ❤️🔥สีแดง – ระดับอันตรายมาก > ดัชนีความร้อน มากกว่า 54 องศาเซลเซียล มีภาวะลมแดด (Heat stroke) ทั้งนี้ใครที่อาศัยใช้ชีวิตอยู่ในบริเวณจังหวัดดังกล่าวข้างต้น ควรหลีกเลี่ยงการออกไปตากแดดกลางแจ้ง หรือถ้าทำกิจกรรมที่เสียเหงื่อปริมาณเยอะ ก็อย่าลืมดื่มน้ำทดแทนร่างกายที่เสียไป ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ