ถ้าพูดถึงชายหนุ่มยิ้มยากของยุคนี้ ชื่อของ “The Toys” หรือ ทอย ธันวา บุญสูงเนิน คือลิสต์แรกๆ ที่หลายคนนึกถึง จนแอบคิดว่า “หยิ่งสินะ…” และเมื่อทีมงาน Mango Zero ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ กลับพบว่า “….ก็ยิ้มง่ายนิ” เวลา 15.00 น. คือเวลาที่ทางพีอาร์ The Toys นัดเราให้มาถึงที่ออฟฟิศค่ายเพลง What The Duck ใจกลางซอยอารีย์ ระหว่างที่ทีมงานกำลังเซ็ตอุปกรณ์เพื่อเตรียมถ่ายและสัมภาษณ์ The Toys นั่น คนที่เราตั้งใจมาเพื่อสัมภาษณ์ได้เดินเข้ามาหาทีมงานพร้อมยกมือไหว้ทักทายตามปกติที่เราเคยเจอทุกครั้งที่เจอแขกสัมภาษณ์ แต่สิ่งที่ประหลาดใจสำหรับทีมงานคือ … รอยยิ้ม ที่ปรากฎออกมาในวินาทีแรก ทำให้กำแพงในใจของตัวทีมงานทลายไป จากความคิดที่ว่า “น้องเขาคงไม่ไนซ์หรอก” และรอยยิ้มแรกของน้องเขา ทำให้ทีมงานรู้สึกอยากค้นหาต่อระหว่างบทสัมภาษณ์นี้…. The Toys เป็นคนไม่ชอบยิ้ม จริงไหม? The Toys : เอาจริงๆ ผมว่ามันก็แล้วแต่วันนะ แค่บางวันบางคิดเรายังไม่เหมือนกัน คนเราก็คงไม่ได้ยิ้มได้ทุกวัน แล้วแต่นะ (แอบปรากฎรอยยิ้มเขินๆ) พูดตรงๆ ผมเฟคไม่ค่อยเป็น นี่เป็นเรื่องที่ร้ายที่สุดของผมในวงการนี้ และผมไม่ได้ไม่ยิ้มเพราะความที่ผมเบื่อหรืออะไร แต่ผมเพิ่งตื่นนอน แล้วคิดว่าตัวเองเป็นคนอย่างไง? The Toys : ผมเป็นคนที่มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งตรงหน้า เวลาผมทำอะไรหรือคุยกับใครสมาธิก็จะจดจ่อกับสิ่งตรงนั้น มันเลยทำให้ผมเหมือนเครียดๆ นิดหน่อย ด้วยความที่ผมเป็นคนจริงจังกับเรื่องที่ทำอยู่ ณ ตอนนั้นด้วย ถ้าถามคนอื่นคิดว่าเขาจะตอบว่า The Toys เป็นคนอย่างไง? The Toys : ปกติครับ Mango Zero : The Toys เป็นคนปกติ? The Toys : ใช่ๆ ครับ (ยิ้ม) เหมือนรอย(ไม่)ยิ้มของเรา นำไปสู่ดราม่า The Toys : คือผมไม่เคยเจอกับตัว บางทีผมเห็นข่าวคนอื่น วงการมันจะมีสิ่งที่สร้างเรื่องปลอมๆ ให้คนอื่นเสียหาย ซึ่งเขาไม่ได้เป็นแบบนั้น แต่กลุ่มนี้ก็จะมีชื่อเสียงมากขึ้น ซึ่งผมเข้าใจวัฒนธรรมเหล่านี้จะเป็นมาตลอด พอมาเกิดขึ้นกับเราบ้าง ผมก็ไม่ได้รู้สึกเครียดหรืออะไร แค่ตกใจว่า อุ้ย! มันเกิดขึ้นกับเราด้วย อะไรอย่างเนี้ย ผมก็ตกใจนิดหน่อย สุดท้ายผมก็มาชี้แจ้งความจริง Mango Zero : แสดงว่าเป็นคนไม่ค่อยเครียด? The Toys : ผมไม่เคยเครียดเลย สำหรับผมความเครียดจะเกิดขึ้นเพราะว่าเราคิดว่าเราดัง แล้วคิดว่าเรารวย เรามีชื่อเสียง มีแฟนคลับ แล้วคิดว่าเพลงเรามีคนฟังตลอด แล้วคิดว่าเราสำคัญ ผมว่าความคิดแบบนี้มันอาจทำให้เราเครียด แต่ถ้าวันนี้ผมเจอเรื่องแย่ในชีวิต ผมไม่เครียดอะ ผมคิดว่าผมก็คือคนธรรมดา ผมไม่ได้มีอะไรอะ ผมแค่ชอบทำเพลง ผมชอบมากๆ ชอบเล่นกีต้าร์ ชอบร้องเพลง ผมคิดแค่นี้ เพราะความชอบดนตรี (มากกกก) ทำให้เรามีไอเดียแต่งเพลงต่อเนื่อง? The Toys : จริงๆทุกเพลงมันไม่เหมือนกันเลยนะคือเราใช้วิธีเดิมไม่ได้มันจะซ้ำคือมันอยู่ที่ว่าวันนี้อยากเล่าเรื่องอะไรสำหรับผมคิดว่าทุกๆ วันความคิดเปลี่ยน ความคิดทุกคนเปลี่ยนมันไม่ได้มีวิธีการตายตัว อยู่ที่ว่าวันนี้เราอยากพูดเรื่องนี้ Mango Zero : ยิ่งเพลงดังแบบนี้ ทำให้การทำเพลงต่อไปกดดันไหม? The Toys : ไม่เลยครับ ผมมองว่าผมไม่ได้เป็นนักร้อง ไม่ได้เป็นศิลปิน ผมไม่ได้มีชื่อเสียง ผมไม่มีอะไรเลย ไม่มีแฟนคลับ ไม่มีทีมงานที่ค่าย ไม่มีอะไรเลย ผมแค่คิดว่าวันนี้ ผมจะทำเพลง ผมไม่ได้หวังอะไร ผมไม่ได้หวังว่าจะต้องสร้างรายได้ ผมแค่ชอบเรื่องนี้ ผมชอบแบบนี้ คุณฟังไม่รู้เรื่อง แต่ผมชอบ ผมจะเขียนแบบนี้ (ยิ้ม) Mango Zero : เท่ากับว่าก่อนที่จะเขียนเพลงออกมาเราจะคิดแบบนี้? The Toys : ผมคิดว่าเป็นแนวคิดที่มันดีนะ เราจะได้ไม่คาดหวังกับอะไรทั้งนั้นบนโลก และเราก็จะไม่สนใจเสียงรอบข้าง เพราะสำหรับผมคิดว่า ควรทำเพลงด้วยความสุข มากกว่าธุรกิจครับ Mago Zero : แต่ตอนนี้เราก็มาอยู่ในวงการนี้แล้วนะ The Toys : ซึ่งมันก็เป็นเรื่องดีนะอย่างน้อยเราก็ได้ทำตามความสุขของผมทุกเพลงก็ยังมีกลุ่มผู้ฟังผมขอบคุณทุกคนตรงนั้นทุกคนเลยและมันก็ไม่ได้เกินความสามารถเรานะอย่างเรื่องชื่อเสียงของผมต้องยกเครดิตให้กับคนฟังเพราะผมแค่ชอบแบบนี้ผมแค่ทำแบบนี้ การร้องแร็พที่เร็วและรัวมากจนฟังไม่ทัน The Toys : ดีใจมากๆ ครับ เพราะเมื่อคุณฟังไม่ทัน คุณก็จะไปสนใจอ่านความหมายของมัน มากกว่าการร้องตามครับ (หัวเราะ) Mango Zero : หรือการร้องแร็พคือซิกเนเจอร์ของเราไปแล้ว The Toys : แรกๆ ผมไม่ได้ตั้งใจนะ แต่ทุกวันนี้ผมตั้งใจล่ะ เพราะมันเป็นการร้องแร็พที่มีเมโลดี้ Mango Zero : เคยร้องแร็พไม่ทัน จนแอบดำน้ำไหม? The Toys : ผมซ้อมมาดีครับ (หลุดขำ) ไม่พลาดครับ ซ้อมมาดีครับ ส่วนเทคนิคผมว่าทุกคนทำได้ ก็เหมือนทุกคนอ่านหนังสือ สมมติว่าอีกหนึ่งชม. เราต้องไปพักกลางวันแล้วอะ แต่อาจารย์ต้องการให้ได้คำตอบ เราก็ต้องรีบอ่านตอนนั้น เพื่อจะเดินไปกินข้าว ก็ไม่รู้จะทำอย่างไง แล้วก็หายใจลึกๆ ช่วยคุณได้ครับ รางวัลการันตีผลงานในเวลาไม่ถึงปีของการเป็นนักร้อง ล่าสุดกวาด 3 รางวัลในงาน JOOX Thailand Music Awards 2018 ทั้งรางวัลศิลปินยอดนิยมแห่งปี ,รางวัลเพลงแห่งปีและรางวัลเพลงป็อบแห่งปี The Toys : ผมรู้สึกว่ารางวัลมันไม่ใช่เป้าหมายหลักที่เราได้รับหรือบทพิสูจน์อะไรมากมายครับ ผมแค่คิดว่ามันเป็นของขวัญที่เกิดขึ้นจากแฟนเพลง และก็จากทางรายการ ทางวงการเพลง ที่แค่เป็นของขวัญชิ้นหนึ่งครับ สำหรับผมแค่มีชื่อได้เข้าชิงหรืออยู่ในโพลอะไรพวกนั้น มันก็เป็นเกียรติมากแล้ว ก็เลยไม่ได้คิดว่าจะต้องได้รางวัล ก็ตกใจเหมือนกัน ก็งงๆ (ยิ้ม) ถามว่ามันเป็นความสามารถของเราไหม ผมก็ยังไม่เชื่อนะ มันคือจริต รสนิยมของผู้ฟัง แล้วก็คณะกรรมการหรือว่าวงการเพลงที่มองผมมากกว่า เราแค่เห็นความชอบที่ตรงกัน ถามว่าผมเก่ง ผมมีความสามารถได้รับรางวัลไหม ผมก็ยังไม่เชื่อ ป้ายไฟกับแฟนคลับ จากรางวัลที่ได้รับรวมถึงผลงานต่างๆ ที่ไม่ว่าจะไปเวทีไหน เรามักจะเห็นแฟนคลับตามไปให้กำลังใจพร้อมกับป้ายเพลงเสมอ The Toys : วันแรกผมแสบตามากเลยเพราะมันเป็นไฟเหมือนนีออน แต่ผมชอบมากเลย ผมยอมแสบตาผมชอบที่เขาทำ ผมไม่รู้หรอกว่าเขาไปทำตอนไหนแล้วเขาไปทำอย่างไง ผมรู้สึกว่าจากคนคนหนึ่งที่อยู่ในห้องอะครับ วันหนึ่งเพลงหรือผลงานของเรามันกลับส่งออกไปมันมีคุณค่ากับคนอื่นๆด้วยจนมีป้ายไฟมีตัวแทนผมชอบผมปลื้มมากแต่ผมก็ไม่รู้จะพูดเป็นคำยังไงแต่ผมรู้สึกดีด้วย และแฟนคลับ แฟนเพลงทุกคนเป็นสิ่งที่สวยงามที่สุดในชีวิตผม The Toys กับอนาคตในวงการเพลง The Toys : ผมไม่วางครับไม่อยากวางเลยผมว่าทุกครั้งที่เราวางถ้าเราเริ่มวางแพลนกับสิ่งที่ไม่แน่นอนผมรู้ว่ามันไม่มีทางนิ่งอยู่แล้วก็ไม่วางดีกว่ารอวันต่อวันสังเกตการณ์ไปทุกวันดีกว่าแทนที่จะวางไปสามเดือนข้างหน้าหกเดือนข้างหน้าอยู่ไปวันต่อวันดีกว่า และความคิดที่ว่าการ “อยู่ไปวันต่อวัน” ของเขาเพียงต้องการจะบอกเราเป็นนัยๆ ว่า….”ทำทุกวันให้ดีที่สุด” แล้วทุกๆ วันจะดีเอง นั่นคือความคิดที่มาพร้อมรอยยิ้มจากใจของ The Toys ดูวิดีโอสัมภาษณ์พร้อมฟังเพลงสดๆ จาก The Toys ได้ที่คลิปนี้เลย
