หลายคนคงจะเคยได้ยินหรือรู้จัก ‘ไทม์แคปซูล’ การฝังหรือการเก็บสิ่งที่เก็บรวบรวมสิ่งของหรือข้อมูลที่สำคัญในอดีตไว้ในกล่องเก็บสภาพที่แข็งแรง เพื่อให้คนในอนาคตได้ทราบถึงเหตุการณ์ในอดีต ซึ่งไทม์แคปซูลนี้เป็นการบันทึกประวัติศาสตร์หรือเรื่องราวอีกรูปแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยมตั้งแต่คนรุ่นหนึ่งสู่คนอีกรุ่นหนึ่ง ทว่าเร็ว ๆ นี้ นักโต้คลื่นชาวไอริสสองคนได้พบวัตถุโลหะรูปทรงประหลาดชิ้นหนึ่งที่ถูกกระแสน้ำพัดมาเกยอยู่ที่ริมหาดของไอร์แลนด์ ซึ่งมีข้อความสลักบนวัตถุไว้เป็นภาษารัสเซีย ก่อนที่จะจับใจความได้ว่านี่คือไทม์แคปซูลที่ถูกฝังไว้เพื่อให้ใครสักคนมาพบและเปิดดูมันในสักวันของอนาคต แต่แล้วการค้นพบแคปซูลนี้กลับเป็นเรื่องประหลาด เมื่อพวกเขาพบว่าไทม์แคปซูลที่เจอ เป็นของกลุ่มนักสำรวจขั้วโลกเหนือชาวรัสเซีย ที่เดินทางมาทำภารกิจสำรวจอาร์กติกเมื่อปี 2561 หรือเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว โดยภายในบรรจุจุกปิดไวน์ บทกวี พร้อมแนบจดหมายฉบับหนึ่งลงวันที่ 4 สิงหาคม 2561 ที่ถูกเขียนไว่ว่า “ทุกสิ่งรอบตัวเราปกคลุมเต็มไปด้วยแผ่นน้ำแข็ง เราคิดว่า เมื่อมีผู้พบจดหมายฉบับนี้ น้ำแข็งในอาร์กติกคงจะละลายหมดแล้ว” และเมื่อนักโต้คลื่นทั้งสองสามารถติดต่อหนึ่งในทีมนักสำรวจจากโซเชียลมีเดียที่ผ่านการสืบค้นจากการลงชื่อผู้ที่ฝังไทม์แคปซูลชิ้นนี้ไว้ การติดต่อพูดคุยของพวกเขาทำให้เหล่านักสำรวจรัสเซียถึงกับงงงวยและคาดไม่ถึงว่าจะได้รับข้อความจากคนที่เจอแคปซูลของตัวเองหลังจากที่ฝังไปได้ไม่นาน นักสำรวจชาวรัสเซียกล่าวว่า เขาฝังไทม์แคปซูลนี้ไว้ ณ ใจกลางแผ่นน้ำแข็งของขั้วโลกเหนือ และเชื่อว่าจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 30 – 50 ปี กว่าน้ำแข็งจะละลายมาถึงจุดที่พวกเขาฝังเอาไว้ แต่เหตุใดที่ทำให้ไทม์แคปซูลชิ้นนี้กลับลอยไปเกยหาไอร์แลนด์เป็นที่เรียบร้อยโดยใช้ระยะเวลาราว ๆ 2 ปีเท่านั้น ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์พบว่าอุณหภูมิแถบอาร์กติกเพิ่มขึ้นเฉลี่ยเกือบ 1 องศา และน้ำแข็งแถบขั้วโลกเหนือได้ละลายไปแล้ว 40% และเฉพาะปีที่แล้วเพียงปีเดียว พบว่าแผ่นน้ำแข็งกรีนแลนด์ละลายในหลักล้านตันในวันเดียว หรือนี่เป็นสัญญาณเตือนวิกฤติครั้งใหญ่ และอาจหมายความว่าน้ำแข็งขั้วโลกกำลังละลายเร็วกว่าที่คิดเอาไว้ ที่มา Brand Think
