บรรยากาศออฟฟิศสำคัญไฉน ? พร้อมชวนชม 9 ออฟฟิศสุดเจ๋ง อัปเดตจากทั่วโลก

Writer : pearlkeira

: 1 มีนาคม 2560

office-environment-cover

ออฟฟิศสวยๆ ไม่ได้มีอยู่แค่ในหนัง! มาชมออฟฟิศของบริษัทดังๆ ทั่วโลก ที่พิถีพิถันสร้างสถานที่ทำงานให้เป็นที่รื่นรมย์ใจ เป็นแรงบันดาลใจ กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานได้อีกด้วย

แค่ออฟฟิศ ที่เราไปทำงานแล้วก็กลับ แต่จริงๆ แล้วบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมของสถานที่ทำงานมีผลโดยตรงกับประสิทธิภาพของพนักงาน เพราะวันๆ นึงเราไปทำงานตั้งแต่เช้าจนตกเย็น หรือบางคนก็ทำงานจนค่ำจนดึก นานกว่า 8 ชั่วโมง เห้ย รวมๆ กันแล้วบางช่วงมันอาจมากกว่าเวลาที่เราอยู่บ้าน หรือไปเที่ยวพักผ่อนอีกนะ! นี่จึงเป็นสาเหตุว่า บรรยากาศที่เราพบเจอทุกวันจากที่ทำงาน สำคัญขนาดไหน…

มีงานวิจัยหลายต่อหลายชิ้นที่ชี้ชัดตรงกันว่า บรรยากาศหรือสิ่งแวดล้อมในสถานที่ทำงาน มีผลโดยตรงกับประสิทธิภาพการทำงาน อารมณ์ สมาธิ และความสุขของพนักงาน โดยประกอบไปด้วยหลายปัจจัยด้วยกัน ตัวอย่างแรกจาก งานวิจัยเรื่อง “อิทธิพลของการออกแบบสถานที่ทำงานต่อประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน” (Impact of Office Design on Employees’ Productivity by the Journal of Public Affairs, Administration and Management) ชี้ว่า

บรรยากาศออฟฟิศ สัมพันธ์กับประสิทธิภาพการทำงานอย่างไร

 

แสงไฟ – ปัจจัยหลักที่ส่งผลกับการทำงานโดยตรง

แสงไฟจากหลอดฟลูออเรสเซนต์ที่จ้าเกินไป อาจทำให้เกิดอาการปวดหัวได้ โดยงานวิจัยแนะนำว่า หากมีทั้งแสงไฟกับแสงธรรมชาติด้วย จะช่วยให้บรรยากาศการทำงานเหมาะสมยิ่งขึ้น รวมถึงคนที่นั่งใกล้หน้าต่าง ได้รับแสงสว่างจากธรรมชาติเพียงพอ ก็มีประสิทธิภาพการทำงานที่สูงกว่าอีกด้วย

ตัวอย่างออฟฟิศของ T-Mobile ที่มีทั้งแสงจากหลอดไฟ และแสงจากธรรมชาติช่วยให้ผ่อนคลาย

ตัวอย่างออฟฟิศของ T-Mobile ที่มีทั้งแสงจากหลอดไฟ และแสงจากธรรมชาติช่วยให้ผ่อนคลาย

มีงานวิจัยอีกชิ้นเกี่ยวกับเรื่อง แสงไฟกับประสิทธิภาพการทำงาน ระบุว่าโทนสีต่างๆ มีอิทธิพลแตกต่างกันไป อย่างแสงสีฟ้าช่วยให้พนักงานตื่นตัว เพราะช่วยลดระดับสารเมลาโทนินที่ทำให้เราง่วง ส่วนแสงเย็นๆ เหมาะกับการระดมความคิด (brainstorming) แสงไฟระดับปานกลาง เหมาะกับห้องประชุมที่ต้องการช่วยให้เรามีสมาธิ ส่วนแสงโทนอุ่นๆ เหมาะกับการผ่อนคลาย หรือการสร้างความเชื่อใจกัน ถือเป็นทริคเล็กๆ ที่ช่วยให้เราเลือกแสงสว่างที่เหมาะกับงาน และเพิ่มประสิทธิภาพได้สูงสุด

 

เสียง – ส่งผลกับอารมณ์และสมาธิมากกว่าที่เราคิด

สำหรับเรื่องเสียงแต่ละคนอาจจะมีสไตล์ที่เหมาะกับการทำงานของตัวเองแตกต่างกัน เช่นบางคนชอบให้มีเสียงคลอๆเป็นแบ็คกราวน์ อาจจะเป็นเสียงผู้คน เสียงธรรมชาติ หรือเสียงเพลง ส่วนบางคนอาจจะชอบให้เงียบสนิทปราศจากเสียงรบกวนใดๆเลย วิธีการคือ ถ้าในออฟฟิศเป็นแบบเปิดโล่ง (open-plan) ก็อาจจะต้องมีห้องหรือพื้นที่แยก หากเวลาไหนเราต้องการใช้สมาธิทำงานขั้นสูงสุดแบบเงียบๆ ก็สามารถไปหาโซนสงบให้มีสมาธิได้

ถ้าออฟฟิศเป็นแบบเปิดโล่ง ให้มีห้องกั้นเผื่อไว้สำหรับผู้ต้องการความเงียบและสมาธิ - Saatchi & Saatchi ออฟฟิศ

ถ้าออฟฟิศเป็นแบบเปิดโล่ง ให้มีห้องกั้นเผื่อไว้สำหรับผู้ต้องการความเงียบและสมาธิ – Saatchi & Saatchi ออฟฟิศ

สำหรับงานค้นคว้าเกี่ยวกับ “เสียง” ที่เหมาะกับการทำงาน หรือการเรียนก็มีอยู่หลายแนวทางด้วยกัน เช่น บางคนชอบเสียงธรรมชาติอย่างนกหรือทะเล หรือบางคนชอบเสียงมีอีกประเภทที่เรียกว่า “ไวท์ นอยซ์” (White noise) คือเสียงที่ราบเรียบ และมีจังหวะสม่ำเสมอ ให้จินตนาการเหมือนเราออกเสียง ช แบบ “ฉื่ออออออ” ค้างนานๆ อย่างสม่ำเสมอ ถ้าใครนึกไม่ออก ให้นึกถึงเสียงเวลาที่เปิดทีวีไปช่องที่ไม่มีสัญญาณ แล้วเป็นเสียงซ่าาาาค้างนานๆ โดยงานวิจัยค้นพบว่าเสียงนี้ช่วยเพิ่มความสามารถเกี่ยวกับความจำ และช่วยให้มีสมาธิมากขึ้น ส่วนทางสถาบันการสอนด้านอุตสาหกรรมและวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี (Rensselaer Polytechnic Institute) ระบุว่าพนักงานทำงานได้ดีขึ้นถ้าฟังเสียงประเภท “น้ำ” ซึ่งดีกว่าเสียงไวท์นอยซ์หรือเสียงในออฟฟิศที่เงียบเกินไป

https://www.youtube.com/watch?v=G8Nj8jtEr74

เสียง “white noise” ช่วยเพิ่มความจำ ตัวอย่างของความสัมพันธ์ระหว่างเสียงกับประสิทธิภาพการทำงานที่แต่ละคนอาจจะเหมาะ หรือมีสไตล์แตกต่างกันไป

 

พื้นที่สีเขียวและธรรมชาติ – ช่วยให้เราพักเบรคจากงานที่เคร่งเครียด

“ทัศนียภาพที่สวยงามที่เราเจอในแต่ละวัน มีความสัมพันธ์โดยตรงกับระดับความสุขของเรา” ตรงนี้เป็นเนื้อหาส่วนหนึ่งจากงานวิจัยเกี่ยวกับอิทธิพลของทัศนียภาพกับสุขภาพของเรา และการได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติยังช่วยลดความเครียดได้ด้วย

ต้นไม้ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวในออฟฟิศของ Adidas

ต้นไม้ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวในออฟฟิศของ Adidas

สำหรับการทำงานในเมือง ในตึก อาจมีข้อจำกัดในเรื่องของสถานที่ โดยตรงนี้ไม่ได้หมายความว่าให้เราย้ายออฟฟิศไปอยู่ท่ามกลางป่าเขา หรือติดทะเล (เพราะนั่นคงทำไม่ได้ง่ายๆ) แต่เราสามารถสร้าง “พื้นที่สีเขียว” หรือทัศนียภาพธรรมชาติขึ้นมาในออฟฟิศของเรามันซะเลย ตรงนี้มีประโยชน์หลายอย่างเช่น ต้นไม้หรือดอกไม้ช่วยให้ที่ทำงานสดใสขึ้น การทำงานของสมองดีขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานกว่าสองเท่า เมื่อเทียบกับออฟฟิศแบบดั้งเดิมทั่วไป หรือการมีพื้นที่ที่อากาศถ่ายเทได้ดีให้เราได้สูดอากาศสดชื่น ก็ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานสูงขึ้นถึง 11 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

 

มุมขนมมุมกาแฟ – รสชาติแห่งความสำเร็จเล็กๆ ที่ช่วยเพิ่มความสุขให้เรา

ข้อนี้ชอบมากๆ และอยากจะสนับสนุนให้เราทำให้เกิดขึ้นจริงในที่ทำงานได้ด้วยตัวเอง ก็คือการสร้างพื้นที่เล็กๆน้อยๆ เช่น มุมอาหาร หรือ ขนม ช่วยให้เราผ่อนคลาย และมีความสุขมากขึ้นในที่ทำงาน เราจะสังเกตได้ว่าบางทีทำไมคนเราชอบไปนั่งทำงานที่ร้านกาแฟ หรือกินขนมอร่อยๆ ตามคาเฟ่แล้วทำงานไปด้วย เพราะตรงนี้สามารถช่วยปรับอารมณ์ความสุข ช่วยให้เพลิดเพลินในการทำงานมากขึ้นได้ ท้องอิ่ม อารมณ์ดี งานก็เดิน!

ที่ออฟฟิศของ Instagram มีมุมขนมและเครื่องดื่มครบครันทุกชั้น

ที่สำนักงานใหญ่ของ Instagram มีมุมขนมและเครื่องดื่มครบครันทุกชั้น

ตัวอย่างงานวิจัยอีกเรื่องบอกว่า พนักงานที่อยู่ในบริษัทที่มีขนมและอาหารครบครันตลอด มีมากถึง 66% ที่มีความสุขมาก ถึงมากเป็นอย่างยิ่ง! และการที่พนักงานมีความสุข ก็ส่งผลโดยตรงกับประสิทธิภาพการทำงานที่สูงขึ้นด้วยเช่นกัน

 

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยพื้นฐานอื่นๆ อย่างพวก เก้าอี้ ระดับความสูงของเก้าอี้กับโต๊ะทำงาน ควรให้พอดีกัน ไม่ให้เกิดอาการปวดเมื่อยจากการนั่งนานๆ ระดับจอคอมพิวเตอร์ควรตรงกับระดับสายตา เพื่อป้องกันการปวดคอ อุณหภูมิที่เหมาะสม ไม่ร้อนไม่เย็นจนเกินไป สำหรับคนส่วนใหญ่ ก็ส่งผลเช่นกัน เราต้องหาสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ที่ช่วยให้เราทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และมีความสุขมากที่สุด

 

ชวนชม 9 ออฟฟิศเจ๋งๆ ที่มีอยู่จริงทั่วโลก

เห็นหลายๆ ปัจจัยของการออกแบบสถานที่ทำงานข้างต้นอาจรู้สึกว่าเป็นไปได้ยากที่บริษัทจะทำให้เกิดขึ้นจริง แต่จริงๆแล้วทั่วโลกของเรามีออฟฟิศเจ๋งๆ ที่ให้ความสำคัญกับ บรรยากาศ และสถานที่ทำงาน ให้เป็นเครื่องมือช่วยปลดล็อคประสิทธิภาพการทำงาน และความสุขในระยะยาวของพนักงานก็เกิดขึ้นได้ทุกๆวันในที่ทำงานนี่แหละ!

 

1.Googleplex สำนักงานใหญ่ของกูเกิ้ล – แคลิฟอเนียร์ สหรัฐอเมริกา

หนึ่งในบริษัทที่มีคนทั่วโลกอยากทำงานด้วยมากที่สุด ในสำนักงานใหญ่ของกูเกิ้ล หรือที่มีชื่อเรียกว่า “กูเกิ้ลเพล็กซ์” พนักงานจะได้เอนจอยกับมุมพักผ่อนหลากหลายรูปแบบ มีโต๊ะพูล สนามวอลเลย์บอล มินิกอล์ฟ มีมุมไอเดียบอร์ดไว้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน มีคาเฟ่และมุมอาหารที่ทำให้ทุกคนเข้าถึงได้ภายในระยะไม่เกิน 45 เมตร มีโถงใหญ่และหน้าต่างที่เห็นวิวธรรมชาติด้านนอก พอออกมาด้านนอกก็ใช้จักรยานกันในบริเวณออฟฟิศ ถือเป็นออฟฟิศต้นแบบที่รวมเอาทุกทฤษฎีสร้างความสุขให้พนักงานอย่างแท้จริง เพราะกูเกิ้ลยึดถือแนวคิดที่ว่า “ไม่ใช่เกี่ยวกับแค่แรงปรารถนาที่จะเป็นอันดับ 1 แต่กูเกิ้ลต้องการให้พนักงาน และคนที่จะมาเป็นพนักงานในอนาคตรักและมีความสุขกับบริษัท เพราะนั่นจะเป็นเหตุผลที่ทำให้องค์กรประสบความสำเร็จได้”

 

2.Uber’s Advanced Technology Center ศูนย์เทคโนโลยีขั้นสูงของอูเบอร์ – เพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา

นี่คือศูนย์พัฒนาและวิจัยนวัตกรรมขั้นสูงของอูเบอร์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “เมืองแห่งอนาคต” โดยพนักงานส่วนใหญ่จะเป็นวิศวกร ที่เน้นการคิดค้นเทคโนโลยีอย่างเรื่องระบบความปลอดภัยของยานพาหนะ หรือรถยนต์แบบขับเคลื่อนอัตโนมติ จึงเป็นที่มาว่าทุกๆ พื้นที่ในออฟฟิศต้องช่วยสร้างแรงบันดาลใจและไอเดียใหม่ๆ ตกแต่งในสไตล์สีขาวแห่งอนาคต ตัดกับสไตล์อินดัสเทรียลเพื่อให้ความรู้สึกอบอุ่นและความธรรมชาติ พนักงานสามารถทำงานได้แบบ 360 องศา มี studio space ที่เป็นโซนสำหรับการระดมความคิดพร้อมเซ็ตอุปกรณ์เครื่องมือที่จำเป็นครบครัน

 

3.Adidas Valley Campus ในอาดิดาสสำนักงานใหญ่ – เฮอร์โซเจเนารัค เยอรมนี

อาดิดาสเพิ่งเปิดพื้นที่ทำงานแห่งใหม่สำหรับพนักงาน โดยเป็นส่วนหนึ่งอยู่ในสำนักงานใหญ่ที่เยอรมนีนั่นเอง คอนเซ็ปต์ของอาดิดาส แวลีย์ แคมปัส คือเป็นสไตล์ co-working space & co-creation area แบบเปิดโล่ง ที่ผสมผสานเทคโนโลยีทันสมัยกับธรรมชาติเข้าไว้ด้วยกัน ภายในมีโต๊ะ มีเก้าอี้บีนแบ็ค มีมุมทำงานและห้องประชุมหลายแบบ มีต้นไม้ มีพื้นที่เล่นระดับในโถงเปิดกว้าง แถมมีคาเฟ่น้ำผลไม้สมูธตี้ให้ได้ดื่มกัน

 

4.Saatchi & Saatchi ซาทชิ แอนด์ ซาทชิ – นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา

เอเจนซี่โฆษณาชื่อดัง เน้นการตกแต่งออฟฟิศให้เสริมสร้างความครีเอทีฟสุดๆ ในสไตล์ open-plan แบบเปิดโล่ง สำหรับพื้นที่ที่ไว้ทำงานร่วมกัน และก็มีส่วนที่เป็นห้องประชุม กั้นด้วยกระจกสำหรับกิจกรรมที่ต้องการควบคุมเสียงเงียบได้ และบนผนังเองก็แปะพวกไอเดียโน้ตต่างๆได้เต็มที่ ที่เจ๋งอีกอย่างคือตรงคาเฟ่ส่วนกลางสามารถมองออกไปเห็นวิวแบบพาโนราม่าของแม่น้ำฮัดสัน ให้ได้พักผ่อนสายตาอีกด้วย

 

5.Airbnb HQ สำนักงานใหญ่ของแอร์บีเอ็นบี – แคลิฟอเนียร์ สหรัฐอเมริกา

ในฐานะที่แอร์บีเอ็นบีเป็นแอพพลิเคชั่นสำหรับให้บริการจับคู่ห้องพักกับคนเช่า ที่ออฟฟิศเลยนำไอเดียการตกแต่งมาจากห้องพักสวยๆ ที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้แอพ เช่น เรือบ้านในประเทศนอร์เวย์ ห้องครัวในประเทศไอซ์แลนด์ นอกจากห้องที่ตกแต่งในตีมต่างๆ ไว้สำหรับเป็นห้องประชุมหรือทำงานแยกส่วน ก็ยังมีส่วนกลางเป็นโถงใหญ่ให้นั่งทำงานแบบสบายๆ พร้อมพื้นที่สีเขียวสบายตาบนกำแพง หรือมี breakout space เป็นพื้นที่สำหรับเปลี่ยนบรรยากาศด้วยเช่นกัน

 

6.Instagram HQ สำนักงานใหญ่ของอินสตาแกรม – แคลิฟอเนียร์ สหรัฐอเมริกา

Instagram - Courtesy of Christophe Wu

Instagram – Courtesy of Christophe Wu

ที่ออฟฟิศของอินสตาแกรม ตกแต่งด้วยโทนสีขาวสไตล์ทันสมัย ภายในมีห้องสมุด มีมุมนั่งเล่น มีคาเฟ่ และร้านกาแฟ อีกหนึ่งกิมมิกที่แสดงเอกลักษณ์ขององค์กรได้เป็นอย่างดีคือมีมุม “creation area” หรือมุมสร้างสรรค์ พร้อมพร็อพที่ปรับเคลื่อนย้ายได้ และโทนแสงเช้าตรู่ กลางวัน ตอนเย็น หรือกลางคืนที่ปรับแต่งได้ ไว้ให้ถ่ายรูปในแบบอินสตาแกรมสำหรับทั้งพนักงาน และผู้เข้าเยี่ยมชม ให้ความรู้สึกคล้ายกับเวลาที่เราใช้แอพจริงๆ นั่นเอง

 

7.T-Mobile’s ทีโมบายล์ – วอร์ซอร์ โปแลนด์

บริษัทผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์ยักษ์ใหญ่ของโลกพึ่งเปิดสำนักงานแห่งใหม่เมื่อปี 2016 ที่วอร์ซอร์ ประเทศโปแลนด์ โดยเป็นสไตล์โมเดิร์นที่มีทั้งพื้นที่ส่วนกลาง และห้องปิดที่เหมาะกับความต้องการแบบต่างๆ ทั้งพื้นที่ครีเอทีฟ ห้องสำหรับทำเวิร์คชอปเป็นทีม พื้นที่สำหรับผ่อนคลาย หรือห้องสำหรับคนที่อยากหาพื้นที่เงียบๆไว้ทำงาน และแต่ละส่วนก็ถูกตกแต่งในตีมที่ให้พนักงานได้ไปเปลี่ยนบรรยากาศได้หลายๆแบบ

 

8.Mailman เมลล์แมน – เซี่ยงไฮ้ จีน

หลายคนอาจจะไม่คุ้นชื่อนี้ แต่เมลล์แมนเป็นเอเจนซี่ด้านดิจิตัลและโซเชียลมีเดียรายใหญ่ที่ประจีน โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะเน้นไปทางกีฬาหรือการท่องเที่ยว เช่น สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล นักเทนนิสชื่อดังนอวัก จอคอวิช สายการบินอมริกันแอร์ไลน์ ภายในออฟฟิศจึงตกแต่งจากไอเดียของสองสิ่งนี้เป็นหลัก ให้เป็นแรงบันดาลใจของคนทำงาน มีโซนการทำงานหลากหลายให้พนักงานได้เลือกแบบที่เหมาะกับตัวเอง ทั้งพื้นที่ส่วนกลางแบบเปิด หรือจะเป็นห้องทำงานห้องประชุมย่อยก็มี

 

9.Spotify สปอติฟาย – ลอนดอน อังกฤษ

แอพพลิเคชั่นให้บริการสตรีมมิ่งเพลงเจ้าใหญ่ที่ตกแต่งออฟฟิศด้วยผ้ากำมะหยี่เรียบหรู หนัง และไม้ ให้ความรู้สึกแกรนด์ๆตามอารมณ์ของกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และด้วยความที่เป็นบริษัทเกี่ยวกับเพลง ทั้งพื้นที่ของออฟฟิศจึงต้องมีระแบบเสียงคุณภาพแบบเต็มรูปแบบให้คนทำงานได้ใช้อย่างเต็มที่ ให้เหมาะกับการทำงานด้านเสียงเพลง มีห้องประชุม ห้องระดมความคิด และพื้นที่ส่วนกลางพร้อมเวทีสำหรับให้พนักงานทำกิจกรรมร่วมกัน

 

“บริษัทที่พนักงานมีความสุข จะมีประสิทธิภาพการทำงานสูงขึ้นถึง 33 เปอร์เซ็นต์”

อ่านจบแล้วอาจจะคิดว่า พนักงานตัวเล็กๆ คนหนึ่ง จะสร้างความแตกต่างในองค์กรได้อย่างไร แต่นี่ทำให้เราก็ได้เปิดหูเปิดตาและตื่นตัว เป็นพลังขับเคลื่อนให้คนทำงานยุคใหม่มีคุณภาพชีวิตในที่ทำงานดีขึ้น เห็นออฟฟิศเจ๋งๆจากทั่วโลกกันไปแล้ว ถ้าพูดถึงในประเทศไทยเอง ตัวอย่างเช่น รวม 9 ออฟฟิศสุดเจ๋งในไทย อัปเดต ปี 2017 ที่เราก็เริ่มเห็นหลายๆบริษัทให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อม การดีไซน์ และบรรยากาศในที่ทำงานมากขึ้น

ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่ทำให้เราก้าวสู่เข้าสู่สมดุลระหว่างการทำงานและชีวิต หรือเรียกๆง่ายๆว่า มีความสุขในการทำงานจนรู้สึกเหมือนเป็นบ้านหรือเป็นที่ผ่อนคลายได้พร้อมๆกัน ลดความเครียด แถมยังฟินในออฟฟิศตัวเองกันไปยาวๆ

 

อ้างอิง – Business,getwindfall, theguardian, forbes, lifehack, incomediary, fortune, officelovin

รวม 9 ออฟฟิศสุดเจ๋งในไทย อัปเดต ปี 2017

คุณเป็นชาวอินสตาแกรมสายไหน


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save