ไม่กี่วันก่อนเรามีโอกาสไปดูละครเวทีเล็กๆ แต่เล่นใหญ่ได้อย่างน่าปรบมือชื่อ ‘The Chanchila ภพหน้ายังมาไม่ถึง’ ที่กำกับโดย ‘พี่ฉั่ว ศรชัย ฉัตรวิริยะชัย’ The Chanchila เป็นละครเวทีที่ว่าด้วยเรื่องผู้ชายครึ่งๆ กลางๆ ‘วิชิต’ ที่ตาย และไปอยู่ที่ไหนสักแห่งที่ไม่มีทางให้ไปต่อเพราะทั้งชีวิตความชั่วก็ไม่มี ความดีก็ไม่ปรากฏ เบื้องบนจะส่งไปนรกหรือสวรรค์ก็ไม่ได้ เดือดร้อนถึงเทวดาฝึกหัด ‘เลกาโร่’ ต้องมาช่วยพาเขาไปส่งยังที่ที่ควรจะไปด้วยการให้เขา ค้นหาความหมายของชีวิตในวันที่เขาไม่มีชีวิตอยู่บนโลก เทวดาฝึกหัดอธิบายจุดประสงค์ให้เขารู้ถึงการมาช่วย และบอกทางแก้ด้วยการให้วิชิต พยายามนึกถึงช่วงเวลาที่เขาได้ตัดสินใจทำอะไรสักอย่างด้วยตัวเองในชีวิต ขอแค่ครั้งเดียว ไม่ว่าทำดีหรือชั่ว แล้ววิชิตจะได้รู้ว่าเขาควรไปไหน นรก หรือสวรรค์ แล้วทุกอย่างก็เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ตรงนั้น ในเรื่องเราจะได้เห็นการย้อนอดีตเพื่อให้เห็นภาพของวิชิต ชัดขึ้นผ่านฉากการแสดงต่างๆ และมีตัวละครสมทบมาช่วยเติมเต็มให้เรื่องราวสนุกขึ้น พร้อมกับทำให้คนดูค่อยๆ เห็นภาพของชีวิตวิชิต ที่ชัดเจนขึ้น จนเผลอนึกไปแว้บหนึ่งว่า จริงๆ แล้วช่วงชีวิตหนึ่งเราอาจจะเคยเป็นอย่างวิชิตก็ได้ เพราะตัวละครอย่าง ‘วิชิต’ เป็นการสะท้อนชีวิตของคนส่วนใหญ่ที่มีชีวิตอยู่โดยทำตามคนอื่น เช่นมีแม่คอยแก้ปัญหาชีวิตให้หมด ขนาดที่ว่าเรียนอะไร ทำงานที่ไหน และควรแต่งงานกับใคร ก็ยังต้องรอแม่คอยชี้ขาด ส่วนชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย เหมือนวิชิต จะอิสระมากขึ้นเพราะไม่มีแม่คอยบงการแต่ไม่เลย เขาก็ยังไม่คิดเอง และเฮไปตามเพื่อน เพื่อนว่าอะไรก็ไปตามเหมือนกับเด็กๆ ในรั้วมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ที่คิดถึงอนาคตข้างหน้าไม่ออก แม้จบมาทำงานแล้วเจ้านายให้ทำอะไรก็ทำโดยไม่กล้าตั้งคำถามใดๆ ถึงสิ่งที่เขาทำมันไม่ถูกต้อง แต่เรื่องปากท้องอาจสำคัญกว่าความถูกต้อง เขาจึงต้องทำไปตามหน้าที่ นอกจากนี้เรื่องราวในละครเวทียังแทรกเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ และใส่มุกเพื่อหยิบหยอกสังคมไทยในเรื่องของการเมือง วิถีชีวิตของคนในสังคม และหยิบยกประเด็นเรื่องของปัญหาเหมืองแร่ มาจิกกัดผูกโยงเข้ากับชีวิตวิชิต ถ้าใครที่เข้าใจกับมุก หรือบทสนทนาที่เสียดสีประเด็นดังกล่าวจะยิ่งสนุกไปกับเนื้อเรื่องมากยิ่งขึ้น กระทั่งเรื่องภายในครอบครัวของวิชิต ก็สะท้อนให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่วิชิต โดนสังคมทำให้ชีวิตเขาต้องออกมาในแบบที่เขาไม่ต้องการ หรือลึกๆ เขาอาจจะต้องการก็ได้เพียงแต่เขาไม่รู้ ส่วนเรื่องการแสดงนั้น วันที่เราไปชมคือรอบที่สอง การแสดงอาจจะยังมีลูกสด และลูกกุกกักอยู่บ้าง แต่เป็นเรื่องเล็กน้อยเช่นบทสนทนาผิด ติดขัด เดธแอร์เล็กร้อย แต่ไม่ถึงกับเสียอรรถรส แต่เราเชื่อว่าในรอบการแสดงหลังๆ การแสดงน่าจะเนียนขึ้น สำหรับตัวละครหลักสองตัวที่เป็นตัวดำเนินเรื่องทั้ง วิชิต และเลกาโล่ ถือว่าเล่นได้ดี สองคนนี้แบกเรื่องทั้งเรื่องได้เอาอยู่ และตัวละครสำคัญอีกตัวที่โผล่มาในช่วงจุดเปลี่ยนของเรื่อง ‘ศฐา’ ก็เล่นได้ทรงพลังจนแย่งซีนพระเอกไปได้ในช่วงหนึ่งเลยทีเดียว หรือบทชายเร่ร่อน ที่แสดงโดย ‘ครูทอม คำไทย’ ก็เล่นได้ดี โดยรวมประเด็นของการนำเสนอประเด็นเรื่องการค้นหาความหมายของชีวิต ผ่านตัวละครชื่อวิชิต ในเรื่องนั้นถือว่าทำได้ดี และเป็นละครเวทีแอบเสิร์ดกึ่งดราม่าที่เข้าใจเนื้อเรือง และประเด็นได้ง่าย ไม่ต้องปีนบันไดดูก็พอจะรู้ถึงสิ่งที่ผู้กำกับอยากจะนำเสนอ รวมถึงยังแทรกประเด็นที่น่าสนใจในทุกซีนผ่านบทสนทนาที่เรียบง่าย แต่แอบลึก และชวนเราดึงสติได้ดี หากดูจบแล้วเราตอบคำถามตัวเองได้ว่า ‘เราเกิดมาเพื่ออะไร’ และ ‘มีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร’ แล้วพยายามหาคำตอบให่ชัดเจนอีกสักรอบหนึ่ง นั่นแปลว่า The Chanchila ทำสำเร็จ ‘The Chanchila ภพหน้ายังมาไม่ถึง’ เหลือรอบการแสดงไม่มาก โดยจะเปิดการแสดงในวันที่ 20 – 22 มกราคม 2560 ที่ Syrup the Space อาคารลิเบอร์ตี้ ทองหล่อ รอบการแสดงเวลา 19.30 น. (เสาร์ – อาทิตย์ เพิ่มรอบ 14.30 น.) บัตรสำหรับนักศึกษาราคา 350 บาท บุคคลทั่วไป 450 บาท ดูรายละเอียดอื่นๆ หรือสำรองบัตรได้ที่ Monkey Army Theatre
