หลังจากที่ King Power รางน้ำ มีการรีโนเวทครั้งใหญ่ไปเมื่อต้นปี 2017 ซึ่งวันนี้ทาง King Power ก็ได้เปิดตัวห้างโฉมใหม่เป็นที่เรียบร้อย แน่นอนว่าอลังการสมศักดิ์ศรี King Power เราจะพาทุกท่านไปเดินชม 7 ไฮไลท์ของ King Power Rangnam แห่งนี้กันเลย ชั้นที่ 1 เพิ่มพื้นที่ขายภายในตัวห้างจาก ตกแต่งเรียบหรู พร้อมทั้งวางจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมให้ได้เลือกช้อป 1) สินค้าแบรนด์เนมหลากหลาย ในราคา Duty Free ของขึ้นชื่อสำหรับ King Power ที่คนคิดถึงเป็นอันดับแรกแน่นอนว่าต้องเป็นสินค้าแบรนด์เนมแบบปลอดภาษีหรือ Duty Free นั่นเอง ใครที่เดินทางไปต่างประเทศระหว่างทางเดินไปเกตจะเห็นร้านค้า Duty Free ของ King Power ที่มีสินค้าจากหลากหลายแบรนด์ให้ช้อปกันได้แบบจุใจ หลายๆ คนอาจจะยังไม่ทราบว่าการซื้อของที่ King Power ไม่จำเป็นต้องรอไปแค่ที่สนามบินอีกแล้ว ใครมีไฟลต์บินแล้วก็มาซื้อของได้ก่อนที่ King Power สาขาในเมือง แล้วค่อยไปรับสินค้าที่สนามบินวันที่เดินทางได้เลย วันนี้พามาชมที่ King Power รางน้ำ ซึ่งหลังจากที่เค้ารีโนเวทเรียบร้อย สินค้าแบรนด์เนมก็ขนกันมาแบบจัดเต็มมาก โดยชั้น 1 จะเป็นช้อปแบรนด์สุดหรู ตั้งแต่ Prada, Gucci, YSL, Bottega, Burberry, Valentino และยังมีโซนแว่นตาจากแบรนด์ต่างๆ ให้เลือกช้อปอีกมากมาย 2) ภายในห้างสวยงาม หรูหรา อลังการ จุดเด่นของ King Power รางน้ำ คืออาคารโดมแก้วที่ดูหรูหราสวยงามที่ไม่ว่าคนไทยหรือนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติต้องแวะมาถ่ายรูปลง IG กัน ด้านล่างล้อมรอบด้วยน้ำพุ ตัดกับสีเขียวของหญ้าและดอกไม้บริเวณทางเดิน ด้านในอาคารโดมจะเป็นพื้นที่โปร่ง ไม่มีเพดานกั้นแต่ละชั้น มองขึ้นไปจะเห็นสุดขอบบนของโดมเลย และตรงกลางของโดมจะเป็นพื้นที่กว้างสำหรับจัดอีเวนท์ตามเทศกาลต่างๆ ภายในตัวห้างเองเค้าจัดพื้นที่ของร้านค้าได้ดี แบ่งสินค้าตามโซนดูโล่งเดินสะดวก การที่ร้านค้าส่วนใหญ่ใน King Power เป็นร้านระดับแบรนด์เนม จึงทำตัวห้างเองมีความหรูหรารับกันไปด้วย รวมไปถึงร้านกาแฟชื่อดังอย่าง Starbucks ที่บริเวณชั้น 1 ของโดมแก้ว เค้าก็ทำที่กั้นเป็นกระจกใส มีลวดลายสวยงาม ขอบกระจกเป็นวัสดุไม้ลงเงา ทั่วทั้งบริเวณของร้านสว่างสดใส เหมาะสำหรับนั่งทำงานหรืออ่านหนังสือมากๆ แอบบอกว่า Starbucks ของที่นี่มีแก้วลายพิเศษที่มีขายเฉพาะที่ King Power รางน้ำเท่านั้นด้วยนะ เหมาะสำหรับซื้อไปฝากเพื่อนชาวต่างชาติมากๆ 3) TRAVELLERS’ LOUNGE สำหรับอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวระหว่างช้อป ภายในห้างเค้าก็จะมี TRAVELLERS’ LOUNGE ให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้ใช้บริการกันด้วย มีรถรับ-ส่งจากสนามบินมาถึงด้านหน้าประตูเลยทีเดียว ลองมาดูข้างในกัน แน่นอนว่าทางห้างเค้าไม่อยากให้นักท่องเที่ยวเดินช้อปปิ้งโดยลากกระเป๋าใบเท่าบ้านไปด้วยแน่นอน ที่ TRAVELLERS’ LOUNGE ของห้างก็จะมีที่ฝากของอัตโนมัติ ชาวต่างชาติที่มาเดินซื้อของใน King Power สามารถใช้งานได้ฟรี ในส่วนนี้จะมีสองชั้นครับ หน้าตาไม่ต่างกันมาก มีเก้าอี้โซฟา โซนบาร์ น้ำดื่มฟรี รวมไปถึงปลั๊กไฟและ USB Charger ชั้นที่ 2 นาฬิกา เครื่องประดับแบรนด์เนม, อุปกรณ์กีฬา, น้ำหอม-เครื่องสำอาง และสินค้าไอที 4) เครื่องกีฬาและเสื้อผ้าแบรนด์ดัง วาร์ปมาที่บริเวณชั้น 2 ก็จะมีเสื้อผ้าเครื่องกีฬาแบรนด์ดังหลากหลาย ตั้งแต่ adidas, Nike, fitbit, Garmin, Suunto, Under Armour, onitsuka tiger และอีกมากมาย โซนนี้ส่วนมากเป็นสินค้าที่ไม่ต้องมีไฟลต์บิน ซื้อแล้วเอากลับบ้านได้เลย ป้ายราคาจะเป็นสีฟ้า ถ้าไม่แน่ใจสามารถสอบถามพนักงานก่อนได้ 5) Beauty Club เครื่องสำอาง น้ำหอม สกินแคร์เพียบ! ถัดมาใกล้ๆ กันในโซน Beauty Club ที่เรียกว่าเป็นอีกจุดเด่นของ King Power เลยทีเดียว กับเคาน์เตอร์แบรนด์ต่างๆ ทั้งเครื่องสำอางชื่อดัง แบรนด์น้ำหอมต่างประเทศ และสกินแคร์ มีสินค้าบางรายการที่ไม่ได้มีขายใน Shop เมืองไทยด้วยนะ สามารถมาเดินทดลองตัว Sample กันเพลินๆ ได้เลย สาวๆ ต้องชอบมากแน่นอน ชั้นที่ 3 ของฝากจากประเทศไทย ศูนย์รวมร้านอาหาร และ Street Food ชื่อดัง 6) ของฝากสุดชิคจากประเทศไทย สำหรับใครที่กำลังมองหาของไปฝากเพื่อนที่ต่างประเทศ หรือกำลังจะแนะนำเพื่อนชาวต่างชาติที่กำลังจะซื้อของไปฝากคนที่บ้าน ให้คิดถึงของฝากที่ King Power ก่อนได้เลย เค้าจะมีสารพัดไอเทม ทั้งของใช้ แก้ว หมอน จาน เสื้อยืด เครื่องประดับต่างๆ ที่มีความเป็นไทย รวมไปถึงของกินยอดนิยมที่ชาวต่างชาติชื่นชอบอย่างผลไม้อบแห้ง, ขนมทองม้วน King Pow Roll และอีกมากมาย อยากให้ลองพาเพื่อนชาวต่างชาติมาเดินดูกัน ของที่ชั้น 3 ส่วนใหญ่สามารถซื้อแล้วนำกลับได้เลยไม่ต้องมีไฟลต์บินด้วยนะ 7) Thai Taste Hub รวม Street Food ชื่อดังของเมืองไทย ถ้าพูดถึงของขึ้นชื่อของเมืองไทยนั้น จะมองข้ามความดีงามอย่าง Street Food ไปไม่ได้เลย ที่ชั้น 3 ของ King Power เค้าได้นำร้าน Street Food ชื่อดังของบ้านเราเกือบ 20 ร้าน อันได้แก่ ทิพย์สมัยผัดไทยประตูผี, กุ้งเผาอยุธยา, รองเมืองเกาเหลา, ข้าวขาหมูจุฬา และอีกมากมายถ้าจะพิมพ์ให้หมดมันก็จะยาวเกินไป คือรวมร้านดังจากทั่วกรุงไว้ที่นี่แล้ว ไม่ต้องไปต่อคิวยาว หรือขับรถไปหลายๆ ที่ให้เหนื่อย มาที่นี่ที่เดียวครบ ผมชอบความที่เค้าประดับไฟคล้ายกับทางเดินที่เวลาเราเดินเข้าตรอกซอกซอยตามถนนเยาวราชน่ารักดี สำหรับราคาบอกเลยว่าไม่ได้หวาดเสียวอย่างที่คิดแน่นอน ราคาอาหารเริ่มต้นจานละ 60 บาท น้ำเปล่า 20 บาท ถือว่ามาตรฐานสำหรับร้านในห้าง ข้อมูลเพิ่มเติมเล็กน้อยครับ สำหรับที่ King Power จะมีสินค้าที่เรียกว่า Grab and Go หรือสินค้าป้ายสีฟ้านั่นเอง ไม่จำเป็นต้องมีไฟลต์บินก็สามารถซื้อได้ หยิบจ่ายเงินนำกลับบ้านได้เลย ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับ King Power รางน้ำ เปิดให้บริการทุกวันเวลา 10:00 – 21:00 น. สำหรับสินค้าทั่วไปที่ไม่ใช่ป้ายฟ้า ลูกค้าต้องมีไฟลต์บินมา Register เพื่อซื้อของ และรับของได้ที่สนามบินขาออกในวันเดินทาง King Power รางน้ำอยู่ใกล้ BTS สถานีอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สามารถลง BTS แล้วเดินต่อได้ Fanpage : www.facebook.com/Kingpowerofficial Website : www.kingpower.com