พูดคุยกับ ‘ก๊อก - จัตุพร รักไทยเจริญชีพ’ คนเบื้องหลัง ARAYA

ปัจจุบันนี้นักพัฒนาเกมคนไทยมีฝีมือการสร้างเกมในระดับที่สามารถส่งผลงานไปอวดเกมเมอร์ทั่วโลกได้อย่างเต็มความภาคภูมิ ล่าสุดเกมที่โด่งดังในระดับสากลก็คือ ARAYA  ที่ปล่อยขายได้เพียงสี่วันก็เกิดกระแสในหมู่นักเล่นเกมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้อย่างน่าดีใจแทน

ARAYA เป็นเกมที่พัฒนาโดย MAD Virtual Reality Studio ซึ่งมี ‘ก๊อก – จัตุพร รักไทยเจริญชีพ’ รับหน้าที่เป็น Chief Technology Officer ของเกมนี้ เดิมทีก่อนที่จะเป็น ARAYA เกมนี้ถูกพัฒนามาจากเกมผีไทยของก๊อก ซึ่งเขาทำเป็นธีซิสจบ แต่เกมนี้ไม่ได้จบแค่โปรเจคส่งอาจารย์ เขามองเห็นโอกาสเลยต่อยอดมาเป็น ARAYA โดยเขาคุมโปรเจคนี้ทั้งหมดก่อนจะออกมาเป็นเกมสยองขวัญแบบไทยๆ ที่แฝงกลิ่นอายความหลอนไว้เต็มเปี่ยม

จุดเริ่มต้นของ ARAYA มาจากไหน

จัตุพร  : ก่อนจะเรียนจบ ผมทำเกมผีไทยส่งอาจารย์เป็นธีซิสจบ ชื่อ ‘THE HOSPITAL HAUNTED BE LOST’ ตอนนั้นเรามีเกมที่เป็นตัวเดโม่สามารถเล่นได้จริง ก็มีคนโหลดไปทดลองเล่น มีนักแคสเกมหลายคนลองเล่นแล้วกระแสตอบรับออกมาดีมาก ผมมองเห็นโอกาสที่จะไปได้อีก จึงพัฒนาเกมมาเป็น ARAYA ตอนที่ปล่อยเดโม่ ออกไปบนสตรีมปรากฏว่าผลตอบรับดี เมื่อเกมเสร็จแล้ว และวางขายไปเมื่อ 24 พฤศจิกายน ก็ผลตอบรับดีมากทั้งในหมู่ผู้เล่นไทยและคนเล่นต่างประเทศ

ในแง่ของคำวิจารณ์คนเล่นส่วนใหญ่พูดในเชิงไหน

จัตุพร  : การตอบรับของเกมเมอร์เมืองไทยกับเกมเมอร์ต่างประเทศถือว่าเป็นไปในทิศทางที่ดี ทุกคนชอบเกมนี้ ในส่วนของคำวิจาณณ์ก็มีทั้งติ และชม ซึ่งเราอ่านกระแสคอมคอมเมนต์ของผู้เล่นทุกคนทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ เจอคำวิจารณ์ก็ยอมรับว่าเครียดนะ (หัวเราะ) แต่เราก็อ่านหมด เพราะคำวิจารณ์ที่ผู้เล่นติมาไม่ใช่ว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดี หลายคำวิจารณ์ดีมากๆ เรารับมา และเอาไปปรับปรุงแก้ไขได้บางส่วนที่เขาวิจารณ์มาว่าสิ่งนี้ควรปรับปรุงเราก็ประชุมกันแล้วพัฒนาให้ดีขึ้นถ้าทำได้จะเร่งแก้ไขทันที

นักแคสเกมต่างประเทศวิจารณ์ ARAYA ว่าอย่างไร

จัตุพร  : นักเคสเกมต่างประเทศจะบอกไปในทิศทางเดียวกันว่าเราเป็นเกม Horror ที่ดีเกมหนึ่งแม้อาจจะไม่ดีที่สุด แต่เขาหลอนกับสิ่งที่เกมสามารถให้ได้ เขาหลอนกับบรรยากาศของเกม มันกดดัน มันดูน่ากลัว จังหวะ Jump Scare ถือว่าทำได้ดี ไม่โผล่มาเยอะจนเอียน ในจังหวะที่ผู้เล่นเริ่มผ่อนคลายผีก็จะโผล่มา มีลูกล่อลูกชนในจังหวะ jump scare

ผู้เล่นชาวต่างชาติเข้าใจบริบทของความเชื่อเรื่องผีแบบไทยๆ ที่แฝงในเกมไหม

จัตุพร  : ตอนที่สร้างเกม ARAYA ความที่เป็นเกมไทย เรานึกถึงผู้เล่นที่เป็นคนไทยก่อนอยู่แล้วในแง่ของเนื้อเรื่องและความรู้สึกที่ Inside แต่ก็ไม่ลืมนึกถึงผู้เล่นชาวต่างชาติด้วย ดังนั้นมุขหรือจังหวะต่างๆ ในเกมเราจึงต้องปรึกษากับคนในทีมเพื่อให้มั่นใจว่าเกมจะสนุก ไม่จืดสำหรับชาวต่างชาติที่อาจไม่เข้าใจวัฒนธรรมผีแบบไทยๆ จากที่เก็บข้อมูลที่ทราบมาเนื้อเรื่องไม่มีผลกับความสนใจของคนเล่น หรือการไม่เข้าใจเนื้อเรื่องไม่เข้าใจวัฒนธรรมไทยสิ่งนี้ไม่มีผลเท่าไหร่ เนื่องจากผู้เล่นชาวต่างชาติที่ไม่ใช่ชาวเอเชียเขาไม่ได้เสพเนื้อเรื่องสักเท่าไหร่ เขาอ่านข้อมูลในเกมแต่ไม่อ่านทั้งหมด เขาเล่นเพื่อไปให้ถึงจุดจบของเกมให้ได้

ซึ่งเนื้อเรื่องคุณจะเน้นน้ำหนักไปในในทางผีไทย ไม่ได้พยายามสร้างให้เนื้อเรื่องมีความสากลจนกลบกลิ่นอายเป็นสยองแบบไทยๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของเกม

จัตุพร  : ใช่ ในส่วนของเนื้อเรื่องผมเน้นการเขียนเรื่องให้ตรงกลุ่มคนเอเชียเข้าใจมากกว่า แต่หากเล่นไปเรื่อยๆ บางฉากบางสถานการณ์ก็จะไม่ได้มีกลิ่นอายความน่ากลัวแบบไทยๆ แต่จะมีความน่ากลัวในแบบสากลซึ่งผู้เล่นจะเพลินไปกับสิ่งนั้นจนไม่ได้มาใส่ใจว่านี่คือผีสัญชาติไหน แต่ถ้าเป็นคนเล่นที่เป็นคนไทยจะอินเป็นพิเศษเพราะนอกจากผีแล้ว เราก็พยายามใส่ความเป็นไทยจ๋าๆ ที่เห็นวัฒนธรรมป็อบของไทยยุคนี้เข้าไปในเกมด้วยเช่นการพ่นสีบนผนังกำแพง ถ้อยคำเกรียนๆ เถื่อนๆ บนกำแพง สติกเกอร์แบบไทยๆ เราตั้งใจให้คนไทยได้เห็นว่าสิ่งนี้มันเป็นของเรา คนต่างชาติอาจจะงงแต่คนไทยเห็นสิ่งเหล่านี้ก็จะอิน

แต่ก็มีผู้เล่นที่เป็นคนไทยบอกว่าเกมของคุณมันเรียบไป เดินเรื่องเป็นเส้นตรงอารมณ์เหมือนเล่นบ้านผีสิง

จัตุพร  : เกมนี้ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยจุดประสงค์คืออยากจะสร้างเกมที่เล่นง่าย ใครก็เล่นได้แต่สนุก ระดับที่ว่าคนที่ไม่มีทักษะทางการเล่นเกมเลยก็สามารถเล่นได้ไม่ต้องใช้ทักษะในการเล่นเกมระดับเทพ คำวิจารณ์ที่มีผู้เล่นบอกว่าเราดำเนินเรื่องเป็นเส้นตรง ไม่มีความซับซ้อน นั่นคือความตั้งใจ เราอยากให้ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในเกมก็ไม่ต่างอะไรกับคุณเดินเข้าบ้านผีสิงไปตามจุดต่างๆ เดินเรื่องตามเกมที่วางไว้จนจบ เราไม่ได้อยากให้เกมยากเกินไประดับที่ว่าเล่นแป๊บเดียวก็เบื่อ แต่เราอยากให้เขาเสพบรรยกาศความกดดัน และหลอนในเกมเหมือนดูหนังผีสักเรื่อง แต่ความกดดันที่ได้รับจะมีแค่ 10 – 15 นาทีเท่านั้นก็จบ ซึ่งก็สอดคล้องกับตัวเกมที่แบ่งออกมาเป็นสิบตอน เฉลี่ยต่อตอนเล่นประมาณ 10 – 15 นาทีก็จบ ความที่เราแบ่งเกมออกเป็นสิบตอนก็เพื่อที่จะให้ผู้เล่นไม่เบื่อ จริงๆ เราอยากให้เขาเล่นวันละตอนด้วยซ้ำเพื่อที่จะได้เสพบรรยากาศความหลอนของแต่ละตอนได้ครบ แต่ถ้าเล่นต่อเนื่องก็สี่ชั่วโมงจบ

เท่าที่ทราบถือว่า ARAYA กระแสดีมากในฐานะนักพัฒนาเกมคุณคิดว่าเพราะอะไร

จัตุพร  : เราคิดว่าสาเหตุที่เกมนี้ได้รับความนิยมอาจจะเป็นเพราะนี่เป็นเกมแนวผี ซึ่งผู้เล่นอาจจะรู้สึกเหมือนกำลังดูหนังผี เชื่อว่าหลายคนชอบหนังผีแต่บางคนไม่กล้าไปดูในโรง บางคนอาศัยฟังเรื่องเล่าก็บันเทิงได้ พอมาเป็นเกมเลยเกิดความสนุกในระดับที่คล้ายกับดูหนังผี หรือฟังเรื่องผี อีกทั้งความที่ ARAYA เป็นเกม VR แนว Horror เกมแรกของไทยก็เลยอาจจะยิ่งน่าสนใจ

เห็นคนพูดถึง ARAYA ในแง่ไหนอีกบ้างไหม

จัตุพร  : เราเห็นการต่อยอดคาแรคเตอร์ในเกมไปเป็นการ์ตูน เช่นแฟนอาร์ตอารยากับมาริสา เป็นคู่จิ้นกัน (หัวเราะ) หรือวาดแฟนอาร์ตมาริสา 400cc แต่เหล่านี้คือแผนที่เราวางไว้ว่าน่าจะเกิดขึ้นหลังเกมถูกปล่อยซึ่งเราดีใจมากที่มันเกิดกระแสอย่างที่เราต้องการด้วย

มาริสา 400cc นี่ตั้งใจไหม

จัตุพร  : เราตั้งใจ (หัวเราะ) ตอนที่ออกแบบตัวละคร เราตั้งใจจะขายตัวละครด้วยว่าจะทำยังไงให้คนไทยรู้สึกได้เลยว่าตัวละครตัวนี้คือคนไทย สังเกตการแต่งตัวของมาริสา จะมีความสก๊อยมาก (หัวเราะ) เสื้อกล้ามโชว์หน้าอกขนาดใหญ่ กางเกงขาสั้น แต่เขาไม่ใช่สก๊อยนะ เรามีภาพของมาริสา เป็นเหมือนเน็ตไอดอลมากกว่าโดยการแต่งตัวก็จะพยายามสื่อออกมาอย่างนั้น

(ตัวอย่างแฟนอาร์ต #อารยามาริสา ช่างน่ารักและโอเอะสุด)

อนาคตของ ARAYA จะพัฒนาอะไรไปต่อ

จัตุพร  : ตอนนี้สิ่งที่พวกเราทำเร่งด่วนคือรับฟังปัญหาแล้วแก้ไขบั๊คที่เกิดขึ้นในเกม และเสริมเนื้อเรื่องเข้าไปในจุดที่เราทิ้งเนื้อเรื่องไว้เพื่อให้ผู้เล่นได้สนุกกับความใหม่ของเนื้อเรื่องเสริมภายในเกมอยู่ตลอดเวลา ส่วนอนาคตเราอาจจะมีแผนทำเกมนี้ไปขายในเครื่อง PlayStation ด้วยอย่างไรก็ฝากติดตามต่อไปนะครับ

นับว่า ARAYA คืออีกปรากฎการณ์หนึ่งของวงการเกมไทย หลังจากนี้จะมีอะไรอีกบ้างที่จะได้เห็นการเติบโตของ ARAYA ก็คงต้องจับตามองพัฒนาการของเกมนี้กันต่อไป