เป็นประเด็นที่ถกเถียงหาข้อสรุปกันมาอย่างยาวนาน ในเรื่องของการเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายทั้ง 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนเหนือ ช่วงหมอชิต-คูคต และส่วนใต้ ช่วงสำโรง-เคหะ หลังจากเปิดให้นั่งฟรีมานานกว่าหลายปี เบื้องต้นสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กทม. ได้จัดทำตารางค่าโดยสารเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยใช้สูตร 14+2x (x = จำนวนสถานีจากจุดเริ่มต้นถึงปลายทาง) ซึ่งเป็นค่าโดยสารส่วนต่อขยาย และจะเริ่มเก็บอัตรา 14-44 บาท เมื่อรวมกับค่าโดยสารในเส้นทางสัมปทานหลักตรงกลาง จะเก็บอัตราสูงสุดไม่เกิน 59 บาท ทั้งนี้เป็นการจัดเก็บตามหลักการสากลที่ถูกต้องและเป็นธรรม โดยเก็บจากระยะทางที่ใช้บริการนั่งไกลจ่ายมาก นั่งสั้นจ่ายน้อย เพราะปัจจุบันการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ก็ใช้หลักการนี้ด้วยเช่นกัน โดยสาเหตุในการเก็บค่าโดยสารเพิ่มเติมก็เพื่อแบ่งเบาภาระหนี้สินค่าจ้างเดินรถที่ต้องจ่ายให้กับบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ ทางด้านผู้ว่าฯ กทม. เผยว่า “ในช่วงส่วนต่อขยาย มีคนนั่งอยู่ประมาณร้อยละ 27 ที่นั่งไป-กลับ โดยไม่ได้เสียเงิน แต่กทม.ยังต้องจ่ายค่าเดินรถอยู่ 3,000 ล้านบาท ซึ่งผู้โดยสารนั่งฟรี แต่ กทม.ไม่ฟรีนะ… เพราะเราจ้างเอกชนเดินรถ ดังนั้นจะต้องไปดูว่าจะเก็บเท่าไหร่ เก็บอย่างไร เพื่อไม่ให้เป็นภาระ และต้องยุติธรรมกับคนอื่น ๆ ด้วย เพราะวินมอเตอร์ไซค์ที่วิ่งอยู่ข้างล่างของช่วงส่วนต่อขยายเจ๊งหมด เนื่องจากคนไปขึ้นรถไฟฟ้าฟรีข้างบนแทน” โดยหลังจากนี้กทม.เตรียมนัดเจรจากับ บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด หรือ บีทีเอสซี ในการยกเว้นค่าแรกเข้าระบบเส้นทางหลักที่เรียกเก็บเพิ่ม 16 บาท ว่าจะสามารถทำได้หรือไม่ หากทางบริษัทฯ ไม่ยินยอม กทม.จะต้องอุดหนุนงบประมาณในส่วนค่าแรกเข้าแทนผู้ใช้บริการ หากได้ข้อสรุปจะเสนอเข้าที่ประชุม สภา กทม. เพื่อขอความเห็นชอบ จากนั้น กทม.จะออกประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่องกำหนดค่าโดยสารโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว เพื่อแจ้งให้ประชาชนทราบล่วงหน้า คาดว่าภายในกลางเดือน ก.ย. นี้ ที่มา : thansettakij