การจีบกัน เป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนต้องเคยทำ แล้วในอดีตจนถึงปัจจุบันการจีบมีวิวัฒนาการอย่างไร เราจะมาย้อนดูกันว่าแต่ละยุคสมัยเขาจีบกันผ่านตัวกลางด้วยวิธีไหนกันบ้าง แม้บางอย่างจะนานไปหน่อยเราเชื่อว่าทุกวิธีอ่านแล้วก็ยังนึกถึง และรู้สึก #ประทับใจเหมือนเดิม ยุคจดหมาย ไปรษณีย์ไทยมีมาแล้ว 100 ปี แต่ไม่ต้องย้อนไปไกลขนาดนั้น เริ่มที่ 25 – 30 ปีก่อน เราจีบกันด้วยการส่งจดหมายลุ้นๆ บางคนอยู่ห่างกันเช่นกรุงเทพฯ – เชียงใหม่ ระยะเวลาการเดินทางของความคิดถึงโดยใช้จดหมายเป็นตัวกลางอยู่ที่ 5 – 7 วัน (ประสบการณ์ตรงคนับ) ถ้าจะติดต่อกันก็ต้องอดทน เสน่ห์ของการส่งจดหมายก็คือผู้รับจะไม่มีทางรู้ว่าจดหมายจะมาถึงเราตอนไหน คนส่งเองก็ไม่รู้เช่นกันว่าจดหมายไปถึงคนรับไหม จนกว่าจะได้รับจดหมายตอบกลับจากอีกฝ่าย แต่ข้อควรระวังคือ อย่างส่งจดหมายผิดซอง เนื้อในจดหมายเขียนถึงอีกคนหนึ่ง แต่ดันส่งไปให้อีกคนงานงอกนะ เคลียร์ยากเลยนะ ยุคโทรศัพท์หยอดเหรียญโทรเข้าเบอร์บ้าน ถัดจากยุคจดหมายเราก็ไม่ต้องอดทนรอหลายวันเพื่อจะบอกคิดถึงกัน แค่โทรเข้าโทรศัพท์บ้านก็จบ แม้เราจะไม่มีโทรศัพท์บ้านแต่ถ้าเป้าหมายที่เล็งไว้มี ก็แค่ไปที่ตู้โทรศัพท์ที่ใกล้ที่สุด แลกเหรียญบาทรอไว้แล้วโทรไปเลย ความคลาสสิคของการจีบกันด้วยวิธีนี้คือการ ‘นัดเวลา’ เพราะโทรศัพท์บ้านดังทีนึงลั่นบ้าน คนรอต้องรีบวิ่งไปรับให้ไวกว่า ‘ยูเซน โบลต์’ คนโทรก็ต้องลุ้นว่าเธอจะมารับไหม บางทีผิดแผนคนรับสายดันเป็นพ่อ ถ้าใจไม่กล้าพอจะกดวาง แล้วไม่รู้จะโทรกลับดีไหม แต่ถ้ามีสกิลหน่อยก็จะเนียนว่า “ขอสายลลิตา หน่อยครับจะโทรมาถามเรื่องโครงงานส่งอาจารย์…” จีเนียส! ยุคส่งข้อความทางเพจเจอร์ เพจเจอร์ คืออุปกรณ์การสื่อสารที่เอาไว้ส่งข้อความหากัน (เด็กยุคนี้อาจจะงงว่านี่นวัตกรรมแล้วเหรอ สำหรับยุคก่อนนี่คือโคตรนวัตกรรมมากๆ) แล้วไม่ใช่ว่าจะส่งได้เลย ต้องโทรไป Call Center เพื่อส่งข้อความไปถึงเพจเจอร์ของคนที่เราจีบ ความฮาคือ Call Center (ที่ต้องทนฟังข้อความเลี่ยนๆ ทุกวัน) ก็จะอ่านทวนข้อความว่า “ข้อความที่ส่งถึงหมายเลข 798478 คือ ‘คิดถึงมากๆ เลย จุ๊บๆ จุ๊บๆ’ ใช่ไหมคะ” ตอนนั้นไม่เขินแต่มานึกย้อนกลับไป ทำไมเรากล้าบอกข้อความเลี่ยนๆ กับคนที่ไม่รู้จักด้วยวะ จริงๆ แล้วเพจเจอร์ ยุคแรกไม่สามารถแสดงข้อความได้ แต่จะฝากข้อความเป็นตัวเลข ซึ่งเราก็ต้องโทรไปหา Call Center เพื่อขอฟังข้อความที่ฝากไว้โดยบอกตัวเลขนั้นไป (ยุ่งยากใช่ไหม แต่เมื่อก่อนนี้ถือว่าเทพมากแล้ว) ยุคโทรศัพท์มือถือ โทรศัพท์ 2G เข้ามาปุ๊บยุคเพจเจอร์ก็ล่มสลายทันทีเพราะโทรศัพท์สามารถส่ง sms ได้แล้ว แต่ความดีงามของโทรศัพท์มือถือคือจากนี้ไปเราคิดถึงใครก็โทรหาได้เลยในราคานาทีละ 5 บาท (ความคิดถึงก็มีราคานะ แพงด้วยนาทีละ 5 บาทแน่ะ) หรือจะส่ง sms หากันก็ครั้งละ 3 บาท แต่หลัง 4 ทุ่มจะราคาถูกลง ดังนั้นก็ต้องรอเวลาที่จะโทรหากันอยู่ดีถ้างบน้อย แต่ยุคก่อนมือถือราคาแพงมาก Nokia จอขาวดำ เสียงเรียกเข้า Mono Tone ความบันเทิงแค่อย่างเดียวคือเกมงู แต่ราคาเท่า iPhone จึงใช่ว่าจะมีมือถือทุกคน (อย่างเก่งก็มี PCT อ่ะ) เลยมีธุรกิจใหม่เกิดขึ้นคือให้เช่ามือถือโทรทั่วไทยนาทีละ 3 บาท กางโต๊ะไม้หนึ่งตัวก็ทำธุรกิจโทรคมนาคมได้แล้ว (คือให้เช่าโทรศัพท์มือถือนั่นแหละ) ยุค MSN MSN คือยุคเรเนซองค์ของการจีบกันทางออนไลน์ โดยเฉพาะการจีบคนที่เราอาจไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน แต่ไปได้เมลมาจากเว็บบอร์ดแล้วก็แอดไปคุยกัน หรือเล่น Ragnarok แล้วเจอกัน ความคลาสสิคของการเล่น MSN คือรอดูว่าคนที่เราจีบนั้นตั้งสถานะ available อยู่หรือเปล่าแล้วค่อยทักไปอย่างไว แต่แม้จะเป็นการแชทออนไลน์ อย่างไรก็ตามต้องมีการนัดแนะกันอยู่ดีว่าจะออนเอ็มฯ กี่โมงจะได้ไปรอถูกเวลา บางคนไม่ได้มีคอมพิวเตอร์ที่บ้าน เลยต้องไปร้านเน็ตคาเฟ่ (ยุคนั้นเน็ตคาเฟ่เฟืองฟูมากๆ ด้วย) เพื่อจะคุยเอ็มกับคนที่จีบ ถ้าถึงเวลานัดแล้วเขาไม่ออนก็จะแอบนอยด์นิดๆ ยุคส่ง e-mail MSN อาจจะเป็นแค่การพูดคุยกันที่โต้ตอบได้แบบเรียลไทม์ ทว่าอาจไม่ละเมียดละมัย สักเท่าไหร่ แต่การส่งอีเมล์ ก็เป็นทางเลือกที่คนยุคก่อน (เหมือนจะนานจริงๆ มันก็แค่ 10 กว่าปีเอง) ใช้พิมพ์ข้อความส่งหากันยาวๆ ด้วย hotmail.com (เล่น MSN ต้องใช้ Hotmail นะจ๊ะ) อารมณ์เหมือนเขียนจดหมายหากัน แต่ส่งถึงไวกว่า ความคลาสสิคของการส่งอีเมลคือคนรับเมลกว่าจะได้เห็นก็ต้องเปิดอีเมลเพื่อเช็คกล่องข้อความ หากเห็นชื่ออีเมลของคนส่งที่คุ้นเคยเช่น inwSamZaaa@hotmail.com ใน inbox คนรับก็จะหัวใจพองโต รีบอ่านแล้วตอบกลับมา ยุค Hi5 Hi5 คือโซลเชียลมีเดียยุคแรกสุดที่เผยแพร่อารยะธรรมเข้าสู่ประเทศไทยเมื่อปี 2549 และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการจีบกันโดยไม่ต้องมาลุ้นว่าคนที่จีบหน้าตาแบบไหน (แต่ก็ต้องใช้อีเมลแอดเพื่อนก่อนอยู่ดีนะ) เพราะโลกเข้าสู่ยุค ‘ส่อง’ ชีวิตอย่างเป็นทางการผ่าน Hi5 แล้ว ความคลาสสิคของ Hi5 คือเราเข้าไปตามติดชีวิตคนที่เราแอบชอบได้ (ก็เหมือนเฟสบุ๊คตอนนี้แหละ) รู้ได้ว่าเขามีแฟน มีคนที่คุย มีคนจีบหรือยังก็สืบเอาจาก Hi5 นี่แหละ ถ้าทางสะดวก เห็นแล้วว่าโอกาสโสดมีสูงเว้ยก็ลุยยย อย่างไรก็ตาม Hi5 ก็ยังต้องเล่นที่หน้าคอมอยู่ดี เพราะวิถีสมาร์ทโฟนยังไม่เกิด ดังนั้นถ้าคิดถึงใครมากๆ ต้องไปเปิดคอมพ์เพื่อเข้าไปส่อง Hi5 สลับกับเปิด MSN เพื่อดูว่าเป้าหมายออนไลน์ช่องทางไหนสักทางหรือเปล่า กว่าจะได้คุยก็ลุ้นเหมือนกัน ยุค facebook facebook มาในยุคที่การสื่อสารติดตัวเราตลอด 24 ชั่วโมงอย่างแท้จริงไม่ต้องโทรหากันก็สามารถคุยกันได้ตลอดเวลา บางคนได้เจอคนที่เคยชอบผ่านทางเฟสบุ๊คโดยบังเอิญ นาทีนี้ความกล้าอยู่แค่ปลายนิ้ว จะกดแอดเฟรนด์ไปดีไหม หรือจะส่องก่อนว่า in a relationship with ใครหรือเปล่า ทันทีที่เขารับแอดเฟส นั่นหมายถึงคุณได้รับการอนุญาตให้ส่องชีวิตของกัน และกันอย่างเป็นทางการ ความเจ๋งของเฟสบุ๊คก็คือหลังจากนี้ไปเราไม่ต้องเฝ้ารออะไรอีกแล้ว การรอคอยมันสิ้นสุดลงตรงนี้ อาจจะทักไปคุย อยากจะ Video Call ไปถามไถ่ อยากจะแชร์อะไรให้ดูหรือฟังทุกอย่างเริ่มต้นได้ที่ปลายนิ้วเท่านั้น (และก็อาจจะจบลงที่ปลายนิ้วนั่นแหละ) ความโรแมนติกเลยหายไปเยอะ ทุกวิธีการจีบคือ #ความประทับใจเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน หากสังเกตดูเราจะเห็นว่าทุกการสื่อสารของมนุษย์นั้นมีเสน่ห์ไม่ว่าจะช้าแบบข้ามวัน หรือรวดเร็วแบบวินาทีต่อวินาที ทุกวิธีล้วนมีเสน่ห์ทั้งนั้น ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน เสน่ห์เหล่านั้นยังมี #ประทับใจเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน บางคนที่อาจทันแค่บางยุคสมัย ก็ลองไปซึบซับความน่ารัก และความรู้สึกที่ #ประทับใจเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ของการจีบกันได้ในคลิปนี้ ดูแล้วคุณจะอมยิ้ม…และอาจจะมีน้ำตารินเมื่อนึกถึงอดีต หรือใครคนนั้น ง่อออออว์ จบซึ้งเว้ย