category วิธีรับมือแบบไม่ขวัญผวา เมื่อน้องงูจ๋ามาเยี่ยมบ้าน


: 14 มกราคม 2563

น้องงูดูจะเป็นเพื่อนบ้านที่ไม่ค่อยมีใครอยากจะเจอซักเท่าไหร่ ด้วยรูปร่างหน้าตาของน้องบวกกับลักษณะนี้นิสัยที่น่าจะสนิทด้วยยาก ถ้าเกิดโดนกัดขึ้นมา อาการถูกกัดก็รุนแรงกว่าสัตว์ชนิดอื่นๆ ทำให้ทุกครั้งที่น้องโผล่เข้ามาเยี่ยมบ้านในฐานะแขกที่ไม่ได้รับเชิญ หรือไปเจอกันที่ไหนหลายคนก็อาจจะตกใจขวัญผวากันได้ง่ายๆ 

เนื่องจากประเทศไทยเราเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ จึงมีความหลากหลายของชนิดงูค่อนข้างมาก ปัจจุบันพบอยู่ประมาณ 200 กว่าสายพันธุ์เลยนะ แบ่งเป็นประเภทของงูได้คร่าวๆ คือที่อาศัยอยู่ในป่าและงูที่อาศัยอยู่ในเมืองได้  ซึ่งงูที่อาศัยอยู่ในเมืองได้ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นสายพันธุ์ที่เราคุ้นชื่อกันอยู่แล้ว ทั้งงูชนิดมีพิษ อย่าง งูจงอาง, งูเห่าไทย, งูเขียวหางไหม้ หรืองูชนิดไม่มีพิษ เช่น งูเหลือม, งูเขียวพระอินทร์, งูสิง, งูปี่แก้ว และงูลายสอ

ถ้าถามว่าน้องงูในเมืองมีจำนวนประชากรเยอะขนาดไหน ก็สามารถคาดคะเนด้วยตัวอย่างจากสถิติของสายด่วย 199 เมื่อปี 2561 ที่บอกว่าเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งให้ไปจับงูอยู่ที่ประมาณ 3,000 -4,000 ครั้งต่อเดือน หรือเฉลี่ยกว่า 100 ครั้งต่อวัน!

โดยลักษณะที่อยู่อาศัยของงูในเมืองที่ป็อปปูล่าที่สุด น้องมักจะเลือกอยู่อาศัย ตามโพรง ตามหลืบ รอยแตกใต้อาคาร ท่อระบายน้ำหรือใกล้แหล่งชุมชน เนื่องจากมีอาหารให้ล่า แต่ก็ต้องปลอดภัยจากการรบกวนของมนุษย์ด้วย เนื่องจากนิสัยปกติของงูจะชอบนอนอยู่ในที่ที่สงบ 

จากข้อมูลตรงนี้ ก็พอจะทำใจได้ว่า น้องงูเป็นสัตว์ที่อยู่ใกล้ชิดกับเรามากกว่าที่คิดและเรามีโอกาสที่จะเจอน้องมาเยี่ยมได้ไม่ยาก วันนี้ Mangozero เลยขอรวบรวมวิธีรับมือกับน้องงูเบื้องต้นมาให้เผื่อบังเอิญเจอกันครั้งไหน จะได้ไม่ใจสั่น ขวัญผวากันไป

เรื่องเข้าใจผิดสุดฮิตเกี่ยวกับงู

  • ใช้ปากดูดพิษออกได้แบบพระเอกเท่ๆ

จากภาพจำของน้องงูในสื่อตั้งแต่เด็กจนโต เวลาเห็นฉากนางเอกโดนงูฉก พระเอกจะต้องออกมาช่วยได้ทัน ด้วยการดูดรีดพิษออกมาจากแผลงูกัด แต่ความจริงในทางการแพทย์แล้ว ยังไม่มีข้อมูลที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าได้ประโยชน์จริง การดูดพิษงูด้วยปากอาจทําให้ได้รับพิษเข้าร่างกายได้ นอกจากนี้ปากของเรายังมีเชื้อโรคมากมาย การดูดแผลก็อาจจะทําให้มีเชื้อโรคที่แผลและมีโอกาสติดเชื้อมากขึ้น

  • โดนงูกัดให้รัดเหนือแผล 

 

อีกฉากก่อนที่พระเอกจะดูดพิษงูออกให้ ก็เห็นจะเป็นฉีกเสื้ออกมารัดเหนือแผลถูกงูกัด เพื่อไม่ให้พิษงูกระจายไปไหน แต่ในความจริงแล้วการรัดผ้าไว้เหนือแผล ไม่ได้เป็นการป้องกันพิษเข้าสู่ร่างกายแต่อย่างใด ที่สำคัญคุณหมอบอกว่าอาจทำให้เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงอวัยวะส่วนด้านล่างที่ทำการรัดไว้ได้ เพราะฉะนั้นแล้วการรัดเหนือแผลจึงไม่ได้ช่วยอะไร

  • งูกลัวมะนาว

ตามความเชื่อโบราณที่เล่าต่อกันมา ว่าหากต้องเดินเข้าป่า ให้พกมะนาวไว้ หรือโรยมะนาวรอบที่พัก จะช่วยให้งูไม่เข้าใกล้นั้น เป็นเพียงความเชื่อเพื่มเสริมกำลังใจสำหรับคนสมัยก่อน ความจริงแล้วงูไม่ได้มีปฏิกิริยาต่อมะนาวเมื่อเจอแต่อย่างใต

  • ตีหวย งวดนี้มาแน่

ความเชื่ออีกเรื่องจากรุ่นปู่ย่าตายายส่งทอดกันมา ก็คือ การที่งูแวะเข้ามาบ้านนั้นถือว่านำโชคลาภมาให้ บ้างก็นำมาตีเลขเด็ดกัน ในจุดนี้ยังไม่มีการพิสูจน์ได้ชัดเจน ว่าช่วยให้ถูกหวยได้จริงหรือไม่ อาจขึ้นอยู่กับโชคดวงของแต่ละคน

เมื่อเจองูในบ้าน ต้องทำอย่างไร

  • รักษาระยะห่าง ยืนหลบไกลๆ

โดยธรรมชาติแล้วงู นิสัยของงูจะไม่ได้ไล่ตามคน แต่เลือกที่จะเลื้อยไปหลบอยู่ในที่ปลอดภัยมากกว่า ส่วนใหญ่ที่งูโจมตีจะเป็นในกรณีที่มีอะไรแหย่มัน ให้ต้องป้องกันตัว ฉะนั้นพยายามยืนหลบออกมาไกลๆ รักษาระยะให้ห่างจากงู โดยระยะพุ่งโจมตีของงูส่วนใหญ่ จะยาวประมาณครึ่งหนึ่งของตัวงู เราควรอยู่ให้ไกลกว่านั้น

  • อย่าให้งูหนีไปไหน

ถ้าบริเวณที่พบงู เป็นที่ปิด เช่น ในห้อง ควรจะปิดประตูไว้ หรือหากะละมังใบใหญ่ปิดไว้ อย่าให้งูเลื้อยออกมาข้างนอก เพราะถ้าปล่อยให้เลื้อยไปเรื่อยในบ้านอาจจะยากต่อการค้นหา

  • โทรแจ้งหน่วยกู้ภัย 199 

โทรแจ้งหน่วยกู้ภัย หมายเลข 199 โทรได้ตลอด 24 ชั่วโมง กรณีถ้าไม่รู้จักงูชนิดนี้ อยากเช็คว่ามีพิษหรือไม่ สามารถถ่ายรูปส่งไปสอบถามที่กรุ๊ปไลน์สายด่วนงูเข้าบ้านได้ ที่ LINE ID: @sde5284v หรือ Scan QR Code ในภาพได้เลย

ถ้าถูกงูกัดขึ้นมา ทำอะไรได้บ้าง

  • ตั้งสติ จดจำสีและรูปร่างของงู 

หลังจากถูกงูกัดแล้ว สิ่งแรกที่ต้องทำเลยคือตั้งสติก่อน บางคนตื่นตระหนก วิ่งเต้นไปมา ยิ่งทำให้พิษงูแพร่กระจายตัวได้มากขึ้น ควรรีบจดจำสีและรูปร่างของงูที่กัดไว้ อาจจะถ่ายรูปไว้ก่อนก็ได้ เพื่อนำข้อมูลไปบอกหมอ 

  • ล้างแผลด้วยน้ำสะอาด

เมื่อถูกงูกัดแล้ว อาการที่จะทำให้แผลทวีความรุนแรงขึ้น นั่นก็คือ ภาวะที่แผลติดเชื้อ เพราะฉะนั้นต้องคำนึงถึงความสะอาดก่อนเป็นอย่างแรก เลือกล้างแผลด้วยน้ำสะอาดห้ามกรีด ตัด ดูด จี้ไฟ หรือพอกยาตรงแผลงูกัด อาจทำให้ติดเชื้อ

  • ขยับจุดที่โดนกัดให้น้อยที่สุด

อาจใช้กระดาษแข็งและผ้าพันไว้ คล้ายกับเวลาปฐมพยาบาลคนแขนหักขาหัก เพื่อป้องกันไม่ให้บริเวณนั้นขยับมากเกินไป และไม่ควรยกแผลสูง ควรให้แผลอยู่ต่ำกว่าระดับหัวใจ เพื่อไม่ให้พิษกระจาย

  • ไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด

ระหว่างเดินทาง หากเจองูมีพิษบางชนิด เช่น งูเห่า งูจงอาง งูสามเหลี่ยม และงูทับสมิงคลา อาจมีอาการเป็นอัมพาตทั้งตัว หรือหยุดหายใจ ให้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้ 

วิธีป้องกันไม่ให้งู แวะมาบ้านบ่อยๆ 

ก่อนอื่นควรทำความเข้าใจก่อนกว่าปกติแล้วน้องงูจะมาหาเราได้ ก็เพราะอาหารกับที่อยู่ที่สงบ ฉะนั้นจึงควรระมัดระวังจุดที่จะงูอยากจะเข้ามาอยู่กับเราได้ เช่น

  • อย่าให้บ้านเราเป็นแหล่งอาหารของงู เช่น หนู ควรทิ้งขยะให้มิดชิด ไม่ให้หนูเข้ามากิน รวมถึงป้องกันและกำจัดหนูในบ้านบ่อยๆ 
  • ถมปิดรอยทรุดใต้บ้าน หรือรอยแตกบริเวณประตูและรั้วบ้านให้หมด
  • ปิดตะแกรงที่ท่อระบายน้ำ อันจะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่ของน้องงู
  • เก็บบ้านให้เป็นระเบียบอยู่เสมอ ไม่กองข้าวของทิ้งไว้นาน ถ้าหากมีปลูกต้นไม้ในบ้านเยอะๆ ควรตัดแต่งกิ่งไม้ที่พาดหรือใกล้ชายคาตัวบ้าน ป้องกันงูเลื้อยเข้าบ้าน

ที่มา : Mahidol, thaihealth, iphonemod

 

Writer Profile : jazz.ordinaryday
Blog : Social Media : Facebook, Twitter
View all post

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save