Idol's Life - Honey Toast ของหวานก็เป็นเมนคอร์สได้ ไอดอลยูนิตแรกจาก CmCafé ที่ทุกคนอยากชิม

Writer : kantapetch

: 18 กันยายน 2562

Honey Toast
ของหวานก็เป็นเมนคอร์สได้ ไอดอลยูนิตแรกจาก CmCafé ที่ทุกคนอยากชิม

Honey Toast คือสาวๆ ยูนิตแรกจาก CmCafé ค่ายไอดอลร้านขนมที่เริ่มทยอยเสิร์ฟเมนูหวานให้กับแฟนคลับได้รับชิม พวกเธอรวมตัวกันหลังผ่านการออดิชั่นของทางค่ายจากที่มาหลากหลายสายงาน ทั้งสายร้อง สายเต้น สายนางแบบ ออกมาเป็นส่วนผสมสมาชิกจำนวน 7 คนหวานมันหอมกลมกล่อมกำลังดี

กันยายน 2018 เมมเบอร์เริ่มฝึกซ้อมอย่างจริงจัง ความท้าทายแรกของพวกเธอคือพื้นฐานที่ไม่เท่ากันหรือไม่มีพื้นฐานเลย แม้แต่ละคนจะมีช่วงอายุที่ค่อนข้างกว้างและอาจทำให้มีเรื่องที่จูนกันติดได้น้อย แต่สิ่งนี้ไม่ทำให้เกิดกำแพงเจนเนอเรชั่น ทั้งหมดยังคุยเรื่องราวตามประสาหญิงสาวได้ทุกเรื่อง Honey Toast ค่อยๆ หลอมรวมเข้าหากันทั้งด้านความสัมพันธ์ การพัฒนาความสามารถ ความเป็นวง จนมีเดบิวต์สเตจเมื่อเมษายนที่ผ่านมา

First Impression ซิงเกิลแรกอย่างเป็นทางการของขนมปังปิ้งน้ำผึ้งไอศกรีม ที่ผสมเอาไว้ทั้งสไตล์ T-Pop, J-Pop, K-Pop ดูสมวัย ฟังได้ทุกยุค ฟังไม่เก่า บอกเล่าเรื่องราวของ “ความประทับใจแรก” ของไอดอลต่อแฟนคลับ และแฟนคลับต่อไอดอล บนจังหวะช้าๆ ที่ยังสามารถขยับเต้นตัวตาม นิยามไว้ว่า dramatic dance เพลงที่พวกเธออยากให้แฟนคลับยิ้มทุกครั้งที่ได้ฟัง และด้วยความที่ยูนิตมีจำนวนสมาชิกที่เป็นเลขคู่ ระบบตำแหน่งและบล็อกกิ้งเลยมักจะได้เห็นภาพของสองเมมเบอร์สลับสับเปลี่ยนเวียนกันมาอยู่ตรงกลางด้านหน้า มากกว่าใครคนใดคนนึงเพียงคนเดียว

แต่ก่อนหน้านั้นสาวๆ ยังมีเพลงพิเศษอย่าง ฉันชอบเธอ เพลงภาษาไทย-จีน ที่มีเอ็มม่าและเฟย์ ร่วมกันร้องในโปรเจควันวาเลนไทน์ แถมเฟย์มีโอกาสแต่งท่อนแร็ปภาษาจีนเองด้วย ตามที่ทางค่ายอยากนำเสนอให้แฟนคลับได้รู้จักพวกเธอผ่านผลงานแต่ละชิ้น ที่จะทยอยปล่อยออกมาต่อไป ไม่ตายตัว ยืดหยุ่นตามสถานการณ์ เพราะ CmCafé ทำงานร่วมกับสมาชิกตามความต้องการของพวกเธอเป็นหลัก นับเป็นจุดเด่นภาพใหญ่ของวงที่ทำให้แฟนๆ เซอไพรส์และคอยลุ้นอยู่ตลอดเวลา

ความหมายร่วมของคำว่า Honey ที่ยังแปลได้ว่า ที่รัก และ น้ำผึ้ง ยังส่งต่อไปถึงยูนิฟอร์มสีเหลืองขาว สีของน้ำผึ้งและไอศกรีม ที่เมมเบอร์ได้สิทธิ์ในการออกแบบชุดด้วยตัวเองตามต้องการ ซึ่งทั้งหมดออกมาลงตัวสอดคล้องเข้ากันให้ผู้ติดตามได้สามารถถ่ายเชกิ ถ่ายรูปกับโพลาลอยด์พร้อมให้เมมเบอร์เซ็นต์ลายเซ็นต์ให้ หรือกรุ๊ปช็อต การถ่ายรูปกับเมมเบอร์หลายๆ คนตามงานอีเว้นท์ที่ไอดอลไป แถมบางงานพวกเธออาจจะแต่งตัวสเปเชี่ยลธีมต่างๆ รออยู่เช่นกัน

ถึงตอนนี้ มุมมองของพวกเธอในวันสัมภาษณ์ จะคิดว่าตัวเองโตขึ้นไวทั้งพัฒนาการส่วนตัวและกระแสตอบรับจากแฟนคลับ แต่สิ่งที่ทั้งหมดโฟกัสคือต้องการทำปัจจุบันให้ดี ซิงเกิลหน้าที่จะต้องทำให้ทุกคนเห็นพัฒนาการ ว่าแตกต่างไปจากซิงเกิลแรกก่อนหน้า การแสดงและท่าเต้นที่ต้องแข็งแรงขึ้นแต่ยังคงไว้ความซึ่งน่ารัก รวมไปถึงการค้นหาตัวเอง การทำให้แฟนๆ ได้รู้จักตัวเองมากขึ้น

ล่าสุด CmCafé เพิ่งมีอีเวนท์ของตัวองแบบยกค่ายทั้ง 3 ยูนิตไป ซึ่งมีกิจกรรมบนสเตจของแต่ละกลุ่ม สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาแสดง และในอนาคตพวกเธอเปรยๆ ไว้ว่า CmCafé อาจจะมีการนำสมาชิกในแต่ละยูนิต มาทำเพลงร่วมกันด้วย

แม้ค่ายจะยังไม่ได้เป็นอาหารจานหลัก แต่ที่ว่ามาทั้งหมดก็ดูน่าสนใจไม่น้อยสำหรับรูปแบบใหม่ๆ ในวงการที่มีริเริ่มเป็นของตัวเอง ตามชื่อไอดอลขนมหวาน CmCafé และยูนิต Honey Toast

ทำไมถึงมาออดิชั่น CmCafe

เฟย์: หนูก่อนเลยคือหนูเป็นคนที่ชอบร้องเพลงมาตั้งแต่แรก ประกวดร้องเพลงมาก่อน เป็นสายประกวดร้องเพลงทั้งคู่ แล้วเราก็รู้สึกว่าเวลาไปคนเดียวมันเหงาๆ เป็นคนขี้กลัวก็เลยบอกให้น้องไปเป็นเพื่อนหน่อย ก็เลยไปเป็นเพื่อนกันตลอด

ฟรีม: พี่เฟย์เขาเป็นคนชอบสายไอดอล ชอบการได้ซ้อม ชอบการได้โชว์ เขาก็ชวนฟรีมไปด้วยกัน จนหนูก็เริ่มชอบด้วย พอได้เข้าวงนี้หนูรู้สึกว่ามันมีความสุข มีความสุขทั้งคนดู ทั้งพ่อทั้งแม่ และทั้งหนู

ประกวดอะไรมาบ้าง

เฟย์: ก็มีตั้งแต่ประกวดเวทีทั่วไป แต่ก็มีได้เข้าไปในค่ายใหญ่ค่ายนึง เราก็ได้เข้าไปเป็นศิลปินฝึกหัด เข้าไปทั้งคู่ ส่วนตัวคนเดียวก็จะเป็นพวกร้องเพลงจีน ติด Top 5 top 10 อะไรประมาณนั้น แต่ไม่เคยชนะเลย (หัวเราะ)

ฟรีม: ส่วนหนูเป็นวงของโรงเรียน ไปในนามโรงเรียนก็ได้ที่ 1 ของประเทศ (ตอบแบบนิ่งๆ)

ทำไมถึงมีภาษาจีนในชีวิตเราด้วย

เฟย์: คือครอบครัวเป็นครอบครัวคนจีนด้วย แล้วคราวนี้พี่สาวก็จะไปเรียนจีน เขาก็เหงาเหมือนกัน เขาก็เอาหนูไปเป็นเพื่อน ช่วงซัมเมอร์ตั้งแต่ประมาณ ม. 1 แต่ก็ไปแล้วก็ได้ภาษากลับมาด้วย

เล่าเรื่องที่เฟย์ติดที่แม่ฟ้าหลวงหน่อย

เฟย์: หนูสอบติดรอบ 4 ที่แม่ฟ้าหลวง ตอนแรกกะบอกม๊าว่าหนูไม่เอาหนูอยากทำงานที่นี่ หนูไม่อยากไป แต่ว่าที่ลงไว้เพราะว่าหนูอยากเรียนวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง พอติดใจนึงก็อยากเรียนอีกใจนึงก็ไม่อยาก แต่ม๊าก็บอกว่าให้ลองไปสอบสัมภาษณ์ดูก่อน แต่พอไปหนูดันชอบบรรยากาศที่นั่นมาก ต้องเป็นการทำงานแบบไปกลับแทน ใน 1 เดือนหนูก็ต้องบินมาเอง 2 ครั้ง เพื่อมาทำงาน 2 ครั้งต่อเดือน ก็อยู่ในช่วงแรกๆ ที่ต้องปรับตัว แต่ที่จริงที่หนูอยากซิ่วมาลองสอบหมออีกทีด้วย

แล้วชีวิตฟรีมเป็นไงบ้างพอมาเป็นไอดอล

ฟรีม: หนูว่ามันยากตรงการจัดตารางซ้อมอะไรพวกนี้ เพราะว่าหนูต้องไปแข่งร้องเพลงวงโรงเรียน มาซ้อมวง ออกงานอีเวนท์ การโปรโมท มันยากมากตรงนี้

หวังอะไรจากการเป็นไอดอล

เฟย์: มันตั้งแต่หนูเริ่มประกวด พอประกวดเสร็จ หนูก็ไม่เคยชนะที่ 1 ที่ 2 เลย แต่พอได้มาอยู่ในวงการไอดอลจริงๆ รู้สึกว่า หนูทำตรงนี้ได้แล้ว หนูได้เป็นแล้วจริงๆ มันไม่ต้องไปไหนต่อก็ได้แค่ตรงนี้ก็โอเคแล้ว

ฟรีม: สำหรับหนูอยากเป็นนักร้องค่ะ ก็อยากพัฒนาเรื่องร้องให้มันเด่นไปเลย

เฟย์: ดีค่ะ ก็เป็นนักร้องคู่กันเหมือนเดิมจะได้ไม่เหงา (หัวเราะ)

อีก 10 ปีคิดว่าตัวเองเป็นยังไงบ้าง

เฟย์: ในความฝันหนูเลยหนูอยากเป็นหมอ หนูคิดไว้เลยว่าพอเรียน 6 ปีเสร็จ หนูก็เรียนเฉพาะทางต่อ แล้วก็เรียนต่อเป็นอาจารย์อย่างนั้นเลยค่ะ แต่ว่าถ้าถามว่าหนูเรียนเก่งไหมหนูก็ไม่ได้เรียนเก่งนะ หนูแค่เป็นคนมีความพยายามมากกว่า ปีที่แล้วหนูยังแบ่งเวลาได้ไม่ดีเพราะว่าหนูเพิ่งเข้าวงการใหม่ๆ เสียใจมาก มันแอบเสียเวลา พอมันเริ่มลงตัวเริ่มปรับตัวได้ หนูก็เลยบอกกับตัวเองว่าปีนี้ต้องเอาใหม่ ต้องทำให้ได้

ฟรีม: อีก 10 ปีหนูคิดว่าจะนั่งร้องเพลงอยู่ค่ะ ก็หนูอยากเป็นนักร้องจะให้หนูทำอะไร หนูอยากไปออกอีเวนท์ต่างๆ และหนูก็อยากเป็นนักแสดงด้วยนะ ทุกคนจะเจอหนูอยู่ในทีวีอีก 10 ปีข้างหน้า

วงการไอดอลจะเป็นยังไงบ้าง

เฟย์: มันตอบแทนเขาไม่ได้ หนูยังไม่แน่ใจว่าวงการไอดอลมันจะอยู่นานขนาดนั้นไหม

ฟรีม: แต่สิ่งที่อยู่แน่ๆ คือเพลงของพวกเรา จะอยู่ไปอีกนานๆ เลยค่ะ

ทำอะไรกันมาก่อนจะเป็นไอดอล

อะตอม: ก็จะมีเต้นโคฟเวอร์ แล้วก็เคยไปออดิชั่นวงที่ทุกคนรู้มา
อเล็กซิส: อย่างหนูก็มีเรียนแล้วก็ (นึก) ยังเรียนอยู่ค่ะ ก็มีออดิชั่นวงนั้นมาเหมือนกัน

ทั้งสองคนที่ไม่ได้รับเลือกตอนออดิชั่นครั้งก่อน ทำไมถึงยังตามความฝันอยู่

อเล็กซิส: ก็เราไม่ท้อนี่ ก็เลยมาทำต่อเลย
อะตอม: ของหนูออดิชั่นครั้งก่อนคือออดิชั่นครั้งแรกในชีวิตเลยค่ะ ไม่เคยออดิชั่นอะไรแบบนี้เลย แต่ว่าชอบร้องชอบเต้นอยู่แล้ว ครั้งนั้นไม่ติดก็มาที่นี่ เลยแล้วก็ได้มาเจอน้อง ก็เม้าท์มอยกัน

ชีวิตไอดอลเป็นยังไงบ้าง

อะตอม: ก็รู้สึกว่าเวลาทำอะไรก็ต้องคิดหน้าคิดหลังมากขึ้น เมื่อก่อนเราก็เป็นแค่เด็กธรรมดาไม่ได้มีใครมาสนใจเราว่าวันนี้เราทำอะไร พอมาอยู่ตรงจุดนี้เหมือนเราต้องแชร์เรื่องส่วนตัวของเราให้เขารับรู้บ้างว่าวันนี้เราออกมากินข้าวกับที่บ้านนะวันนี้เรามีซ้อมเต้นนะ เราไม่ได้หายไปนะ หายไปเดี๋ยวเขาคิดว่าป่วย มันต้องเปิดโลกส่วนตัวของตัวเองมากขึ้น ตอนนี้ก็รู้สึกว่าแฟนคลับเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราไปแล้ว เขาเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้เรามาอยู่ตรงนี้ด้วย

อเล็กซิส: ของหนูที่เพิ่มเติมขึ้นมาคือเรื่องความรับผิดชอบที่มากขึ้น อย่างตอนนี้ก็เพิ่งขึ้นปี 1 เรื่องเรียน เรื่องซ้อม เรื่องออกงานก็ต้องจัดการเวลาให้ดีเลย

คิดว่าอีก 10 ปีข้างหน้าตัวเองจะทำอะไรอยู่

อะตอม: สำหรับหนู หนูก็ไม่แน่ใจหรอก ว่าเราจะอยู่ตรงนี้ได้อีกกี่ปี สมมติว่าวันหนึ่งหนูไม่ได้เป็นไอดอลแล้ว หนูก็ว่าหนูยังชอบในการที่ทำให้คนอื่นมีความสุขอยู่นะ แต่ว่าเราก็ต้องมีทางเดินของเราต่อ หนูอยากเป็นนักธุรกิจด้วย อยากมีธุรกิจเล็กๆ เป็นของตัวเอง ไม่ร้านอาหารก็คงร้านขนมเพราะเราชอบกิน

อเล็กซิส: (นึก) ก็หนูยังเด็กอ่ะค่ะ เหมือนเป็นข้ออ้างหรือเปล่า 10 ปีข้างหน้ายังไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ตอนนี้ก็มีความหวังความฝันเยอะมากๆ ถ้ายังอยู่ตรงนี้อยู่ก็มีความฝันสำหรับตรงนี้ แต่ถ้าให้ไปคิดอีกเรื่องก็คงมีความฝันเกี่ยวกับเรื่องนั้นเหมือนกัน ถ้าตรงนี้มันไปได้ไกลๆ ก็คงมีความฝันแบบเด็กๆ ว่าอยากมีคอนเสิร์ตระดับ Impact Arena ยิ่งใหญ่มาก คนเต็มฮอล โอ้มายก็อด หรือไปต่างประเทศโกอินเตอร์ไปเลย

ต่อไปวงการไอดอลจะเป็นยังไงบ้าง

อะตอม: หนูว่ามันอาจจะหลากหลายขึ้น ช่วงนี้มันอาจจะมีแค่ไอดอลญี่ปุ่นไอดอลเกาหลี คนไทยก็ไม่ได้คุ้นชินกับอะไรพวกนี้เลย ตอนนี้มันเข้ามาอยู่ในไทยแล้ว ไอดอลญี่ปุ่นที่เป็นคนไทยเลย หนูก็ว่ามันน่าจะเติบโตไปได้เรื่อยๆ

อเล็กซิส: อีกอย่างที่คิดคือไม่อยากให้คนคิดว่าเดี๋ยวมันก็ซาไป ก็ทำตอนนี้ให้มันเริ่ดไปเลยค่ะ จะได้ไปได้ไกล

 

ป.ล.สัมภาษณ์ตั้งแต่ตอนที่ เดวา ยังเป็นสมาชิกวง จึงมีเดวาอยู่ในรูปถ่ายรวมและคลิป 20 Seconds Challenge

Writer Profile : kantapetch
หมาผู้พยายามน่ารักเท่าโลก
Blog : Social Media : Facebook, Twitter
View all post

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save