พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์กลายเป็นอาชีพยอดนิยมของคนยุคนี้ ซึ่งบางคนก็ลาออกจากงานมาขายของออนไลน์เลย ขณะที่บางคนก็ทำงานประจำไปด้วย ขายของออนไลน์ไปด้วยแบ่งเวลาเป็นชีวิตก็มีความสุข แต่…เมื่อมีร้านค้าเยอะ ร้านค้าออนไลน์ก็ต้องหาทางทำอย่างไรก็ได้ให้ลูกค้าเจอร้านเรา เชื่อถือร้านของเรา และตัดสินใจซื้อของกับเรา และวิธีการที่จะทำให้พ่อแค้าแม่ค้าเข้าถึงลูกค้าบนโลกออนไลน์ได้มีหลายช่องทาง รวมถึงการใช้ LINE@ เพราะตอนนี้คนไทยใช้ LINE 44 ล้านคน นั่นแปลว่าลูกค้าจำนวนมหาศาลอยู่บนนี้ และช่องทางที่จะให้ลูกค้าเจอเราก็คือใช้ LINE@ แต่ LINE@ เฉยๆ นั้นแม้จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าทุกคน แต่ถ้าเสียเงินเพิ่มอีกนิดแค่เดือนละ 13 บาท หรือแค่ 200 บาท / ปี แล้วอัปเกรดมาเป็น LINE@ Premium ID ก็อาจทำให้ร้านของคุณใน LINE@ มียอดขายเพิ่มขึ้นได้ ด้วยเหตุผลต่อไปนี้ ตั้ง ID ได้เองเพื่อค้นหาได้ง่าย โดยปกติแล้วใครที่เคยใช้ LINE@ จะรู้ดีว่าหากสมัคร LINE@ แบบฟรี ผู้ใช้จะไม่สามารถตั้งชื่อ ID ได้ แต่ ID ที่ได้มาจากการสมัคร LINE@ แบบฟรีจะเป็น ID แบบสุ่มเช่น@kqo5871p ซึ่งไม่สามารถปรับให้ตรงกับชื่อ Display Name ที่เราอยากจะตั้งได้ เวลาให้ลูกค้าค้นหาร้านก็มีความยุ่งยากในระดับหนึ่ง เพราะ LINE@ ค้นหาชื่อร้านจาก ID ไม่ใช่ Display Name ทำให้หลายคนรู้สึกว่ายุ่งยากจังไม่แอดเลยนะไปร้านอื่นดีกว่า บัยยยยยย แต่ถ้าเราสมัคร LINE@ Premium ID เราจะสามารถกำหนด ID ให้ตรงกับชื่อร้านได้แล้ว เมื่อลูกค้าจะค้นหาชื่อร้านเราจาก LINE@ Premium ID ก็แค่พิมพ์ชื่อร้านในช่องค้นหาทีเดียวเจอเลย ลูกค้าก็ไม่หนีไปไหน และง่ายในการที่จะเข้ามาเพื่อรับข่าวสารจากทางร้านของเรา ID ช่วยสร้างแบรนด์ให้น่าเชื่อถือ ชื่อของร้านก็คือแบรนด์ เราควรสร้างแบรนด์ให้น่าจดจำ น่าเชื่อถือ ซึ่งความสำคัญของการสร้างความน่าเชื่อถือด้วยชื่อ ID ใน LINE@ นั้นก็เป็นการสร้างแบรนด์บนช่องทาง LINE@ ให้แข็งแรงอีกวิธีที่ไม่ควรมองห้าม ยกตัวอย่างเช่นกรณีที่ LINE@ มีร้านค้าที่ชื่อ Display Name คล้ายกัน ขายของในลักษณะที่เหมือนกัน ราคาก็เท่ากันอีกในกรณีนี้ชื่อของร้านถือเป็นจุดตัดสินใจหลักของลูกค้าเลยว่าเขาจะเชื่อถือร้านไหน ระหว่างร้าน A ที่ Display Name ตรงกับ ID เลย กับร้าน B ที่ Display Name กับชื่อ ID ไม่ตรงกัน ยิ่งในกรณีที่ขายสินค้าที่มีความเฉพาะ ชนิดที่ว่าร้านคุณมีขายแค่ร้านเดียว ร้านอื่นเป็นของปลอม หรือของเลียนแบบ การสร้างความน่าเชื่อถือให้ร้านผ่านชื่อร้านอันเปรียบเสมือนแบรนด์ยิ่งไม่ควรพลาด ดังนั้นอย่าคิดว่า ชื่อ ID ไม่ตรงกับชื่อร้านก็ไม่เห็นเป็นปัญหาเลย แต่จริงๆ ส่งผลต่อความเชื่อถืออย่างมาก และยังส่งผลไปถึงยอดขายในอนาคตด้วย ลูกค้าบอกต่อชื่อ ID ร้านได้ง่าย ในหลายๆ ครั้ง Word of Mouth ยังคงมีผลต่อการทำธุรกิจเสมอ และแน่นอนว่าถ้าลูกค้าถูกใจสินค้าของร้านเรา ถึงขั้นเป็นลูกค้าขาประจำโอกาสที่เขาจะบอกต่อหรือแนะนำเพื่อนๆ ให้มาอุดหนุนร้านเราก็มีสูงมาก กรณีนี้ถ้าเราใช้ LINE@ Premium ID การบอกต่อไปยังบุคคลอื่นก็จะง่ายมากกว่า แต่ถ้าคุณยังใช้แบบฟรี คงไม่มีว่าที่ลูกค้าคนไหนยอมนั่งพิมพ์เพื่อคนหาให้เสียเวลา และอารมณ์แน่นอน เพราะพฤติกรรมลูกค้ายุคนี้คือต้องง่าย ต้องเร็ว ต้องไม่วุ่นวาย วางแผนงบประชาสัมพันธ์ต่อยอดได้ง่าย การขายของบนโลกออนไลน์ ถ้าไม่เพิ่มเงินในการทำการตลาดเลยก็คงไม่ได้ซึ่งงบประมาณในการลงไปกับการโฆษณาจะสูงหรือต่ำก็แล้วแต่แผนการตลาดของร้านค้า แต่ถ้าเราใช้ LINE@ Premium ID โอกาสที่จะช่วยเราประหยัดงบการตลาดออนไลน์ก็มีมากขึ้นเพราะนอกจากจะลงทุนถูกแล้วสิ่งที่เราลงทุนไปก็คุ้มค่ามากๆ เนื่องจากมีโอกาสสูงที่ลูกค้าจำเราได้ และเข้าถึงร้านเรามากขึ้นผ่านช่องทาง LINE@ Premium ID เมื่อมีลูกค้าเพิ่มขึ้น ก็ทำให้เราสามารถนำงบในการทำตลาดบนออนไลน์ช่องทางอื่น เอามาบริหารงานในส่วนอื่นได้ หรือซื้อแพคเก็จของ LINE@ เพิ่มเติมในการโปรโมทสินค้าบนไทม์ไลน์ สร้างคูปอง หรือส่งข่าวโปรโมชั่นได้มากขึ้น ยอดขายก็จะพุ่งขึ้นด้วยเพียงเริ่มต้นลงทุนจากเปลี่ยนไปใช้ LINE@ Premium ID ไม่ต้องตอบคำถามเดิมว่า ID ร้านชื่ออะไร เราเชื่อว่าร้านค้าทุกคนต้องเคยเจอปัญหาลูกค้าถามว่า “ชื่อร้านพี่สะกดยังไงคะ” อยู่บ่อยๆ ซึ่งตอนที่ยังไม่ได้ใช้ LINE@ Premium ID พ่อค้าแม่ค้าก็ต้องเสียเวลาในการก็อปปี้ชื่อ ID (ที่สะกดยากและซับซ้อนนั่นแหละ) ไปแปะไว้ในสื่อโฆษณาของร้านเพื่อให้ลูกค้าแอด LINE@ เข้ามาสอบถาม หรือรับโปรโมทชั่นของร้านเราทาง LINE@ แต่แน่นอนว่าต้องมีลูกค้าหลายคนที่โทรมาถาม หรือส่ง inbox มาถามในช่องทางอื่นว่า LINE@ ร้านพี่เข้ายังไง วนลูปซ้ำเดิมหลายต่อหลายรอบ ทำให้ไม่สามารถโฟกัสกับการขายสินค้าได้ เพราะร้านก็ต้องดู โทรศัพท์ก็ต้องคุย แชทก็ต้องตอบ แต่หากเรามีชื่อร้านที่ค้นหาได้ง่ายๆ ใน LINE@ เราจะไม่เสียเวลาในการตอบคำถามนี้ เพราะลูกค้าแค่พิมพ์ชื่อร้านใน LINE ปุ๊บ เจอเลย โห้ววว เวรี่ดี เหลือเวลาในการค้าขายได้อีกเยอะ แม้จะเหมือนว่าเป็นปัญหาเล็กน้อย ไม่เสียเวลาเท่าไหร่ แต่การจ่ายเงิน 13 บาท หรือ 200 บาท ต่อปี แล้วได้เวลาคืนมาอีกสักนิด แต่เวลานิดหน่อยตรงนั้นอาจไปสร้างประโยชน์ได้มากกว่านั่งตอบคำถามเดิมๆ เลยล่ะ ดูรายละเอียดเกี่ยวกับLINE@ Premium ID ได้ที่ https://lin.ee/XqHuu7