“ไม่ได้เล่ห์ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้มนต์ก็เอาด้วยคาถา” อาจฟังดูเว่อร์แต่ก็ไม่ได้เกินจริงไปนักในยุคนี้ เมื่อการพยายามสุดความสามารถของตัวเองนั้นยังไม่พอ การพึ่งพาสิ่งที่มองไม่เห็นจึงเป็นอีกหนึ่งทางที่ได้รับความนิยมไม่น้อย ในปี 2019 จึงมีคำศัพท์ที่เรียกว่า “มูเตลู” ให้ได้ยินกันอยู่บ่อยครั้ง สิ่งนี้คืออะไร สำคัญขนาดไหน Mango Zero จะพาทุกคนไปดูกัน ทั้งที้ทั้งนั้นต้องขอบอกก่อนว่า โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะจ้ะ ที่มาของมูเตลู ได้ยินคำนี้ครั้งแรกอาจคิดว่าเป็นภาษาอะไรสักอย่าง ที่จริงแล้วคำว่า “มูเตลู” เป็นชื่อของภาพยนตร์เรื่องหนึ่งจากประเทศอินโดนีเซียที่เคยฉายเมื่อประมาณ 20 กว่าปีที่แล้ว เป็นเรื่องราวการต่อสู้ของผู้หญิงสองคนด้วยมนต์ดำเพื่อแย่งชิงคนรักกัน ต่อมาในไทย ได้มีรายการ “มูไนท์” ทำให้คำนี้กลับมาผ่านหูให้เราคุ้นเคยกันมากขึ้น แต่ไม่ได้หมายถึงมนต์ดำอีกต่อไป กลับเน้นไปทางสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ซึ่งเป็นด้านบวกมากกว่า คนไทยจึงเรียกเครื่องรางของขลังต่างๆ ว่าสิ่งของมูเตลูนั่นเอง ประเภทของมูเตลู เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป เครื่องรางและของศักดิ์สิทธ์ก็มีหลากหลายมากขึ้น ทั้งที่เป็นของดั้งเดิม และความเชื่อใหม่ แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคน ตะกรุด ประเดิมกันด้วยเครื่องรางคู่บ้านคู่เมืองไทย ก็คือตะกรุดนั่นเอง มีลักษณะเป็นกระบอกเล็กๆ ความยาวแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับการปลุกเสกของแต่ละที่ เชื่อว่าช่วยในเรื่องของความปลอดภัย และเมตตามหานิยม การค้าขายต่างๆ ปัจจุบันได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะเหล่าดารานักร้องคนดังเช่าบูชากันจนฮิตติดกระแส และมีการปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นสร้อยคอและสร้อยข้อมือที่มีความเป็นแฟชันสวยงามมากขึ้น ราคาก็เริ่มต้นที่หลักเกือบพัน ไปจนถึงหลักเกือบล้านก็มี หินนำโชค เป็นเครื่องรางที่ไม่เหมือนสายมูอื่นๆ เพราะเชื่อว่ามีอำนาจด้วยตัวเอง จากแหล่งกำเนิดของหินโดยไม่ต้องผ่านการปลุกเสกแต่อย่างใด หินแต่ละชนิดมีความหมายแตกต่างกันไป เรียกได้ว่าช่วยได้ครอบคลุมเกือบทุกเรื่อง เช่น ไหมทอง ช่วยในเรื่องการเงิน หรือไทเกอร์ อาย ที่ช่วยปกป้องคุ้มครอง และทำให้มีสมาธิ ราคาเริ่มที่หลักร้อย ไปจนถึงหลักหมื่น แล้วแต่ความหายากของหิน นอกจากนั้น ยังมีความเชื่อเกี่ยวกับวิธีดูแลหินนำโชคเพื่อเพิ่มพลังให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นยังสามารถทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการเอาไปอาบแสงจันทร์ ล้างแบบให้น้ำสะอาดไหลผ่านไปเรื่อยๆ หรือแช่น้ำเกลือ เครื่องรางญี่ปุ่น ข้ามฝั่งไปยังต่างประเทศกันบ้าง นอกจากขนมชิโร่ยโคอิบิโตะ “เครื่องราง” ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งยอดนิยมที่คนไทยฝากซื้อจากญี่ปุ่น ด้วยรูปทรงขนาดเล็กพอดี สามารถห้อยพกพาติดกระเป๋าได้ และยังมีรีวิวถึงความแม่นอยู่เนืองๆ ทั้งยังแบ่งประเภทของแต่ละเรื่อง ทำให้ได้รับความนิยมอย่างไม่ตกยุค ซึ่งวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องเครื่องรางมาตลอดก็คือ วัดอาซากุสะ นั่นเอง สำหรับราคาก็กำลังน่ารัก มีหลากหลาย แต่ไม่ถึงพัน ความยากของเครื่องรางญี่ปุ่นมีเพียงนิดเดียวเท่านั้น คือความเชื่อที่ว่า หลังจากใช้ไปแล้วหนึ่งปี ต้องนำเครื่องรางไปคืนยังที่ที่เอามา ไม่อย่างนั้นจะเปลี่ยนจากเรื่องดีเป็นเรื่องร้าย เพราะเครื่องรางหมดอายุแล้วนั่นเอง ด้ายแดง ไต้หวันเขาก็ไม่ยอมน้อยหน้า ส่ง”ด้ายแดง” เข้าประกวด เป็นเครื่องรางจากวัดหลงซาน ขึ้นชื่อเรื่องความรักที่การันตีด้วยรีวิวนับสิบเช่นเดียวกัน หากจะให้ได้ความขลังสูงสุด ควรไปขอด้วยตัวเองที่วัด เพราะมีวิธีการพันด้ายค่อนข้างซับซ้อน แต่ถ้าไปไม่ได้จริงๆ การฝากซื้อก็ยังพอได้อยู่ ราคาไม่แพงมาก เริ่มต้นที่หลักร้อยกว่าๆ กังหัน วัดแชกงหมิว หากมีโอกาสได้ไปฮ่องกง ต้องไม่พลาดที่จะเช่ากังหันจากวัดกงแชหมิว ที่มีใบพัด 4 ใบ มีความเชื่อว่าจะช่วยพัดเพื่อดึงดูดสิ่งที่ดีเข้ามาในชีวิต ได้แก่ เรื่องเดินทางปลอดภัย สุขภาพแข็งแรง โชคลาภเงินทอง และสมพรปรารถนาหรือหากอยากอัพเกรด ก็สามารถเพิ่มเป็นแปดใบพัดได้ ราคาเริ่มที่หลักร้อยปลายๆ เรียกได้ว่าเป็นยุครุ่งเรืองของสายมูเตลู ในปี 2019 ที่ผ่านมา ก่อนจะค่อยๆ ซาลง และทรงตัวเรื่อยๆ มาจนถึงปัจจุบัน การทำในสิ่งที่ตัวเองเชื่อเป็นเรื่องที่ดี หากสิ่งนั้นจะช่วยให้มีความมั่นใจในการใช้ชีวิตมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม อย่าลืมมีวิจารณญาณและสติทุกครั้งก่อนทำอะไร และไม่ควรพึ่งเครื่องรางหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากจนเกินไป เพราะสิ่งแรกที่เราควรศรัทธาและไว้ใจ คือตัวเอง ที่มา : MuteluThailand
