หลังจากที่บอร์ด อีวี ได้ออกมาเผยว่าในอีก 14 ปีข้างหน้าไทยจะก้าวเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำที่จะมีแต่คนใช้รถ EV หลายคนก็แอบดีใจเลยล่ะสิว่าอีกแค่ 14 ปีเองหรอมันจะเร็วอะไรนั้นนนนน!! (แหะๆ) แต่เอาเถอะ ก่อนที่จะถึงเวลานั้นเรามาเตรียมตัวด้วยการทำความรู้จัก ‘รถยนต์ไฟฟ้า’ กันก่อนดีกว่า จะได้เข้าใจถูกสักทีว่ารถ EV นั้นมันเจ๋งแค่ไหน สำหรับใครรู้แล้วว่ารถ EV มันเจ๋งแค่ไหน ก็คอมเมนต์มาบอกกันเลยยย.. รถยนต์ไฟฟ้า..คืออะไร ? เราจะมาเริ่มด้วยคำถามแบบง่ายๆ เลย “รถยนต์ไฟฟ้า คือไรคะพี่?” อะ ขอตอบแบบง่ายๆ เลยนะ เจ้ารถยนต์ไฟฟ้าที่เราจะพูดถึงเนี่ย หรือที่หลายคนเรียกกันว่า EV (Electric Vehicle) มันก็คือรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าขับเคลื่อนจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียว ซึ่งจริงๆ แล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร เพราะรถที่เราเห็นกันบ่อยๆ อย่างรถกอล์ฟ รถรางไฟฟ้าในสวนสัตว์หรือในห้างฯ อะไรพวกนั้นมันก็คือรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดเลย โดยจุดเด่นของมันที่นับว่าเป็นความดีงามต่อโลกเลยก็คือการที่ไม่ปล่อยของเสียออกมา ซึ่งต่างจากรถยนต์น้ำมันที่ปล่อยควันเป็นมลพิษ อย่างไรก็ดีด้วยเหตุผลต่างๆ ทำให้ในอดีตคนไม่นิยมใช้มากนัก แต่ในตอนหลังได้มีการพัฒนาสมรรถนะให้ปังขึ้นกว่าเดิม บวกกับราคาที่ต่ำลง (ราคาที่ไม่บวกภาษีในไทยอ่านะ) และเทรนด์ที่ใครๆก็หันมารักโลก รถยนต์ไฟฟ้าจึงกลับมาเป็นที่น่าสนใจอีกครั้งในยุคนี้ ชาร์จยังไง ชาร์จช้าไหม ? ปกติแล้วขับรถต้องไปเติมน้ำมัน แต่สำหรับเจ้านี่ต้องไปชาร์จแบตจ้า ซึ่งในการชาร์จรถ EV ก็จะแบ่งได้เป็น 3 แบบหลักๆ ได้แก่.. Normal Charge – ชาร์จธรรมดา ระยะเวลาชาร์จ : 12-15 hr การชาร์จวิธีนี้จะเป็นการชาร์จไฟฟ้าที่บ้านโดยต่อจากเต้ารับภายในบ้านโดยตรงซึ่งต้องเป็นเต้ารับเฉพาะการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งวิธีนี้จะเป็นทางเลือกที่ใช้เวลาชาร์จนานสุดในบรรดาทั้งหมด จึงเหมาะกับการชาร์จไว้ที่บ้านตอนกลางคืน เช้ามาก็จะได้แบตเต็มพร้อมใช้งานพอดี Double Speed Charge – ชาร์จไวไว ระยะเวลาชาร์จ : 4-7 hr เป็นการชาร์จจาก Wall Box ซึ่งเราจะเคยเห็นในรูปแบบตู้ชาร์จติดผนังบ้านหรือตามห้างสรรพสินค้า โดยการชาร์จแบบนี้ก็จะสามารถชาร์จได้เร็วขึ้นกว่าแบบแรกถึงเท่าตัวเลยทีเดียว Quick Charge – ชาร์จด่วนเวอร์ ระยะเวลาชาร์จ : 40-60 min การชาร์จทางเลือกนี้เป็นวิธีที่เร็วสุด เป็นการชาร์จไฟฟ้าด้วยไฟฟ้ากระแสตรง สามารถชาร์จได้ตามปั๊มน้ำมัน หรือสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ที่เขาจะมีหัวชาร์จแบบพิเศษ ซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า จาก 0% ไปจนถึง 80% ในเวลาแค่ 40-60 นาทีเท่านั้น เร็วสุดๆ ไปเลย เหมาะมากกับสถานการณ์เร่งด่วนที่ต้องการความรวดเร็วในการชาร์จ ชาร์จ 1 ครั้งต้องจ่ายเท่าไหร่ ? ส่วนค่าบริการนั้นจะถูกจะแพงก็ขึ้นอยู่กับความจุแบตเตอรี่และสถานที่ให้บริการ ถ้าอย่างรถมีแบตความจุอยู่ที่ 72 kW ไปชาร์จในสถานีชาร์จค่าบริการ 3 บาทต่อหน่วย ชาร์จจนเต็มก็จะประมาณ 216 บาทเท่านั้นเอง ถ้าอยากได้ที่ราคาถูกทางเลือกหนึ่งก็คือชาร์จที่บ้านในส่วนของราคาก็คูณตามค่าไฟบ้านได้เลย แต่ถ้าต้องเดินทางไกล อาจต้องเลือกสถานีชาร์จที่กระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 1000+ แห่ง ซึ่งอนาคตเชื่อว่าจะมีเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ จนเหมือนปั้มน้ำมันในปัจจุบันแน่นอนนน วิ่งได้ไกลแค่หน้าซอยหรือเปล่า? ก็ต้องขอเกริ่นก่อนเลยว่าตามมาตรฐานของหน่วยงานอเมริกาเขาบอกว่าแบต 1 kWh จะใช้ขับไปได้ 4 ไมล์ หรือประมาณ 6.4 กิโลเมตร ซึ่งนั่นหมายความว่าถ้าเราขับรถ EV แบตความจุ 72 kWh ก็จะเท่ากับว่าเราจะขับไปได้ไกลถึง 460 กิโลเมตร/การชาร์จ 1 ครั้ง เฉลี่ยแล้ว 1 กิโลเมตร/ 2 บาท (กรณีค่าบริการชาร์จ 3 บาทต่อหน่วย) ถ้าพูดให้นึกภาพออกง่ายๆ ก็คือเราสามารถใช้ขับไปกลับกรุงเทพฯ–พัทยาได้สบายๆเลยล่ะ *แต่ว่านี่ก็เป็นเพียงการประมาณการเท่านั้นนะ เพราะการใช้งานจริงอาจมีปัจจัยเรื่องความเร็วรถ เปิดแอร์ การใช้เครื่องเสียงเข้ามาเพิ่ม ซึ่งมันก็จะมีผลกับการใช้แบตเตอรี่ด้วย ช้าเหมือนเต่าไหม ? ตอบเลยว่า มันก็ขึ้นอยู่กับว่าเป็นรถยนต์ EV รุ่นไหน อย่างของ Tesla Model 3 ก็สามารถทำอัตราเร่ง 0-96 กม. ภายใน 5.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 225 กม./ชม. จะเอาอะไรมาบอกว่าช้าคะ หรือรุ่นเล็กๆ ที่ลอยน้ำได้อย่าง FOMM ONE ก็สามารถวิ่งได้เร็วสูงสุดถึง 80 กม./ชม. เลยทีเดียว แต่ว่าความเร็วเท่าไหนจะเหมาะกับใครคงต้องลองหาข้อมูลเพิ่มเติมกันดูนะ ที่มา Matichon, Masii, Krungsri, Motortrivia